ผู้เขียน | เสมียนนารี |
---|---|
เผยแพร่ |
“เย้ยฟ้าท้าดิน” เป็นหนึ่งในเพลงโปรดหรือเป็นเพลงประจำตัวของหลายคน ซึ่งหากเจาะจงไปที่บรรดาผู้นำทางทหาร พลเอกเปรมเปรม ติณสูลานนท์ (พ.ศ. 2463-2562) นายกรัฐมนตรีคนที่ 16, ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ฯลฯ เป็นผู้หนึ่งที่มี “เพลงประจำตัว” สำหรับใช้ขับร้องในงานต่าง ๆ ที่ได้รับเชิญ เรียกว่าถ้าเห็นพลเอกเปรมถือไมค์ร้องเพลงเมื่อใด ก็หนีไม่พ้นเพลง “จากยอดดอย”
เพลงจากยอดดอย พ.ต.ณรงค์เดช นันทโพธิ์เดช (ยศขณะนั้น) แต่งคำร้อง อาจารย์แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ ใส่ทำนองแต่งขึ้น เพื่อป็นขวัญกำลังใจให้แก่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามชายแดนที่ต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ เนื้อร้องว่า
“จากยอดดอยแดนไกลใครจะเห็น ยากลำเค็ญเพียงใดใจยังมั่น จะปกป้องผองภัยชั่วนิรันดร์ สิ้นชีวันก็ยังห่วงหวงแผ่นดิน ด้วยหน้าที่ชีวิตรับผิดชอบ คือคำตอบที่รบอยู่มิรู้สิ้น ความภูมิใจลึกล้ำด่ำอาจิณ รักแผ่นดินรักเกียรติศักดิ์นักรบไทย
คิดถึงยอดหฤทัยใจจะขาด แต่ไม่อาจตัดใจทิ้งไปได้ ด้วยหน้าที่ศรัทธาสาใจกาย คงความหมายเกินค่ากว่าชีวี ส่งใจข้ามขอบฟ้าห่วงหาเสมอ หวังเพียงเธอคิดถึงผู้ที่นี่ ขอให้รอวันรุ่งของพรุ่งนี้ ฟ้าคงมีพรชัยให้กับเรา”
หากถ้อยหลังกลับไปดูในอดีต จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นผู้นำอีกท่านที่มีเพลงประตัวเช่นกัน
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ (พ.ศ. 2451-2506) นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 11, ผู้บัญชาการทหารบก ฯลฯ เจ้าของคำพูดที่ว่า “พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ” และ “ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว” เพลงประจำตัวที่ท่านใช้ขับร้องย่อมไม่นุ่มนวลแบบพลเอกเปรม ด้วยไม่เหมาะสมกับบุคลิกภาพ ซ้ำยังขัดแย้งกับภาพลักษณ์ท่านผู้นำอีกด้วย
เพลงประจำตัวที่จอมพลสฤษดิ์ใช้ขับร้องเสมอ ๆ คือ เพลง “เย้ยฟ้าท้าดิน”
เย้ยฟ้าท้าดิน นี้เป็นเพลงเก่าของครูเพลงยุคก่อน เป็นหนึ่งในเพลงที่ผู้แข่งขันประกวดร้องเพลงนิยมใช้กัน เนื้อเพลง ครูชาลี อินทรวิจิตร, สัมพันธ์ อุมากูล ส่วนทำนองเพลงเป็นของ ครูมงคล อมาตยกุล แต่งร่วมกับ ที่ร้องว่า
“ฟ้าหัวเราะเยาะข้าชะตาหรือ ดินนั้นถืออภิสิทธิ์ชีวิตข้า พรหมลิขิตขีดเส้นเกณฑ์ชะตา ฟ้าอินทร์พรหมยมพญาข้าหรือเกรง ขอหัวเราะเยาะเย้ยเหวย ๆ ฟ้า พสุธาอย่าครวญว่าข้าข่มเหง เย้ยทั้งฟ้าท้าทั้งดินสิ้นยำเกรง หรือใครเก่งเกินข้าฟ้าดินกลัว [จอมพลสฤษดิ์ ดัดแปลงเนื้อร้องส่วนนี้]
ข้าขอลิขิตชีวิตข้าเองไม่เกรงดินฟ้า อีกพื้นพสุธาพญายมพรหมอินทร์ทั่ว ข้ากระทำแต่กรรมดีมีหรือจะกลัว มิใช่ใจชั่วลืมตัวหลงลำพอง อันสวรรค์อยู่ในอกนรกนั่นหรือ ข้าก็ถืออยู่ที่ใจไม่หม่นหมอง ละการทำชั่วควรหรือจะกลัวนรกมั่นปอง หากทำดีฟ้าดินต้องคุ้มครองเอย”
เย้ยฟ้าท้าดินเป็นเพลงจากละครเวทีเรื่องเทพบุตรฮ่อ ของ ส. อาสนจินดา เมื่อปี 2497 สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์ เล่นเป็นพระเอกร้องไว้ในเรื่อง จากนั้น สมสกุล ยงประยูร นำมาร้องบันทึกแผ่นเสียงคนแรก ต่อมา สุเทพ วงศ์กำแหง ศิลปินแห่งชาติก็เคยร้อง
เพลงเย้ยฟ้าท้าดินโด่งดังมากในยุค จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ สมัยโน้นเมื่อจอมพลผู้นี้ไปงานไหนและมีดนตรีบรรเลงด้วยก็จะต้องให้เล่นทุกที แถมยังเคยเปลี่ยนเนื้อบางท่อนซะด้วย ที่ว่า “…หรือใครเก่งเกินข้าฟ้าดินกลัว…” เป็น “…หรือใครเก่งเกินข้าเชิญมาลอง…”
ไม่ทราบว่ามีใครลองบ้าง เพราะตอนนั้นท่านถืออาวุธหนักอย่างมาตรา 17 ไว้ในมือ
สำหรับสองผู้นำทหาร ผู้มีบทบาทในประวัติศาตร์การเมืองไทย เลือกทั้งสองเพลงมาขับร้องเป็นเพลงประจำตัว คงไม่ใช่แค่ร้องเอาความบันเทิง หรือเป็นกิจกรรมทางสังคม เขาว่าผู้นำคิดลึกกว่าที่คิด แต่ท่านคิดอะไร เราก็พอจะเดาได้อยู่บ้าง แต่จะตรงหรือเฉไปบ้างอันนี้ก็ไม่แน่ใจ
อ่านเพิ่มเติม :
- “มึงมันชั่ว” เพลงที่นายกฯ อย่างจอมพลสฤษดิ์ทนฟังไม่ได้ และสั่งแบน
- เกิดอะไรขึ้นเมื่อ “เบญจมินทร์” ร้องเพลงพร้อมชี้หน้าจอมพลสฤษดิ์ “ประภาส-ถนอม” อยู่ด้วย
-
เปรียบสฤษดิ์ เป็น “ลิง-ไอ้ลิงบ้ากาม” กับภาพล้อ “อ้ายหน้าลิงกำลังฆ่าประชาธิปไตย”
ข้อมูลจาก :
บูรพา อารัมภีร. “เพลงเย้ยฟ้าท้าดิน”, นิตยสารศิลปวัฒนธรรม กรกฎาคม 2556
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 18 ตุลาคม 2562