| ผู้เขียน | เสมียนนารี |
|---|---|
| เผยแพร่ |
หลังปฏิวัติโค่นล้มราชวงศ์ชิงช่วงต้นศตวรรษที่ 20 นายทหารชั้นผู้ใหญ่หลายคนสั่งสมอำนาจ บารมี รวมทั้งสั่งสมพลังเงิน เพื่อปูทางให้ตนเองขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในการปกครองระบอบใหม่ หนึ่งในนั้นคือ “นายพลเฉาคุน” ที่ใช้วิธีหว่านเงินซื้อเสียงสมาชิกรัฐสภา เพื่อก้าวสู่บังลังก์ประธานาธิบดีสาธารณรัฐจีน
เฉาคุน มีพื้นเพเป็นชาวเมืองเทียนจิน อาชีพเดิมคือพ่อค้าขายผ้า แต่ด้วยเบื่อหน่ายอาชีพจึงไปเกณฑ์ทหาร ได้ไปสังกัดกองทัพบกใหม่ของ “หยวนซื่อข่าย” นายพลมากบารมี
จากทหารยศเล็กๆ เขาสั่งสมผลงานจนได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่ราชวงศ์ชิงล่มสลายเมื่อ ค.ศ. 1912 เขาได้เป็นหัวหน้ากองพลที่สาม ซึ่งเป็นกองกำลังหลักของกองทัพเป่ยหยาง ต่อมาใน ค.ศ. 1919 เขาและอู๋เพ่ยฝู ก็ได้กลายเป็นผู้นำขุนศึกมณฑลจื๋อลี่ หลังผู้นำคนเก่าเสียชีวิต
ค.ศ. 1922 ขุนศึกมณฑลจื๋อลี่ปะทะขุนศึกมณฑลเฟิ่งเทียน ผลปรากฏว่าฝ่ายแรกได้รับชัยชนะ ได้คุมรัฐบาลปักกิ่ง
พวกเขาพยายามบีบบังคับประธานาธิบดีสวีซื่อชางให้พ้นจากตำแหน่ง แล้วดัน “หลีหยวนหง” ขึ้นเป็นประธานาธิบดีหุ่นเชิดแทน
นายพลเฉาคุน กับความฝันนั่งบัลลังก์ประธานาธิบดี
เดือนมิถุนายน ค.ศ. 1923 เฉาคุนพยายามกำจัดหลีหยวนหง โดยสร้างสถานการณ์ให้มีผู้มาชุมนุมที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เรียกร้องให้ประธานาธิบดีหลีหยวนหงลาออก มีนักการเมืองบางส่วนเข้าร่วมและกล่าวปราศรัยโจมตีหลีหยวนหง เจ้าตัวออกคำสั่งให้ตำรวจขับไล่ผู้ชุมนุม แต่ไม่เป็นผล
สถานการณ์เริ่มบานปลาย มีการเรียกร้องให้เพิ่มเงินเดือนทหาร ส่วนบ้านพักของหลีหยวนหงก็ถูกปิดล้อม เมื่อถูกบีบมากเข้า ท้ายสุดเขาจึงจำใจลาออกจากตำแหน่ง และเดินทางออกจากกรุงปักกิ่ง
หลังจากจัดการขวากหนามได้แล้ว เฉาคุนก็จัดให้มีการเลือกตั้งตามกฎหมาย เพื่อสร้างความชอบธรรม แต่ตอนนั้นรัฐสภามีหน้าที่เลือกประธานาธิบดี
ทางที่จะทำให้เขาไปถึงฝั่งฝันได้คือ “ซื้อเสียง”
เขาใช้เงินทุ่มซื้อ “อู๋จิ่งเหลียน” สมาชิกรัฐสภาตัวเก๋า เพื่อให้ช่วยดำเนินการ ด้านอู๋จิ่งเหลียนที่หวังเก้าอี้นายกรัฐมนตรีจึงตอบตกลงผลประโยชน์
ช่วงนั้น สมาชิกรัฐสภาจำนวนไม่น้อยไม่พอใจเฉาคุน แต่อู๋จิ่งเหลียนก็ยื่นข้อเสนอว่า หากสมาชิกรัฐสภาคนใดเข้าร่วมการประชุมเลือกประธานาธิบดี จะได้รับเงินค่าเข้าร่วมประชุม และสามารถรับเงินผ่านช่องทางทดรองจ่ายรายปีได้ด้วย คิดเป็นเงินเดือนละ 600 หยวน ส่วนคนที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมได้ 300 หยวน
แม้การเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกประธานาธิบดีในวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 1923 จะล้มเหลว เพราะจำนวนสมาชิกรัฐสภาไม่ครบตามกฎหมายกำหนด แต่หลังจากการล็อบบี้อย่างหนัก วันที่ 5 ตุลาคม ปีเดียวกัน เฉาคุนก็ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี ที่น่าขันคือมีบัตรลงคะแนนเสียงใบหนึ่งเขียนว่า “จ่ายเงินแล้ว” หรืออีกใบที่เขียนว่า “ห้าพันหยวน”
เขาเป็นประธานาธิบดีสาธารณรัฐจีนได้ 1 ปี สถานการณ์ก็พลิกผัน เพราะวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 1924 “เผิงอวี้เสียง” ก่อรัฐประหาร และนำตัวประธานาธิบดีไปคุมขัง จากนั้นวันที่ 2 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน ก็ถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี
นายพลเฉาคุนถึงแก่กรรมในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1938 ด้วยวัย 76 ปี
อ่านเพิ่มเติม :
- หยวนซื่อไข่ นายพลที่ทรยศทุกฝ่ายเพื่อสถาปนาตัวเองเป็นจักรพรรดิ
- เจียงไคเช็คทำรัฐบาลจีนคณะชาติพัง ปล่อยเครือญาติ 4 ตระกูลมีอำนาจทางการเมือง
อ้างอิง :
เส่าหย่ง, หวังไห่เผิง-เขียน, กำพล ปิยะศิริกุล-แปล. หลังสิ้นบัลลังก์มังกร ประวัติศาสตร์จีนยุคเปลี่ยนผ่าน, สำนักพิมพ์มติชน ตุลาคม 2560
เยผแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 23 กรกฎาคม 2567
