ธุมเกตุต้องปราสาท-ฟ้าแดงดั่งเพลิง คราว “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ” สวรรคต

เจ้าฟ้าพร สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ กษัตริย์ ราชวงศ์บ้านพลูหลวง กรุงศรีอยุธยา ละครพรหมลิขิต
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ในละครพรหมลิขิต (ภาพจากละครพรหมลิขิต)

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ทรงเป็นกษัตริย์แห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง กรุงศรีอยุธยา หลักฐานประวัติศาสตร์หลายฉบับให้ภาพพระองค์เป็นผู้ทรงมีพระเมตตา อ่อนโยน และทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง

เมื่อพระองค์สวรรคต หลักฐานเช่น คำให้การขุนหลวงหาวัด ฉบับหลวง ถึงกับระบุว่า ครานั้นท้องฟ้ามีสีแดงดังแสงเพลิง ธุมเกตุ (หมอกควันที่เกิดขึ้นในอากาศผิดธรรมดา) ตกต้องปราสาท

“อันพระบรมราชานั้น ได้เสวยราชสมบัติมาช้านานหนักหนา แต่เปนที่มหาอุปราชมาก็ช้านานได้ถึงยี่สิบปี พระชนมได้เจ็ดสิบพระวรรษา เมื่อกาลจะมาถึงที่ ด้วยพระองค์เปนอธิบดีได้เปนใหญ่อยู่ในพิภพแลนคร จึ่งมีวิปริตด้วยเทพสังหรต่าง ๆ

“อันกลาบาตนั้นก็ตกลงมาที่ในเมือง ทั้งฟ้าก็แดงดูดั่งแสงเพลิง อันน้ำที่ในแม่น้ำนั้นก็บันดาลให้เดือดแดงเปนสีเลือด ธุมเกตุก็ตกถูกปราสาท ทั้งอินท์ธนูลำภูกันดาวหางก็ขึ้นมา ทั้งคลองช้างเผือกก็ขวางขึ้นมาตามอากาศ ทั้งกรีกาลกะลาจักรก็ขึ้นมา ทั้งดาวก็เข้าในพระจันทร ทั้งพระอาทิตย์ก็ให้มืดเย็นเยือกไปทั่วทุกทิศ ทั้งพระจันทร์ก็แดงเหมือนแสงเพลิง ก็พากันเงียบเหงาเศร้าใจไปด้วยกันทั้งสมณะแลชีพราหมณ์ ทั้งเสนาประชาราษฎรชายหญิงแลเด็กใหญ่เฒ่าแก่ ทั้งกรุงแลขอบขัณฑเสมาของพระองค์ทั้งสิ้น

“ด้วยนิมิตรที่พระองค์จะนิพาน พระองค์นั้นวันเสาร์ได้เสวยราชสมบัติมาช้านาน แต่เมื่อครั้งจุลศักราชได้ ๑๐๙๓ ปีชวดจัตวาศก พระ​ชนมายุได้ ๕๑ ปี อยู่ในราชสมบัติได้ ๒๗ ปี เปน ๗๘ ปี จึ่งสวรรคต เมื่อปีสวรรคตนั้นจุลศักราชได้ ๑๑๒๐ ปีขาลสัมฤทธิศก เดือนเก้าแรมหกค่ำวันพุฒ เพลาได้ยามเศษ ๚”

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่ 


อ้างอิง :

คำให้การขุนหลวงหาวัด ฉบับหลวง. ในเว็บไซต์วัชรญาณ https://bit.ly/481IWAc


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 17 ธันวาคม 2566