ผู้เขียน | ธนกฤต ก้องเวหา |
---|---|
เผยแพร่ |
เซอร์จอห์น แมนเดอวิล (Sir John Mandeville) อัศวินชาวอังกฤษ ในศตวรรษที่ 14 นักเดินทาง ผู้แสวงบุญ และนักเขียนหนังสือชื่อ “The Voiage and Travayle of Syr John Maundeville Knight” บันทึกการเดินทางไปแสวงบุญในโลกตะวันออก ที่เล่าถึงโลกอันห่างไกลการรับรู้ของชาวยุโรปในยุคกลาง เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าเหลือเชื่อมากมาย หลายอย่างเป็นเรื่องจริง แต่หลายอย่างถูกแต่งเติมเสริมจินตนาการ บันทึกนี้โด่งดังเป็นพลุแตกทันทีเมื่อเทียบกับหนังสือเล่มอื่น ๆ ร่วมสมัยเดียวกัน
บันทึกเรื่องราวการเดินทางของเซอร์จอห์น เป็นหนังสือขายดีในหลายประเทศในยุโรป มันถูกคัดลอกเป็นภาษาต่าง ๆ และโด่งดังกว่าบันทึกของนักเดินทางชาวเวนิชอย่าง มาร์โค โปโล (Marco Polo) เสียอีก อย่างไรก็ตาม เราทราบกันในภายหลังว่า แม้จะมีการบรรยายถึงโลกตะวันออกแบบเหนือจินตนาการของคนสมัยนั้นเช่นเดียวกัน แต่งานเขียนของ มาร์โค โปโล มีข้อเท็จจริงในสัดส่วนที่มากกว่างานเขียนของเซอร์จอห์นอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ เรื่องราวในบันทึกการเดินทางของเซอร์จอห์น เป็นผลจากการเดินทางแสวงบุญของชาวคริสเตียน เช่นเดียวกับหนังสือท่องโลกเล่มอื่น ๆ ของชาวยุโรปในยุคเดียวกัน
หนังสือเล่าถึงการเดินทางจากอังกฤษ ในยุคการปกครองโดยชาวนอร์มัน (Norman ลูกผสมระหว่างชาวแฟรงก์กับชาวนอร์ส ชนกลุ่มนี้ตั้งรกรากอยู่บริเวณนอร์มังดีและยึดครองอังกฤษได้ในศตวรรษที่ 11) ออกเดินทางจากโบสถ์เซนต์อัลบันส์ในที่ 29 กันยายน ปี 1322 วันฉลองนักบุญไมเคิล เดินทางข้ามดินแดนตะวันตก โลกที่ชาวยุโรปรู้จัก ไปยังแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทางตะวันออก สถานที่ซึ่งมากมายด้วยผู้คนและโบราณสถานตระการตา เซอร์จอห์นเล่าด้วยว่า เขาได้ไปถึง “แดนสวรรค์” ณ ประตูสู่สวนแห่งอีเดน ยิ่งหนังสือพาผู้อ่านถลำลึกเข้าไปในแดนตะวันออกมากเท่าใด เรื่องราวของเซอร์จอห์นยิ่งน่าเหลือเชื่อมากขึ้นเรื่อย ๆ
จากอังกฤษ สู่เวนิช คอนสแตนติโนเปิล ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ (อิสราเอล) เซอร์จอห์นเดินเท้าผ่านผืนดินที่ครั้งหนึ่งพระเยซูเจ้าเคยเหยียบย่าง มีโอกาสได้เข้าเฝ้าสุลต่านแห่งอียิปต์ ได้ชื่นชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งในภูมิภาคเลอวองท์ (Levant) ทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มุ่งสู่ตะวันออกลึกเข้าไปเรื่อย ๆ เพื่อตามหาดินแดนในตำนานของชาวคริสต์ นั่นคือ อาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของ เพรสเตอร์ จอห์น (Prester John) บุคคลในตำนานที่ชาวยุโรปช่วงศตวรรษที่ 12-17 เล่าขานว่า เป็นผู้ปกครองอาณาจักรคริสเตียนท่ามกลางพวกมุสลิมและคนนอกรีตทางตะวันออก เป็นผู้มีคุณธรรมสูงส่งและจิตใจงาม
