“พระตำหนักเวน คอร์ต” ในอังกฤษ ที่ประทับของรัชกาลที่ 7 หลังสละราชย์

รัชกาลที่ 7 และ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ที่ พระตำหนักเวน คอร์ต ประชาธิปกราชนิเวศน์

หลังจาก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงสละราชสมบัติเมื่อ พ.ศ. 2477 พระองค์พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ได้เสด็จฯ ไปใช้ชีวิตอย่างสามัญชนที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งระหว่าง พ.ศ. 2480-2482 ทั้ง 2 พระองค์ได้ประทับอยู่ที่ พระตำหนักเวน คอร์ต (Vane Court) นิวาสสถานในชนบทอันแสนสงบ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน

“พระตำหนักเวน คอร์ต” ประชาธิปกราชนิเวศน์

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ เสด็จประทับที่พระตำหนักเวน คอร์ต เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2480 พระตำหนักนี้เป็นอาคารไม้แบบยุคกลาง ที่อาจมีอายุสืบย้อนไปถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 ผนังถือปูนสีขาว ประกบด้วยท่อนไม้โอ๊กทาสีดำแบบทิวเดอร์ คานค้ำพื้นเพดานชั้นบนเป็นท่อนซุงใหญ่

เวน คอร์ต อยู่ห่างจากกรุงลอนดอนราว 90 กม. เป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้านบิดเดนเดน (Biddenden) หมู่บ้านเก่าแก่ที่มีสัญลักษณ์คือรูปสตรีสาวฝาแฝดบั้นเอวติดกัน (The Bidden Sisters) อยู่ในเขตปกครองของเมืองแอชฟอร์ด จังหวัดเคนต์

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 และ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ที่ พระตำหนักเวน คอร์ต ประชาธิปกราชนิเวศน์
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ รัชกาลที่ 7 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ที่เวน คอร์ต (ภาพจาก เว็บไซต์ ห้องสมุด มสธ.)

ทั้งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ทรงพระสำราญมากที่พระตำหนักนี้ มักจะเสด็จลงสวน รดน้ำพรวนดินเป็นประจำ โดยรัชกาลที่ 7 ทรงวางผังปลูกต้นไม้ดอกไม้ด้วยพระองค์เอง พระจริยวัตรหลักในทุก ๆ วัน คือการดูแลต้นคาร์เนชั่นที่ปลูกภายสวน ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ จะคอยตัดดอกคาร์เนชั่นมาปักแจกันตามห้องต่าง ๆ ของพระตำหนักเป็นประจำ

ภายในสวนยังมีสะพานหินเล็ก ๆ สำหรับข้ามบ่อน้ำ ที่ทรงเลี้ยงเป็ดเทศและปลาไว้หลายพันธุ์ด้วย

คุณหญิงมณี สิริวรสาร อดีตพระสุณิสา (ลูกสะใภ้) ในรัชกาลที่ 7 เล่าไว้ในหนังสือ ชีวิตเหมือนฝัน (โรงพิมพ์กรุงเทพฯ : 2527) ว่า “ทรงเพลิดเพลินในการทอดพระเนตรพวกเป็ดน้ำเทศสีสวยงามเหล่านี้ ซึ่งว่ายวนอยู่ระหว่างกอไม้ในบ่อเล็กกลางสวนดอกไม้ บางตัวก็เดินขึ้นไปบนบกเข้าไปในบ้านเล็ก ๆ ที่สร้างไว้บนเนินเขาเตี้ย ๆ ริมบ่อให้เป็นที่พักและฟักไข่ได้”

ที่พระตำหนักยังมีสนามเทนนิสที่คนไทยหรือนักเรียนไทยในอังกฤษมักมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตใช้แข่งขันเทนนิสกัน ซึ่งทั้ง 2 พระองค์ก็มีพระบรมราชานุญาตเสมอ และมักประทับบนพื้นสนามแล้วเสวยพระสุธารสชาในช่วงฤดูร้อนอย่างเป็นกันเองกับพวกเขา

