เจ้านาย 2 องค์สุดท้าย ที่ถูก “สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์” คือใคร เกิดขึ้นในรัชกาลใด?

สำเร็จโทษ วิธีสำเร็จโทษเจ้านาย ท่อนจันทน์ กฎมณเทียรบาล สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์
ภาพสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ จินตนาการจากกฎมณเฑียรบาล โดย ธีรพันธ์ ลอไพบูลย์

ตามโบราณราชประเพณี หากเจ้านายชั้นสูงทรงประพฤติผิดร้ายแรง หนึ่งในวิธีสำเร็จโทษคือการทุบด้วยท่อนจันทน์ แล้วการสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายกับพระองค์ใด และในรัชกาลไหน

เชื้อพระวงศ์ 2 องค์สุดท้าย ที่ถูกสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์คือใคร?

เราอาจคิดว่า พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงรักษรณเรศ หรือ “หม่อมไกรสร” พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช คือเชื้อพระวงศ์องค์สุดท้ายที่ถูกสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ เมื่อ พ.ศ. 2391 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3)

หม่อมไกรสร สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์
รูปปั้นหม่อมไกรสร หรือกรมหลวงรักษรณเรศ ตามจินตนาการของช่างปั้นในปัจจุบัน ในศาลกรมหลวงรักษรณเรศ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2534 ณ วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ หรือวัดเมือง จ. ฉะเชิงเทรา

แต่ที่จริงยังมีเชื้อพระวงศ์ที่ถูกสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)

ถือเป็นครั้งสุดท้ายของกรุงรัตนโกสินทร์ ที่มีการสำเร็จโทษด้วยวิธีนี้

ฉัตรดาว ลีเชวงวงศ์ เล่าเรื่องนี้ไว้ในวิทยานิพนธ์ “การเมืองในราชสำนักฝ่ายใน ในสมัยรัชกาลที่ 5” ว่า
เมื่อครั้ง สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดินสมัยรัชกาลที่ 5 ถืออาญาสิทธิ์ประหารชีวิตคนได้ หรือแม้แต่เมื่อพ้นตำแหน่งไปแล้ว ก็ยังมีอำนาจสิทธิ์ขาดสั่งประหารชีวิตนักโทษร้ายแรง

ท่านได้สั่งประหารชีวิตหม่อมเจ้าหญิง 2 พระองค์ คือ หม่อมเจ้าแห และ หม่อมเจ้าเดื่อ (บ้างขานพระนามว่า หม่อมเจ้ามะเดื่อ) ด้วยเหตุกระทำความผิดฉ้อฉลหลอกลวงเจ้านายและเจ้าจอมในวัง

การสำเร็จโทษใช้วิธีนำเจ้านายทั้ง 2 พระองค์ใส่กระสอบ แล้วทุบด้วยท่อนจันทน์ อันเป็นการประหารชีวิตเจ้านายตามราชประเพณีแบบนี้เป็นครั้งสุดท้ายในกรุงรัตนโกสินทร์

สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ช่วง บุนนาค สำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์
สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค)

หม่อมเจ้าแหและหม่อมเจ้าเดื่อ เป็นพระธิดาใน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช กับเจ้าจอมมารดาตานี

กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ ทรงรับราชการในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) โดยทรงกำกับกรมพระนครบาล และทรงสังกัดกรมนี้เรื่อยมาตลอดรัชกาลที่ 2

เมื่อเข้าสู่แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) โปรดให้กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ทรงกำกับกรมท่าอยู่พักหนึ่ง แล้วโปรดให้ทรงกำกับกรมมหาดไทย ทว่าหลังจากนั้นเพียง 6 ปีก็สิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. 2373 สิริพระชันษาราว 40 ปี ทรงเป็นต้นราชสกุล “ฉัตรกุล”

พระกรณียกิจที่สำคัญอย่างหนึ่งของกรมหมื่นสุรินทรรักษ์ คือ ทรงได้รับมอบหมายจากรัชกาลที่ 3 ให้เป็นหนึ่งในคณะรับรอง เฮนรี เบอร์นี (Henry Burney) ที่เป็นผู้แทนอังกฤษเข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับสยามเมื่อ พ.ศ. 2368

กรมหมื่นสุรินทรักษ์ จึงเป็นเจ้านายชั้นสูงที่พระเจ้าแผ่นดิน 2 พระองค์ ทรงไว้วางพระราชหฤทัยให้รับราชการสร้างคุณประโยชน์ต่อบ้านเมืองตราบสิ้นชีพิตักษัย

ฉัตรดาว ยกข้อสังเกตของจุลลดา ภักดีภูมินทร์ ที่เขียนใน “เวียงวัง” ว่า อันที่จริง ความผิดของหม่อมเจ้าแหและหม่อมเจ้าเดื่อไม่น่าจะถึงขั้นถูกประหาร แต่ว่ากันว่า เป็นเพราะสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ต้องการแสดงอำนาจให้พระราชวงศ์เกรงกลัว

แม้จะเป็นพระธิดาของพระราชวงศ์ที่เคยมีความสำคัญมาก่อน สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ก็สั่งประหารชีวิตได้

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

ฉัตรดาว ลีเชวงวงศ์. การเมืองในราชสำนักฝ่ายใน ในสมัยรัชกาลที่ 5. วิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญญารัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองและการจัดการปกครอง ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2558.

เว็บไซต์วัชรญาณ. “พระประวัติกรมหมื่นสุรินทรรักษ์”.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 7 มกราคม 2568