นักอ่านในยุคกลางดูเหมือนจะไม่ใส่ใจความแตกต่าง (เล็กน้อย) ระหว่างเรื่องราวอันน่าทึ่ง กับเรื่องแต่งที่ไร้ความจริง หรือมีก็ปนอยู่เพียงน้อยนิด ชาวยุโรปมองเอเชียว่าเต็มไปด้วยสิ่งอัศจรรย์และน่าเหลือเชื่อ คนจำนวนมากเลือกที่จะเชื่อเรื่องราวเกี่ยวกับกษัตริย์ลึกลับแห่งตะวันออก กับคนแคระไร้ปากของเซอร์จอห์น แทนที่จะเชื่อบันทึกจากมาร์โค โปโล เกี่ยวกับกุบไลข่าน และราชวงศ์หยวนอันยิ่งใหญ่ของชาวมองโกล
แต่มิใช่เรื่องราวจากโลกตะวันออกของเซอร์จอห์นจะเป็นคำโป้ปดทั้งหมด เขาได้พบไร่พริกไทยในอินเดีย เดินทางต่อไปถึงหมู่เกาะเครื่องเทศในอินโดนีเซีย ที่นั่นเต็มไปด้วยเถาพริกไทยเลื้อยพัน พวกมันผลิดอกออกผลเป็นพวงเหมือนองุ่น รวมถึงบันทึกเกี่ยวกับ ขิง กานพลู อบเชยเทศ ลูกจันทน์เทศ ดอกจันทน์เทศ บนเกาะชวา และหมู่เกาะในทะเลตะวันออก สิ่งเหล่านี้คือเรื่องจริง แม้คำสาธยายถึงแม่น้ำที่เต็มไปด้วยเพชรพลอยและดินแดนของยักษ์ตาเดียวจะทำให้ความน่าเชื่อถือลดลงก็ตาม
หนังสือยังบอกอีกว่า ปลายสุดตะวันออกของเอเชีย คือที่ตั้งของสวนอีเดน ถิ่นพำนักเดิมของอาดัมกับอีฟ โอบล้อมด้วยนครแห่งความหฤหรรษ์และมั่งคั่ง มีต้นไม้เขียวขจีสะบัดใบล้อสายลมอ่อนโยน และทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม เพราะมีสายน้ำหล่อเลี้ยงจากน้ำพุแห่งความเยาว์วัย
ยากที่จะตัดสินว่าผู้อ่านหนังสือเล่มนี้ในอดีตเชื่อถือเรื่องที่เซอร์จอห์นเล่าจริง ๆ หรืออ่านเพื่อความบันเทิง แต่ความจริงที่เกิดขึ้นคือ หนังสือเล่มนี้ขายดีอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 2 ศตวรรษ
นักวิชาการรุ่นหลังวิเคราะห์ว่า แท้จริงสวนอีเดนของเซอร์จอห์นไม่มีพิกัดและที่ตั้ง แต่สัมผัสได้ด้วยรสชาติและกลิ่น กลิ่นของสรวงสวรรค์คือกลิ่นของ “เครื่องเทศ” และสวนอีเดนคือสถานที่ซึ่งสิ่งล้ำค่าที่ชาวยุโรปปรารถนานี้เจริญงอกงาม สวนอีเดนคือแหล่งเพาะปลูก ตลอดจนผืนป่าที่ชนพื้นเมืองเก็บเกี่ยวเครื่องเทศนั่นเอง และมันกระจายอยู่ทั่วโลกตะวันออก ตั้งแต่อินเดีย หมู่เกาะในอินโดนีเซีย หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ฌอง เดอ จอยวิลล์ (Jean de Joinville) นักเขียนฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 13 เคยเล่าถึงชาวประมงแถบลุ่มแม่น้ำไนล์ลากอวนที่เต็มไปด้วยสินค้า ได้แก่ ขิง รูบาร์บ (ผักที่ใช้ทำแยมและพาย) ไม้กฤษณา และอบเชยเทศ สิ่งเหล่านี้ล้วนมาจากโลกอันห่างไกล จากสวรรค์บนดิน ไม่แปลกที่ชาวยุโรปในปลายยุคกลางต่อเนื่องยุคการสำรวจและค้นพบ จะทุ่มสุดตัวเพื่อเดินทางข้ามโลก ออกตามหาสิ่งปรุงแต่งรสอันล้ำค่าเหล่านี้ พวกเขาคงรู้สึกเหมือนกำลังออกค้นหาแดนสวรรค์ด้วยเช่นกัน
