“ผ้าขาวม้า” คำยืมใช้จาก “เปอร์เซีย” คนไทยใช้ “ผ้าเคียนพุง”

ผ้าขาวม้า หญิงไทย หนังสือเล่าเรื่องกรุงสยาม คนไทย ไทย ไท คนไท คำ ผ้าขาวม้า
หญิงไทยวัย 14 ปี และชายไทย (ใช้ผ้าขาวม้าพาดบ่าทั้งสองข้าง) ในอดีต (ภาพจากหนังสือ เล่าเรื่องกรุงสยาม โดย ม.ปัลเลอกัวซ์)

คำ ผ้าขาวม้า คำยืมใช้จากเปอร์เซีย คนไทยใช้ผ้าเคียนพุง

ปัญหาเรื่องคำ ผ้าขาวม้า ซึ่ง มร.เดอ ลาลูแบร์ บันทึกไว้อย่างชัดเจน และคุณสันต์ ท. โกมลบุตร แปลจากต้นฉบับภาษาฝรั่งเศสโดยตรงไว้อย่างดีเยี่ยม จึงขอคัดลอกคำแปลของท่านแบบคงอักขรวิธีตามต้นฉบับ คือ

14. ความละอายในการเปลือย

แต่อย่างไรก็ดีการเปลือยการ (น่าจะเป็น กาย-ชลอ) โดยทำนองนี้ใช่ว่าชาวสยามจะไร้ยางอายก็หาไม่ ตรงกันข้าม ชายและหญิงในประเทศนี้กลับเป็นชนชาติที่มีความตะขิดตะขวงใจเป็นอย่างยิ่งในโลก ที่เผยส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ซึ่งทำเนียมกำหนดให้ปิดบังไว้ออกให้ใคร ๆ เห็น พวกผู้หญิงที่นั่งขดอยู่ในเรือเมื่อวันที่เอกอัครราชทูตพิเศษของสมเด็จพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสแห่เข้าพระนคร ยังรีบผินหลังให้ขบวนแห่ทันที

ส่วนคนที่อยากเห็นเต็มแก่ก็เพียงเหลียวหลังข้ามไหล่มาดูเท่านั้น เราต้องจ่ายผ้าขาวม้าให้ทหารฝรั่งเศสนุ่งเมื่อลงอาบน้ำตามถิ่นท่า (น่าจะเป็นตีนท่า-ชลอ) เพื่อระงับข้อคระหาของชาวเมืองที่เห็นทหารฝรั่งเศสเปลือยกายล่อนจ้อนลงอาบน้ำในแม่น้ำ

คงเห็นชัด ในสมัยอยุธยาชาวไทยใช้ผ้าขาวม้านั่งอาบน้ำ

ชาย สยาม ดูด บุหรี่ แต่งกาย ด้วย ผ้าขาวม้า พาดบ่า

จะอย่างไรก็ตามจิตรกรรมตามฝาผนัง จะเห็นภาพชายชาวไทยใช้ผ้าผาดบ่า อาจจะเป็นภาพที่เกิดขึ้นก่อนสมัยอยุธยาก็ได้บางทีผ้าเหล่านั้นก็ใช้คาดพุง ซึ่งคนบ้านนอกอย่างคนเขียนนี้เรียก “ผ้าเคียนพุง”

ตอนเป็นเด็ก ๆ ผู้บังเกิดเกล้าใช้ให้ไปหยิบผ้าเคียนพุง ก็หยิบได้ถูกต้อง ครั้นโตขึ้นไปอาศัยข้าวก้นบาตรพระที่วัดข้างบ้าน หิดขึ้นเต็มง่ามมือทั้งสองข้าง พระท่านใช้ให้ไปหยิบผ้าดินแดง ก็หยิบได้ถูกต้อง เพราะเป็นผ้าเคียนพุงของพระท่าน ครั้นโตขึ้นอีกหน่อยมีโอกาสเข้าไปเรียนหนังสือในตัวเมือง พวกเพื่อน ๆ ว่าต้องนุ่งผ้าขาวม้าอาบน้ำ (ความจริงพวกเพื่อน ๆ เรียก ผ้าขาม้า มากกว่าผ้าขาวม้า)

