
ผู้เขียน | สัตตบงกช เยาวโยธิน |
---|---|
เผยแพร่ |
ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก ตั้งอยู่ที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เป็นชุมชนฟาร์มโคนมแห่งแรกของประเทศไทย เริ่มกิจการอย่างเป็นทางการเมื่อ 63 ปีก่อน (พ.ศ. 2505) ด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลเดนมาร์ก
ฟาร์มโคนมแห่งนี้เริ่มต้นจาก นายนิลส์ กุนน่าส์ ซอนเดอร์กอร์ด (Mr. Niels Gunnar Søndergaard) นักปฐพีวิทยาชาวเดนมาร์ก ได้เข้ามาสำรวจพื้นที่และเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมการเลี้ยงโคนมในประเทศไทย เนื่องจากเวลานั้นคนไทยบริโภคนมในปริมาณที่ต่ำมาก เขาจึงจัดทำโครงการขึ้นเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการการตลาดเชิงเกษตรของเดนมาร์ก (Danish Agricultural Marketing Board)

ขณะเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (พระราชอิสริยยศในสมัยนั้น) รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศเดนมาร์กและทรงให้ความสนพระราชหฤทัยในอุตสาหกรรมนี้อย่างมาก จึงเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการนี้ในประเทศไทย
รัฐบาลเดนมาร์กส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเหลือด้านการพัฒนาฟาร์มโคนมของไทยในช่วง 8 ปีแรก โดยฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2505 แต่เนื่องด้วยวันนี้ของทุกปีเป็นวันครูแห่งชาติ รัฐบาลจึงกำหนดใหม่ให้วันที่ 17 มกราคม ของทุกปี เป็นวันโคนมแห่งชาติแทน เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่พระราชทานอาชีพใหม่แก่เกษตรกรเลี้ยงโคนมทั้งหลาย
ภายหลังรัฐบาลไทยได้รับโอนกิจการฟาร์มโคนมและศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนม มาจัดตั้งเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้ชื่อว่า “องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)”


นมไทย-เดนมาร์ก : ความสำเร็จอีกขั้นของไทยในกิจการโคนม
ฟาร์มโคนมแห่งนี้ได้พัฒนากรรมวิธีการ “ผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์แห่งแรกของไทย” คือการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนโดยใช้อุณหภูมิไม่เกิน 100 องศาเซลเซียส เพื่อลดปริมาณจุลินทรีย์ให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
ตามด้วยกรรมวิธีการ “ผลิตภัณฑ์นมกล่อง U.H.T. รายแรกของไทย” คือการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนที่อุณหภูมิเกินกว่า 133 องศาเซลเซียส ไม่น้อยกว่า 1 วินาที ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สามารถทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคได้ทั้งหมดรวมทั้งสปอร์ของแบคทีเรียที่ทนความร้อนสูง

ผลิตภัณฑ์นมกล่อง U.H.T. วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2519 สามารถเก็บไว้ได้นานไม่ต้องแช่เย็น จนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เกิดเป็นอุตสาหกรรมการผลิตแบบใหม่และมีการรับซื้อน้ำนมดิบจากฟาร์มในพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มมากขึ้น
โดยปัจจุบันฟาร์มโคนมได้มีการขยายกิจการไปยังพื้นที่ต่าง ๆ จากจังหวัดสระบุรี (ศูนย์ใหญ่) ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
นับเป็นความสำเร็จและการเติบโตของกิจการฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก ที่ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เกิดการตื่นตัวและพัฒนาคุณภาพของนมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลดีกับอุตสาหกรรมการเลี้ยงโคนม และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกรในพื้นที่ อีกทั้งยังช่วยพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น และเพิ่มความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมการผลิตนม
อ่านเพิ่มเติม :
- กำเนิดกิจการโคนม และการดื่ม “นมวัว” ในประเทศไทย
- แก่นของ “เนื้อ-นม-ไข่” จากรัฐนิยมในนโยบายเรื่องการกินสมัยจอมพล ป.
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
https://www.silpa-mag.com/history/article_72830
https://www.dpo.go.th/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B
https://www.dpo.go.th/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B
https://www.dpo.go.th/wp-content/uploads/2024/04/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 17 มกราคม 2568