แม้การออกเดินทางของเซอร์จอห์นมีลักษณะของการแสวงบุญ เดินทางด้วยจิตวิญญาณเพื่อตามหาแดนสวรรค์ แต่ความนิยมในหนังสือเล่มนี้ไม่ได้มาจากเรื่องราวเกี่ยวกับโบราณสถานน่าอัศจรรย์เท่านั้น มีนักเดินทางและนักทำแผนที่จำนวนหนึ่งเชื่อถือข้อมูลของเขาอย่างจริงจัง เช่น มาร์ติน เบเฮม (Martin Baham) นักวาดแผนที่ชาวเยอรมัน ใช้หนังสือของเซอร์จอห์นอ้างอิงการวาดแผนที่โลกเป็นครั้งแรก ในปี 1492 ยิ่งไปกว่านั้น แผนที่ฉบับนี้กับหนังสือของเซอร์จอห์น ติดตัว คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) ไปทุกหนแห่ง ระหว่างการนำเสนอโปรเจกต์เพื่อหาผู้สนับสนุนในการล่องเรือไปตะวันตก ตามหาอินเดียและหมู่เกาะเครื่องเทศในตำนาน
หลังจากหนังสือของเซอร์จอห์นแพร่หลายอยู่นานนับศตวรรษ กลิ่นหอมอันลึกลับของเครื่องเทศจากตะวันออกเริ่มหมดเสน่ห์ลง เมื่อคาบสมุทรอิตาลีเกิดการฟื้นฟูศิลปวิทยาการ กระแสความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวกระจายไปทั่วยุโรป การเดินทางแสวงบุญเพื่อเสาะหาสรวงสวรรค์กลายเป็นการบุกเบิกเส้นทางเพื่อการขยายอำนาจของยุโรปไปทั่วโลกอย่างจริงจัง ตอนนั้นเองที่นักเดินเรือชาวยุโรปได้ค้นพบความจริงว่า หนังสือของเซอร์จอห์นถูกแต่งเติมจนเกินจริงมากมายเพียงใด พวกเขาคงประหลาดใจไม่น้อยที่เห็นพริกไทยเป็นเพียงวัชพืชที่เลื้อยไปทั่ว และไม่มีใครสนใจเก็บเกี่ยวด้วยซ้ำ
นักวิชาการบางคนตั้งคำถามถึงการมีตัวตนอยู่จริงของ เซอร์จอห์น แมนเดอวิล แต่ไม่ว่าเขาจะมีตัวตนหรือไม่ เขาทำให้ชาวยุโรปได้สัมผัสสรวงสวรรค์จากงานเขียนเล่มนั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อ “สวนอีเดน” ถูกยึดครองและปล้นสะดมโดยนักล่าอาณานิคม กลิ่นของเครื่องเทศแห่งสรวงสวรรค์ก็สิ้นเสน่ห์ สิ้นมนตร์ขลัง ความโด่งดังของเซอร์จอนห์น ในฐานะ “ผู้ค้นพบสวนอีเดน” จึงเป็นทั้งความสำเร็จและหายนะด้วยเช่นกัน
อ่านเพิ่มเติม :
- “จางเชียน” จากนักการทูตที่หายสาบสูญ สู่ผู้บุกเบิกเส้นทางสายไหม
- แผนที่โบราณของจีน หลักฐานยืนยัน “เจิ้งเหอ” พบ “อเมริกา” ก่อนโคลัมบัส!?
- การเดินทางรอบโลกครั้งแรกของ “กองเรือมาเจลลัน” เคว้งกลางแปซิฟิก ผู้นำโดนชนพื้นเมืองฆ่า
อ้างอิง :
ไมเคิล ครอนเติล; แปลโดย สุนิสา กาญจนกุล. (2553). เครื่องเทศ : ประวัติศาสตร์รสจัดจ้าน. กรุงเทพฯ : มติชน.
Encyclopedia Britannica. Sir John Mandeville. Retrieved July 26, 2023. From https://www.britannica.com/biography/John-Mandeville
British Library. The Travels of Sir John Mandeville. Retrieved July 26, 2023. From https://www.bl.uk/collection-items/manuscript-of-mandevilles-travels-showing-headless-men-1430
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 26 กรกฎาคม 2566