ขุนนางใหญ่ถึงฆาต ขาขาดถึงสะโพก! เหตุสลดคราวชักพระพุทธรูปไปวัดราชนัดดาราม

โลหะปราสาท วัดราชนัดดารามวรวิหาร พระเศรษฐตมมุนี เจ้าพระยามยมราช บุนนาค ตะเฆ่ทับ
ภาพประกอบเนื้อหา - โลหะปราสาท วัดราชนัดดารามวรวิหาร (ภาพจาก Photograph album of Siam, 1865-1866 : Division of Rare and Manuscript Collections, Cornell University)

พระพุทธรูปองค์งามนาม “พระเศรษฐตมมุนี” พระประธานประจำอุโบสถวัดราชนัดดารามวรวิหาร นับว่ามีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา เพราะการชักลากพระพุทธรูปองค์นี้มายังพระอุโบสถได้คร่าชีวิตขุนนางใหญ่สมัยรัชกาลที่ 3 มาแล้ว!

พระพุทธรูปดังกล่าวมีอีกชื่อว่า พระพุทธเสฏฐุตตมมุนินทร์ อ่านว่า (พระ-พุท-ธะ-เสฏ-ฐุต-ตะ-มะ-มุ-นิน) เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 7 ศอก ศิลปะรัตนโกสินทร์ หล่อด้วยทองแดงทั้งองค์ สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3)

การสร้างพระพุทธรูปมีเรื่องปรากฏอยู่ว่า รัชกาลที่ 3 โปรดให้ขุดแร่ทองแดงที่อำเภอจันทึก แขวงจังหวัดนครราชสีมา ได้แร่ถลุงเป็นเนื้อทองแดงจำนวนมาก จึงมีพระราชประสงค์ให้ใช้ทองแดงที่ได้ก่อประโยชน์เกื้อกูลพระศาสนาเป็นลำดับแรก คือให้หล่อพระพุทธรูปสำหรับเป็นพระประธานของวัดราชนัดดารามซึ่งเพิ่งสร้างใหม่

พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ณ ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์
พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ณ ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์

ทองแดงส่วนหนึ่งจึงถูกหล่อเป็นพระเศรษฐตมมุนี และเมื่อโปรดให้ชักพระไปยังพระอุโบสถวัด ได้เกิดเหตุสลดที่ทำให้เจ้าพระยายมราช (บุนนาค) ถึงแก่อสัญกรรมอย่างน่าสยดสยอง

เรื่องเศร้าคราวชัก “พระเศรษฐตมมุนี”

พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชชกาลที่ 3 เล่าว่า ในเดือนอ้าย แรมค่ำ 1 (4 ธันวาคม) ปีมะเมีย พ.ศ. 2389 รัชกาลที่ 3 โปรดให้ป่าวร้องบอกบุญราษฎรมาช่วยกันชักลากองค์พระ ราษฎรก็แห่แหนออกมาเป็นอันมาก ช่วยกันผูกสายชักเชือก 4 เส้น

วันนั้น เจ้าพระยายมราช (บุนนาค) เสนาบดีกรมเมือง (เดิมคือพระยาอภัยรณฤทธิ์) ได้เข้าช่วยเป็นผู้บัญชาการชักลาก โดยท่านขึ้นไปอยู่บนตะเฆ่ที่ใช้ชักลากองค์พระ กับนายงานตำรวจและทนาย (มหาดเล็ก) อีก 2 คน

พงศาวดารบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้ว่า

“…ชักพระไปทางถนนเสาชิงช้า ถึงที่จะเลี้ยวออกถนนกำแพงใหญ่ ที่นั้นต้องหยุดคัดตะเฆ่เลี้ยวออกให้พ้นที่คู เจ้าพระยายมราชลงมาจากตะเฆ่ดูให้นายงานทำการอยู่ พอพระออกมาถึงถนนใหญ่ได้แล้ว เจ้าพระยายมราชยังดูผูกเชือกอยู่ ยังมิทันจะแล้ว ราษฎรเห็นพระออกมาตรงถนนแล้วได้ยินเสียงม้าล่อก็สำคัญว่าให้ลาก ก็ลากขึ้นพร้อมกัน

ตะเฆ่นั้นมาโดยเร็ว เจ้าพระยายมราชมิทันจะกระโดดขึ้นตะเฆ่ ด้วยชะราถึง ๗๐ ปีเศษแล้ว ไม่ว่องไว ได้ยินเสียงเขาโห่เกรียวขึ้นก็วิ่งหลบออกมาข้างถนน พอตะเฆ่มาถึงตัวสะดุดเอาล้มลง ตะเฆ่ก็ทับต้นขาขาดข้าง ๑ เพียงตะโพก ทนาย ๒ คนเข้าช่วย ตะเฆ่ก็ทับเอาทนาย ๒ คนนั้นด้วย ตายในที่นั้นเจ้าพระยายมราช ๑ กับทนาย ๑ ทนายอีกคน ๑ นั้นไปถึงบ้านอยู่ได้เดือนเศษจึ่งตาย

พวกนายงานทั้งปวงไม่มีใครเป็นอันตราย กระโดดขึ้นตะเฆ่ได้ทันที กว่าจะห้ามกันหยุดก็ช้านาน ต่อพระพ้นศพไปแล้วจึ่งหยุด”

พระเศรษฐตมมุนี
พระเศรษฐตมมุนี วัดราชนัดดารามวรวิหาร (ภาพจาก หนังสือ ๑๐๘ องค์พระปฏิมา พระพุทธรูปคู่แผ่นดิน, กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม, 2560)

เรื่องราววันนั้นทำให้เจ้าพระยายมราชท่านนี้ ถูกเรียกในอีกชื่อว่า บุนนาค ตะเฆ่ทับ และท่านยังเป็นต้นสกุล ยมนาค ด้วย โดยเป็นบิดาของพระยาอภัยสุรินทร์ (ภู่ ยมนาค) และพระยาพิทักษ์ภูบาล (เอี่ยม ยมนาค)

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง : 

ดำรงราชานุภาพ ; สมเด็จฯ กรมพระยา. (2555). ตำนานพระพุทธรูปสำคัญ. พิมพ์ถวายเป็นมุทิตาสักการะ ในวโรกาสพระราชพิธีศุภมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2555.

ทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) ; เจ้าพระยา. (2481). พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชชกาลที่ ๓. ห้องสมุดดิจิทัลวัชรญาณ.

ณัฐวุฒิ สุทธิสงคราม. (2510). 27 เจ้าพระยา (ฉบับพิสดาร). กรุงเทพฯ : ไม่ระบุสำนักพิมพ์.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 22 มกราคม 2568