“กบฏในปีเหรินอิ๋น” 16 สนมงาม ปลิดชีพ “จักรพรรดิเจียจิ้ง” จนได้รับโทษแล่เนื้อทั้งเป็น

หญิงงาม จีน
Twelve Beauties from the Dream of the Red Chamber from the collection of Rosalind Ching Pastor will be offered at Bonhams Los Angeles. Courtesy of Bonhams

“จักรพรรดิเจียจิ้ง” เป็นฮ่องเต้ในราชวงศ์หมิง เสด็จขึ้นครองราชย์ต่อจากจักรพรรดิเจิ้งเต๋อ พระองค์ทรงเริ่มบริหารบ้านเมืองตั้งแต่ปี 1521-1566 ยุคที่พระองค์ปกครองไพร่ฟ้า ขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นช่วงแห่งความเจริญด้านศาสนาเต๋าอย่างยิ่ง เพราะพระองค์ได้สั่งให้สร้างวิหารต่าง ๆ เช่น วิหารพระอาทิตย์ (日坛), วิหารพระจันทร์ (月坛), วิหารแห่งโลก (地坛) ไม่เพียงแค่นั้น พระองค์ยังมีความเชื่อเรื่องชีวิตยืนยาว จนมีพระบรมราชโองการให้ขุนนางตามหายาอายุวัฒนะเพื่อชีวิตอันเป็นนิรันดร์ แต่ใครจะรู้เล่าว่าสิ่งที่พระองค์ตามหามาทั้งชีวิตจะนำมาซึ่งหายนะ จนเกิด “กบฏในปีเหรินอิ๋น” เหตุการณ์ที่ได้ชื่อว่าสยดสยองบนหน้าประวัติศาสตร์จีน

กบฏในปีเหรินอิ๋น เกิดขึ้นในปี 1542 หลังจากจักรพรรดิเจิ้งเต๋อสวรรคตกะทันหัน จู โฮ่วชง จึงขึ้นครองราชย์เป็น จักรพรรดิเจียจิ้ง เพื่อสานต่อพระราชกรณียกิจของผู้เป็นพี่ทันที เนื่องจากฮ่องเต้เจิ้งเต๋อไม่มีพระราชโอรส 

จักรพรรดิเจียจิ้ง จีน บัลลังก์
จักรพรรดิเจียจิ้งแห่งราชวงศ์หมิง

ในสายตาของใครหลายคน จักรพรรดิเจียจิ้ง เป็นผู้นำที่ไม่ได้มีความสามารถด้านการปกครองที่โดดเด่นมากนัก แต่หากพูดถึงศาสนา กลับถูกยกให้เป็นหนึ่งในใต้หล้า เพราะพระองค์ทรงเลื่อมใสลัทธิเต๋าอย่างมาก 

ว่ากันว่า ขณะที่ฮ่องเต้ยังมีพระชนมชีพ มักจะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ปลีกวิเวกจากพระตำหนักเฉียนชิง (ตำหนักประจำฮ่องเต้) เลือกที่จะทรงใช้ชีวิตในพื้นที่ที่พระองค์รู้สึกสงบสุข มีเพียง เหยียนซง มหาเสนาบดีคนสนิท นักบวชลัทธิเต๋า และขันทีไม่กี่คนเท่านั้น ที่จะสามารถติดตามพระองค์ได้ 

ทว่าไม่ได้มีเพียงลัทธิเต๋าเท่านั้นที่พระองค์ทรงเลื่อมใสศรัทธา เพราะยามว่าง พระองค์มักจะหมกมุ่นเรื่องการทำนายทายทัก เล่นแร่แปรธาตุ ยิ่งไปกว่านั้นคือหาวิธีการเพื่อให้ตนเองมี “อายุที่ยืนยาว”

เมื่อเป็นเช่นนี้ พระองค์จึงออกพระราชโองการให้ขุนนางทั้งหลายค้นหายาอายุวัฒนะ ข้าราชบริพารมากหน้าหลายตาต่างตามหาจนพลิกแผ่นดิน จนท้ายที่สุดก็ได้คำตอบว่ามียาที่เกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุ เรียกว่า “ตะกั่วโลหิต” ซึ่งมีส่วนประกอบหลักคือ “ประจำเดือน” ของหญิงสาวบริสุทธิ์

