“อินทรีย์น้อย ลูกหนองไก่ขัน” นักมวยที่เริ่มจากผัดหน้าด้วยแป้งฝุ่น ก่อนจัดเต็มในชุดลิเก

อินทรีย์น้อย ลูกหนองไก่ขัน นักมวย ลิเก
อินทรีย์น้อย ลูกหนองไก่ขัน (ซ้าย) เจ้าของฉายา “จอมลิเก” หรือ “พยัคฆ์ลิเก” เพราะแต่งชุดลิเกขึ้นเวทีทุกครั้ง คนขวาคือ ยโสธร เลือดทักษิณ ซึ่งจะพบกันใน “ศึกลิเกชิงเงินล้าน” 7 เมษายน 2521 ภาพจาก ศิลปวัฒนธรรม, มีนาคม 2561

เมื่อราวปี พ.ศ. 2520 มีนักมวยระดับแชมป์คนหนึ่ง ชื่อ “อินทรีย์น้อย ลูกหนองไก่ขัน” เป็นแชมเปี้ยนมวยไทยรุ่นไลต์เวท เวทีราชดำเนิน นักมวยผู้นี้เมื่อขึ้นเวทีทุกครั้ง เขาจะผัดหน้าด้วยแป้งฝุ่นจนขาวเหมือนลิเก แป้งนั้นความจริงก็เป็นแป้งเสกจากครูบาอาจารย์ของเขานั่นเอง

แต่มีโปรโมเตอร์สมองใสเกิดความคิดที่จะโปรโมตนักมวยผู้นี้ให้เด่นยิ่งขึ้น โดยให้เขาเขียนคิ้ว ทาปาก และแต่งตัวลิเกขึ้นเวที แฟนมวยจึงเรียกเขาว่า “จอมลิเก”

จากนั้นไม่นานมีภาพยนตร์ไทยเรื่อง “พยัคฆ์ลิเก” นำแสดงโดย สรพงศ์ ชาตรี ออกฉาย ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้ดูมาก จากภาพยนตร์เรื่องนี้ อินทรีย์น้อย ลูกหนองไก่ขัน จึงได้รับฉายาใหม่ว่า “พยัคฆ์ลิเก” โดยไม่มีหลักฐานใดยืนยันได้ว่าเขาเคยเล่นลิเกมาก่อนจะมาเป็นนักมวย

แต่ที่จริงแล้ว หากย้อนหลังไปเมื่อ 60 กว่าปีมาแล้ว ก่อนปี 2500 ได้มีนักมวยต้นแบบของนักชกที่เป็นลิเกมาก่อน เขาผู้นั้นมีฝีมือระดับเจ้าสังเวียน มีดีกรีเป็นถึงแชมเปี้ยนหลายตำแหน่ง แฟนมวยตั้งฉายาให้เขาว่า “จอมลิเก” บ้าง “พระเอกลิเก” บ้าง นั่นก็เป็นเพราะว่าก่อนจะก้าวขึ้นมาผงาดอยู่บนสังเวียนมวย เขาเคยเป็นนักแสดงลิเกมาก่อน และแม้เมื่อกลายมาเป็นนักมวยแล้วก็ยังหาโอกาสไปร่วมแสดงลิเกกับพวกพ้องอยู่เสมอ

เขาผู้นั้นคือนักชกที่แฟนมวยจำได้ด้วยชื่อ “ศักดิ์น้อย เจริญเมือง” ตลอดมา แม้ภายหลังจะย้ายไปอยู่ค่ายอื่นๆ ก็ตาม

หนังสือพิมพ์กีฬา ปีที่ 17 ฉบับที่ 784 (พฤษภาคม 2504) ได้กล่าวถึงเขาว่า

“เพียงเขาปรากฏตัวริมเวที แฟนทั่วทั้งสนามก็ขยับตัวเตรียมเชียร์กันเป็นอลหม่าน และแล้วเมื่อเสียงปี่ชวา กลองแขก เริ่มโหยหวน เขาขับตัวร่ายรำไปตามจังหวะ เสียงปรบมือตีตีนก็จะสนั่นหวั่นไหวขึ้นมาอย่างเอิกเกริก นั่นคือสัญญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าทุกคนชอบในลีลาการรำมวยอันอ่อนช้อยและพิศดารของเขา ซึ่งดูไม่ผิดกันเลยกับบทบาทของศิลปินผู้ช่ำชอง

แต่เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น บทบาทของเขาก็จะเปลี่ยนไปในทันที มันมีทั้งความดุเดือดตื่นเต้น และเร้าหัวใจจนสุดประมาณ ฉะนี้เองใครๆ จึงชอบเรียกเขาว่า ‘พระเอกยี่เก’ ทั้งๆ ที่ความจริงเขาคือ นักสู้ผู้ยืนอยู่ในแนวหน้าสุด ซึ่งมีอยู่ไม่กี่คนนักในจักรวาลมวยไทย”

ในฐานะนักชก ศักดิ์น้อยได้ครองตำแหน่งแชมเปี้ยนมวยไทยถึง 5 ตำแหน่งสองรุ่นสองเวที คือ แชมเปี้ยนมวยไทยรุ่นแบนตั้มเวท ของเวทีราชดำเนิน และเวทีลุมพินี และต่อมาก็ได้ครองตำแหน่งแชมเปี้ยนมวยไทยรุ่นเฟเธอร์เวทของทั้งสองเวทีอีก เรียกว่าเป็นดับเบิ้ลแชมเปี้ยนสองรุ่นสองเวที นอกจากนี้ยังเป็นแชมป์มวยรอบครองแผ่นดิน รุ่น 126 ปอนด์อีกด้วย นับรวมทั้งหมดเป็น 5 ตำแหน่งด้วยกัน

สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ “อินทรีย์น้อย ลูกหนองไก่ขัน” แหล่งข้อมูลออนไลน์มีบันทึกไว้ว่า ชื่อจริงคือ ธวัช พิมพ์ทรัพย์

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


หมายเหตุ:

เรียบเรียงเนื้อหาจากบทความเดิมชื่อ “ศักดิ์น้อย เจริญเมือง นักชก ‘ผู้มียี่เกในหัวใจ'” ในนิตยสาร ศิลปวัฒนธรรม ฉบับเดือนมีนาคม 2561


เผยแพร่เนื้อหาในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 5 พฤษภาคม 2564