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ ยังเสด็จไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ที่นักเรียนไทยในอังกฤษจัดขึ้นปีละครั้ง ครั้งหนึ่งสมเด็จพระนางเจ้ารำไพรรณีฯ ได้ทรงเทนนิสและทรงครองตำแหน่งรองชนะเลิศในงานด้วย

เป็นที่ทราบกันว่า ทั้ง 2 พระองค์ค่อนข้างเป็นที่รักและเคารพของชาวบ้านบิดเดนเดน จากพระจริยวัตรต่าง ๆ และความไม่ถือพระองค์ เช่น แทนที่จะทรงสั่งซื้อของจากร้านในเมืองให้ไปส่งที่พระตำหนัก กลับทรงจักรยานไปตามถนนเล็ก ๆ ของหมู่บ้าน เพื่อจับจ่ายซื้อของจากร้านค้าชุมชน และยังทรงคำนึงถึงความเป็นธรรม โดยสัปดาห์หนึ่งทรงซื้อของร้านหนึ่ง สัปดาห์ถัดไปก็จะทรงซื้อจากอีกร้าน หมุนเวียนกันไป

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 และ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ทรงจักรยาน
ทั้ง 2 พระองค์ทรงจักรยาน (ภาพจาก เว็บไซต์ ห้องสมุด มสธ.)

หนังสือพิมพ์ Sunday Dispatch ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1939 (พ.ศ. 2481) เล่าว่า รัชกาลที่ 7 มักจะทรงซื้อช็อกโกแลตทำเองจากร้านกาแฟประจำหมู่บ้าน บางครั้งจะเสวยพระกระยาหารมื้อย่อม ๆ ที่ร้านเลย นอกจากนี้ ยังเสด็จไปทรงเป็นประธานการพระราชทานถ้วยรางวัลในงานประกวดดอกไม้ และงานแข่งม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางประจำฤดูร้อน

“ทรงเป็นขวัญใจของพวกเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน แม่หนูโอล์เว่น โจนส์ (Olwen Jones) วัย 4 ขวบ อวดตุ๊กตาตัวใหญ่ซึ่งเธอได้รับพระราชทาน เธอจะถวายบังคม (Salaam) ทุกครั้งที่ได้เข้าเฝ้าฯ เธอพูดคำภาษาไทยที่ทรงสอนเธอได้หลายคำ เช่น ‘มือเปื้อน’ หรือ ‘น้ำชา’ และชื่อวันต่าง ๆ ในสัปดาห์…

ชาวบ้านในหมู่บ้านนี้มีความมั่นใจว่า ไม่มีวันที่จะเสด็จกลับประเทศสยาม เพราะทุกครั้งที่เขาเห็นพระองค์ทรงพระดำเนินไปตามถนนในหมู่บ้านกับสุนัขพันธ์ุ แอร์เดล (Airedale) ที่ชื่อ ‘แซม’ (Sam) ของพระองค์แล้ว เขาเชื่อว่าพระองค์โปรดที่จะประทับในประเทศอังกฤษอย่างเงียบ ๆ มากกว่า”

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี และ แซม สุนัขทรงเลี้ยง ที่ พระตำหนักเวน คอร์ต ประชาธิปกราชนิเวศน์
รัชกาลที่ 7 กับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ และ ‘แซม’ สุนัขทรงเลี้ยง (ภาพจาก เว็บไซต์ ห้องสมุด มสธ.)