จึงได้รู้ว่า “ผ้าขาวม้า” ก็คือ “ผ้าเคียนพุง” นั่นเอง

ต่อมาอ่านหนังสือได้แต่ไม่แตก จึงทราบว่า ปราชญ์หลายท่านเขียนถึงคำ ผ้าขาวม้า ไว้หลายแห่ง จนกระทั่ง พ.ศ. 2540 กรมศิลปากร จัดพิมพ์หนังสือ “อภิธานศัพท์คำไทย ที่มีต้นเค้ามาจากภาษาต่างประเทศ” คงเก็บคำนี้ไว้เช่นกัน ดังข้อความ

ผ้าขาวม้าเป็นคำไทยมีต้นเค้ามาจากภาษาเปอร์เซีย มีคำเต็มว่า กามาร์ บันด์ (Kamar band)

กามาร์ แปลว่า เอว หรือ ท่อนล่างของร่างกาย ส่วน บันด์ แปลว่า พัน, รัด, หรือ คาด.

เมื่อรวมกันเป็น กามาร์ บันด์ จึงหมายถึง เข็มขัด, ผ้า พัน, หรือ รัด, หรือ คาดสะเอว

คำ กามาร์ บันด์ นี้ยังมีปรากฏอยู่ในภาษาอื่น ๆ อีก เช่น ภาษามลายู มีคำ กามาร์บัน (Kamarban) หมายถึง ผ้าพันสะเอว ภาษาฮินดี มีคำ กามาร์บันด์ (Kamarband) คือ ผ้าใช้รัดเอว และภาษาอังกฤษมีคำ คัมเมอร์บันด์ (Cummerband) ด้วย

ข้อความทั้งหมดข้างต้นนั้นเป็นข้อเขียนของคุณพรพรรณ ทองต้น ซึ่งเขียนลงในหนังสือที่กรมศิลปากร จัดพิมพ์จำหน่ายดังกล่าวแล้ว พอเห็นภาษาอังกฤษเข้าก็เหมือนยาหม้อใหญ่เข้าอีก จึงลองค้นหาคำ Cummerbund จาก The Compact Edition of the Oxford English Dictionary เขียนอธิบายไว้ คือ

Cummerbund : [Urdū and Pers. kamer band, i, e, lion-band] A sash, or gindle worn round the waist, a waist belt.

ทําไมค้นหาคำ Cummerbund ไม่ค้นหาคำ Cummerband เรื่องนี้ตอบได้ พจนานุกรมอังกฤษใช้ Cummerbund อเมริกาใช้ Cummerband (อย่าถามว่า ทำไมเป็นอย่างนั้น เพราะภาษานี้ตามง้อเขามาหลายทศวรรษแล้ว เขาไม่ใคร่จะญาติดีด้วย เขางอนและเล่นตัวมาก ขณะนี้ยังตามง้อเขาอยู่ จะเห็นได้ชัด รากศัพท์นั้นตรงกับหนังสือศิลปากรพิมพ์จำหน่าย)

ด้วยเหตุนี้ “ผ้าขาวม้า” จึงเป็นคําของเปอร์เซียเขา ไม่คำไทย

ผ้าเคียนพุง เชื่อว่าเป็นคำไทยแน่ ๆ คนบ้านนอกรุ่น 70 ขวบขึ้นไปเคยได้ยินคำนี้มาก่อนคำ ผ้าขาวม้า

ภาพสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีชาวสยาม (จากหนังสือ The Land of the White Elephant เขียนโดย Frank Vincent)

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่ 


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 12 เมษายน 2562