“ช็อกโกพาย” ขนมขวัญใจแดนโสมขาว ที่ “คิมจองอึน” ผู้นำโสมแดงไม่ปลื้ม!

คิมจองอึน ไม่ชอบ ช็อกโกพาย สั่งแบน ใน เกาหลีเหนือ — (ภาพจาก Kremlin.ru)

ผู้เขียน	ปดิวลดา บวรศักดิ์
เผยแพร่	วันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2566

“ช็อกโกพาย” (Choco Pie) คือขนมซอฟท์เค้กเคลือบช็อกโกแลต สอดไส้มาร์ชเมลโลว์ ที่มีรสชาติหวานหอมนุ่ม หลายคนเพียงชิมหนึ่งครั้งก็ตกหลุมรักในรสสัมผัสของมันทันที จึงทำให้เจ้าขนมเค้กพายนี้เป็นของหวานที่ครองใจใครหลายคนทั่วโลก ทว่ามีอยู่คนหนึ่งที่เกลียดมันเข้าไส้ นั่นคือ “คิมจองอึน” (Kim Jong-Un) ผู้นำสูงสุดของ เกาหลีเหนือ

“ช็อกโกพาย” มีจุดเริ่มต้นในปี 1974 โดยสมาชิกในทีมวิจัยและพัฒนาของบริษัท Tong Yang บริษัทขนมยักษ์ใหญ่พอ ๆ กับบริษัท Lotte ได้ไปบังเอิญพบกับขนมเคลือบช็อกโกแลตแบบหนึ่งในรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีหน้าตาเป็นคุกกี้ประกบกันและสอดไส้มาร์ชเมลโลว์ หรือที่เรียกว่า “มูนพาย” (Moon Pie)

เมื่อฝ่าเท้าแตะลงบนพื้นดินเกาหลีใต้ พวกเขาจึงตั้งใจรังสรรค์ขนมที่ได้แรงบันดาลใจจากมูนพาย จนเกิดสินค้าที่เรียกว่า “Orion Choco Pie” โดยเปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะและรสสัมผัสของมัน จากเดิมที่เป็นคุกกี้ก็กลายเป็นซอฟท์เค้ก แต่ยังคงสอดไส้มาร์ชเมลโลว์เหมือนเดิม

หลังจากขายไปไม่นาน “Orion Choco Pie” ก็ประสบความสำเร็จเหมือนพลุแตก ฮิตติดกระแสจนฉุดไม่อยู่ เนื่องจากราคาถูกและรสชาติดี ทำให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มวัย ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่

แต่เมื่อนำเทรนด์จนประสบความสำเร็จ ย่อมมีคนลอกเลียนแบบ ต่อมาแบรนด์ยักษ์ใหญ่ไม่แพ้กันอย่าง “Lotte” ก็เข้ามาร่วมส่วนแบ่งการตลาด จนถึงขั้นเกิดการฟ้องร้องขึ้น เนื่องจากต่อมา Lotte ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคล้ายกับเจ้าแรก เปลี่ยนแค่สระภาษาเกาหลีเพียงหนึ่งตัวเท่านั้น ทว่าท้ายที่สุดศาลก็ตัดสินให้ Orion Choco Pie แพ้

แม้จะพ่ายแพ้และมีคู่แข่งตามมาอีกมาก แต่กระแสความนิยมของ Orion Choco Pie ก็ไม่เคยลดลง และอาจเพราะมีผู้ผลิตกระโดดเข้ามาในตลาดนี้มากขึ้น รวมถึงในเวลาต่อมาก้อนช็อกโกแลตสอดไส้นี้กลายไปเป็นสัญลักษณ์ของ “ชายชาติทหารเกาหลีใต้”

เนื่องจากค่ายทหารมักแจกช็อกโกพายให้กับทหารเกณฑ์ที่เพิ่งเข้าประจำการ เพื่อคลายโหยรสชาติหวานที่หายากในสถานฝึก และต่อมาดารา ไอดอล ที่เตรียมจะเป็นทหารมักถ่ายรูปกับช็อกโกพาย จึงทำให้ช็อกโกพายกลายมาเป็นสัญลักษณ์ดังกล่าว

“ช็อกโกพาย” จึงกลายเป็นขนมที่โด่งดังมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่ในแดนกิมจิ แต่ยังขยายไปทั่วภูมิภาคอื่น ๆ

แล้วทำไมเจ้าขนมที่ฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองในเกาหลีใต้และพื้นที่อื่น ๆ ทั่วโลก ถึงไม่พิชิตใจ “คิมจองอึน” ผู้นำแดนโสมแดงกันล่ะ?

เรื่องนี้ต้องพูดถึงชนวนที่เป็นต้นตอ นั่นคือ “เขตอุตสาหกรรมแคซ็อง” พื้นที่ปลอดภาษีที่ชาวเกาหลีใต้สามารถข้ามพรมแดน เพื่อทำการค้าและอุตสาหกรรมในเกาหลีเหนือได้ และมีชาวโสมแดงจำนวนไม่น้อยที่ทำงานอยู่ที่นั่น

ทว่าการทำงานในนั้นก็ไม่ได้มีเงินเดือนสูงมาก ว่ากันว่าชาวเกาหลีเหนือได้เงินประมาณ 100 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,500 บาท) และไม่ได้เงินล่วงเวลาหรือโบนัส เพราะประเทศเกาหลีเหนือสั่งห้าม

เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้นายจ้างเกาหลีใต้มอบช็อกโกพายจำนวนมากให้เป็นรางวัล และพอลูกจ้างได้ลิ้มลองก็ติดใจในรสชาติความนุ่มหนึบหวานหอมอร่อยที่หาได้ยากในบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง ทั้งยังนำก้อนช็อกโกแลตสอดไส้นี้ไปแจกจ่ายให้กับญาติพี่น้องและบุคคลที่รัก

ช็อกโกพายจึงกลายมาเป็นของล้ำค่าในประเทศเกาหลีเหนือ ถึงขั้นเป็นสินค้าในตลาดมืดที่มีราคากว่า 10 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 350 บาท) ซึ่งในเกาหลีใต้ราคาต่อชิ้นไม่ถึง 1 ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งยังส่งออกในตลาดมืดเกือบ 2.5 ล้านชิ้น

ทุกคนในเกาหลีเหนือต่างให้ความสนใจกับก้อนสีน้ำตาลรสชาติหวานนี้ จนเรื่องถึงหูท่านผู้นำสูงสุดอย่าง “คิมจองอึน” ต่อมา เขาให้รัฐบาลออกแคมเปญโฆษณาออกไปว่า “ช็อกโกพาย” เป็นอันตรายต่อร่างกาย และออกคำสั่งห้ามในเขตอุตสาหกรรมทันที เพราะกลัวว่าจะเจ้าก้อนช็อกโกแลตนี้จะกลายเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ

แม้จะมีข้อบังคับออกมา ทั้งรัฐบาลยังประโคมโฆษณาชวนเชื่ออีกมากมาย ออกมาด่าทอและพูดถึงข้อเสียของช็อกโกพาย แต่มันก็ยังเป็นขนมหนึ่งที่ชาวเกาหลีเหนือให้ความสนใจ และยังคงขายในตลาดมืดต่อไป

กระทั่งปี 2014 ผู้นำคิมจองอึนก็ประกาศแบน “ช็อกโกพาย” ไม่ให้เป็นรางวัลแก่ชาวเกาหลีเหนือ และอนุญาตให้ช็อกโกบาร์ ไส้กรอก ฯลฯ แทน

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่