ที่พระตำหนักเวน คอร์ต นี้ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ทรงเริ่มพระราชนิพนธ์พระราชประวัติของพระองค์เอง ทรงวางแผนว่าจะเล่าตั้งแต่สมัยยังทรงพระเยาว์ถึงทรงสละราชสมบัติ ด้วยมีพระราชประสงค์จะให้คนรุ่นหลังได้ทราบ 

ทว่าเป็นที่น่าเสียดายที่พระโรคที่ทรงเผชิญ ทำให้ทรงพระนิพนธ์ได้ถึงช่วงที่ทรงมีพระชนมพรรษา 25 พรรษา เท่านั้น

ลี้ภัยสงคราม

ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2481 (ค.ศ. 1938) สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มตั้งเค้าขึ้นในทวีปยุโรป พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ทรงแน่พระทัยว่า สงครามจะเปลี่ยนจังหวัดเคนท์ซึ่งอยู่ใกล้ช่องแคบอังกฤษให้กลายเป็นพื้นที่สู้รบ จึงทรงเตรียมพร้อมเรื่องมาตรการประหยัดค่าใช้จ่ายทุกทาง ตั้งแต่ทรงเลิกเช่าห้องชุดที่ลอนดอน และทรงหาที่ประทับใหม่ใกล้กับตำหนักของ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิระศักดิ์สุประภาต พระราชโอรสบุญธรรม ซึ่งอยู่แถบเวอร์จิเนีย วอเตอร์ ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน

เดือนกันยายน พ.ศ. 2482 (ค.ศ. 1938) หลังเสด็จฯ กลับจากการเสด็จประพาสประเทศอียิปต์ได้ไม่กี่เดือน อังกฤษก็ประกาศสงครามกับเยอรมนี จึงทรงปิดเวน คอร์ต แล้วทรงย้ายไปประทับที่พระตำหนักใหม่ ชื่อ คอมพ์ตัน เฮาส์ (Compton House)

เป็นอันว่าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 กับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ประทับอยู่ที่พระตำหนักเวน คอร์ต ระหว่างเดือนตุลาคม พ.ศ. 2480 ถึงกันยายน พ.ศ. 2482

หลังรัชกาลที่ 7 เสด็จสวรรคตในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2484 กองทัพอังกฤษได้เข้ายึดพระตำหนักเวน คอร์ต เพื่อใช้เป็นกองบัญชาการในสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากนั้นได้เปลี่ยนเจ้าของหลายครั้ง

บ่อปลา พระตำหนักเวน คอร์ต หมู่บ้านบิดเดนเดน ประเทศอังกฤษ ประชาธิปกราชนิเวศน์
บริเวณบ่อปลาของพระตำหนัก (ภาพโดย Bdnn 13 / Yesterdays-Paper ใน DeviantArt สิทธิการใช้งาน CC BY 3.0)

ประกาศขายในเว็บไซต์

ล่าสุด (พฤศจิกายน พ.ศ. 2567) มีการประกาศขายพระตำหนักเวน คอร์ต ใน INIGO เว็บไซต์ขายบ้านของอังกฤษ สนนราคา 3.95 ล้านปอนด์ หรือราว 170 ล้านบาท [ชมภาพ คลิก]

เว็บไซต์ดังกล่าวเผยว่า หลังจากพระตำหนักกลายเป็นบ้านส่วนบุคคล ได้มีการบูรณะซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของอาคารด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวอาคารมีพื้นที่ภายในกว่า 6,500 ตารางฟุต ประกอบด้วย 7 ห้องนอน ห้องอเนกประสงค์สำหรับเป็นห้องนั่งเล่นหรือห้องทำงานอีกหลายห้อง พร้อมโรงจอดรถที่จุได้ 4 คัน รวมถึงสระว่ายน้ำและสนามเทนนิสที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี

เวน คอร์ตจึงตอบโจทย์การอยู่อาศัยหรือใช้ชีวิตสมัยใหม่ แม้โครงสร้างเรือนจะมีความเก่าแก่มาก

ต้องติดตามกันต่อไปว่า ใครจะเป็นเจ้าของคนใหม่ที่พักหลังประวัติศาสตร์แห่งนี้

อ่านเพิ่มเติม : 

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง : 

inigo.com. Vane Court. Retrieved November 24, 2024. (Online)

พฤทธิสาณ ชุมพล, ม.ร.ว. (2544). ‘บ้าน’ ไกลบ้าน: ประชาธิปกราชนิเวศน์ในอังกฤษ. รายงานกิจการของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ประจำปี 2543. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2567