พอได้ยินลู่ทางคล้ายว่าฟ้าเป็นใจ จักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิงองค์นี้จึงมีคำสั่งให้สนมอายุราว 13 ปี เสวยเพียงใบมัลเบอรี่หรือใบหม่อน พืชที่มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับผล มีผิวสัมผัสสากมือ เมื่อชิมเพียงหนเดียวก็รับรู้ถึงรสชาติหวานอมขมปร่าด้วยความเย็นเล็กน้อย และต้องดื่มน้ำฝนควบคู่ไปด้วย เพื่อการันตีว่าเลือดประจำเดือนของหญิงสาวที่กำลังปฏิบัติหน้าที่จะบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีสิ่งใดเจือปน 

ไม่เพียงแค่เครื่องเสวยเท่านั้นที่เหล่าสนมต้องเคร่งครัด เพราะอีกหนึ่งกิจวัตรประจำวันของพวกนางคือ ต้องลุกออกจากตั่งเตียงนอนตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นขอบฟ้า เก็บน้ำค้างจากต้นกล้วยในสวนนำมาให้โอรสสวรรค์ดื่มเพื่อชีวิตอันยืนยาวของพระองค์

เส้นทางสู่ความอมตะของฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ ทำให้หญิงงามมากมายต้องประสบพบเจอกับอาการเจ็บป่วย ทว่าความต้องการที่พระองค์ทรงถวิลหามาทั้งชีวิตไม่สามารถเกิดข้อผิดพลาดได้ สนมนางใดที่ป่วยไข้จะถูกลงโทษอย่างสาหัส ไม่ว่าจะด้วยการทุบตีหรือขับไล่ออกจากพระราชวัง มีรายงานว่าสตรีหลายร้อยคนถูกบังคับให้กระทำเช่นนี้ และมากกว่า 200 คนเสียชีวิตจากการถูกทารุณ 

การกระทำที่ไร้มนุษยธรรม ทำให้สนมหลายคนเก็บความเคียดแค้นเอาไว้ในใจ หากยังอยู่และต้องมีชีวิตเช่นนี้ก็เหมือนตายทั้งเป็น สนม 16 คน จึงตัดสินใจคิดการใหญ่ หมายปลิดชีพฮ่องเต้ผู้เป็นหนึ่งเหนือใครในแดนนี้ 

คืนหนึ่ง ขณะที่จักรพรรดิเจียจิ้งกำลังร่วมเตียงอยู่กับสนมคนโปรดอย่างสนมตวน สนม 16 คน บุกมายังแท่นบรรทม พวกนางยึดแขนและขาของฮ่องเต้ไว้ให้มั่น หวังให้เนื้อตัวไม่สามารถขยับเขยื้อนมาสู้รบปรบมือ ก่อนที่สตรีนางหนึ่งจะตัดสินใจดึงโบว์ผูกผมเส้นยาวของตนเองออกมา พันไปยังรอบคอของจักรพรรดิรอบแล้ว รอบเล่า ดึงเส้นไหมคุณภาพดีให้รัดแน่นกับลำคอของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพระสวามี เพื่อไม่ให้มีอากาศเข้าไปต่อชีวิตพระองค์ได้ 

เมื่อประสบเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จักรพรรดิเจียจิ้งจึงได้แต่ก้มหน้ารับกรรม รอให้ความตายมาเยือน จนในที่สุดพระองค์ก็หมดสติไปด้วยอาการอกสั่นขวัญผวา 

เหล่าสตรีทั้ง 16 เห็นจึงไม่รอช้า บรรเลงความโกรธแค้นของตนเองต่อไป พวกนางผูกปมให้แน่น เพื่อให้ร่างที่กำลังนอนอยู่ไม่หายใจและเสียชีวิต แต่ไม่ทราบว่าเป็นโชคดีของจักรพรรดิเจียจิ้งหรือความโชคร้ายของเหล่าสนม เพราะปมที่มัดไว้นั้นไม่แน่นพอที่จะปลิดชีพมังกรผู้ยิ่งใหญ่ และมีสนมหนึ่งนางที่ตัดสินใจกลับลำ

สนมคนนั้นก็คือ จาง จินเหลียน หลังจากเห็นโอรสแห่งสวรรค์ที่เธอรับใช้มาทั้งชีวิตนอนแน่นิ่งสนิทอยู่ตรงหน้า ความรับรู้ทุกอย่างก็เหมือนมืดบอดไปชั่วขณะ เธอตัดสินใจวิ่งไปหาจักรพรรดินีฟางเพื่อสารภาพเหตุการณ์ทั้งหมด หวังว่าคำให้การนี้จะช่วยให้เธอพ้นโทษ หญิงสาวร่ายยาวถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่อึดใจ และเมื่อหงส์คู่เมืองได้ยินเช่นนั้นก็รีบปลีกตัวไปช่วย ทั้งยังออกคำสั่งให้จับกุมหญิงงามที่ร่วมก่อกบฏในครั้งนี้ 

ท้ายที่สุดชะตากรรมของสนมทั้ง 16 ก็เหมือนตกนรกอย่างทรมาน เพราะถูกลงโทษด้วยการ “แล่เนื้อเป็นพันชิ้น” เริ่มต้นจากการมัดพวกนางบนแท่งไม้ใหญ่ แบกออกไปประจานต่อหน้าสาธารณชน ผิวเนียนนุ่มเปล่งปลั่งเย้ายวนให้ชวนมองค่อย ๆ ถูกมีดกรีดตั้งแต่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย ด้านขวา ก่อนจะคว้านเนื้อออกมา ความเจ็บปวดแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย พร้อมกับเลือดสีแดงสดที่ไหลนองออกมาจากแผลเหวอะหวะ มีดปลายแหลมไล้ลงมาที่อวัยะเพศหญิง กรีดย้ำ ๆ บริเวณหน้าต้นขาเนียนเป็นทางยาวสองข้าง เพื่อให้ผู้กระทำผิดเจ็บจนทนแทบไม่ไหว และพึงระลึกไว้ว่าเกิดชาติหน้าฉันใดอย่าได้กระทำการเช่นนี้อีก

การลงทัณฑ์กินเวลาร่วม 3 วัน สนมทั้ง 16 นางถูกกรีดไปทั้งหมด 3,000 แผล และมีการรับซื้อเนื้อของพวกเธอเพื่อทำยาอีกด้วย 

ไม่เพียงผู้กระทำการจะได้รับเคราะห์ เพราะครอบครัวของสนมที่ก่อกบฏ ซึ่งต่อมาเรียกว่า “กบฏในปีเหรินอิ๋น” (เนื่องจากเหตุการณ์ตรงกับปฏิทินจีนในปีเหรินอิ๋นพอดี) ก็ได้รับโทษให้ประหาร 10 ชั่วโคตร ส่วนญาติใกล้เคียงอีก 20 คนให้กลายเป็นทาส 

แม้จักรพรรดิเจียจิ้งจะเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดแผลในใจและผวาอยู่ทุกค่ำคืน แต่พระองค์ก็ไม่ละทิ้งความพยายาม เพราะหลังจากจักรพรรดินีฟางสิ้นพระชนม์ ก็มีพระราชโองการให้เฟ้นหาหญิงงามถึง 300 คน และในปี 1552 ฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หมิงก็ได้เปลี่ยนเกณฑ์รับสนมเข้าวัง จากเดิมอายุราว 13 ปี เป็น 8 ปี และ 3 ปีต่อมา ให้อายุน้อยกว่า 8 ปี ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้มั่นใจได้ว่า “วัตถุดิบ” ที่ได้มาจะบริสุทธิ์ผุดผ่อง และพระองค์จะกลายเป็นผู้นำที่มีชีวิตยืนยาว 

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

https://www.britannica.com/biography/Jiajing

https://www.jahernandez.com/posts/the-jiajing-emperor?fbclid=IwAR3TDVlJ0HXW34Feryljm_icg-hoJe5dXjK9P2lVU2WufoKbftCQnouNWtg

https://www.ancient-origins.net/history-famous-people/when-concubines-fought-back-plot-eliminate-mad-and-sadistic-emperor-009468?fbclid=IwAR3s3NQHaqe3VS10eKA3eETmoYLKXj6MwK_hrEBQwJBN-HTqbcT9Miq1oXg


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 24 สิงหาคม 2566