ความเชื่อเรื่องกิจกรรมแรกของตรุษจีน “ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์” รายงานดี-ชั่วของมนุษย์

ภาพประกอบเนื้อหา - ภาพเขียน เง็กเซียนฮ่องเต้ (Jade Emperor) ในจินตนาการ ภาพจาก Daoist deity: Jade Emperor. Boston: Museum of Fine Arts สิทธิใช้งาน public domain

กิจกรรมแรกของตรุษจีน “ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์” ส่งรายงานประจำปีใครทำดี-ชั่ว รายงานพฤติกรรมมนุษย์โลก

เทศกาลตรุษจีนเริ่มกับกิจกรรมแรกในวันนี้ วัน 23 ค่ำ เดือน12 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน (มีบางถิ่นใช้วันที่ 24 หรือ 25 ค่ำ เดือน 12 ก็มี) ในการส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ (神上天) เป็นกิจกรรมแรกของเทศกาลตรุษจีนของแต่ละปี

ซึ่งเรื่องนี้การ “ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์นั้น” เจ้าที่ว่าเป็นใครมีความเชื่อเป็น 2 แนวทางด้วยกัน

1. การส่งเฉพาะ “เจ้าเตาไฟ”  ขึ้นไปรายงานพฤติกรรมมนุษย์  โดยหลังจากมนุษย์รู้จักใช้ไฟปรุงอาหารแล้ว เตาก็เข้ามามีบทบาทสําคัญ จนไม่สามารถขาดได้ เป็นเหตุให้เกิดประเพณีรําลึกถึงเตาไฟขึ้นในสมัยโบราณ แล้ววิวัฒนาการมาเป็นการบูชาเจ้าเตาไฟ ด้วยเชื่อว่าเตาไฟมีเทพเจ้าสิงสถิตอยู่

เตาไฟที่เจ้าเตาสถิตนั้น ไม่ใช่เตาขนาดเล็กที่หิ้วเคลื่อนย้ายไปมา แต่เป็นเตาขนาดใหญ่ที่ติดตั้งประจำอยู่ในครัวที่เรียกว่า เจ่า (灶) เจ้าเตาไฟเป็นเจ้าไม่มีศาล ไม่มีผู้สร้างศาลให้โดยเฉพาะ และไม่มีภาพหรือรูปปั้นตั้งรวมอยู่ในศาลเจ้าตลอดจนวัดวาอารามแห่งใด ทั้งนี้เพราะถือกันว่าท่านอยู่ประจําที่เตาไฟในทุกครัวเรือน เจ้าเตาไฟเป็น 1 ใน 5 เทพประจําบ้าน ในสมัยโบราณ คือ เทพแห่งเตาไฟ เทพแห่งประตูบ้าน เทพแห่งประตูห้อง เทพ แห่งบ่อน้ำ (อยู่ในบ้าน) และเทพแห่งห้องโถงกลาง เทพทั้งห้านี้มีหน้าที่คุ้มครองคนในบ้าน ภายหลังคติการบูชาเทพทั้งห้านี้เสื่อมลง คงเหลือแต่เทพแห่งเตาไฟ และเทพแห่งประตูบ้านเท่านั้น

เจ้าเตาไฟเป็นเทพที่เง็กเซียงฮ่องเต้ประมุขแห่งสวรรค์ส่งลงมาอยู่ ประจําบ้านเรือนมนุษย์ มีหน้าที่คุ้มครองป้องกันและจดบันทึกการกระทําของคนในครอบครัวนั้น แล้วกลับขึ้นไปรายงานปีละครั้ง เง็กเซียงฮ่องเต้จะพิจารณาจากรายงานนั้นแล้วลิขิตชะตาชีวิตในปีต่อไปของแต่ละคน

2. การส่งเจ้าทั้งหลายที่อยู่ในโลกมนุษย์ขึ้นไปสวรรค์ เทพเจ้าทั้งหลายเมื่อไปพบเง็กเซียงฮ่องเต้ประมุขแห่งสวรรค์ ก็จะนำบันทึกที่แต่ละท่านจดไว้ไปรายงานพฤติกรรมขอมนุษย์โลกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ใครทำดีทำชั่ว คดโกง สุจริต กันอย่างไรบ้าง เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาในการลิขิตชะตาชีวิตมนุษย์แต่ละคน เทพเจ้าจะกลับจากสวรรค์ในวัน 4 ค่ำ เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน (บางถิ่นว่า 30 เดือน 12) ระหว่างที่โลกปลอดจากเทพเจ้านี้ แล้วมนุษย์โลกมีใครเป็นผู้ที่คุ้มครอง?  คำตอบบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วจะค่อยคุ้มครองลูกหลานของตนแทนชั่วคราว

ด้วยเหตุนี้จึงมีการจัดพิธีเซ่นไหว้ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ เพื่อเป็นการเอาใจให้ท่านไปรายงานแต่สิ่งที่ดีงาม มีเรื่องเล่าเรื่องของไหว้ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ว่า บางถิ่นใช้ขนมหวานเหนียวไหว้ ว่ากันว่าเพื่อให้ติดปากติดฟัน จนเจ้าพูดไม่สะดวก จะได้รายงานความชั่วของมนุษย์น้อยๆ  บ้างก็เอาเหล้าไปป้ายที่ช่องใส่ฟืน ซึ่งถือว่าเป็นปากของเจ้าเตาไฟ เพื่อให้ท่านมาจนรายงานไม่ได้ คงจะคิดว่าท่าน เป็นคนเมาประเภทเมาสะจึมสะลือ มากกว่าเมาช่างพูด พร้อมกับอ้อนวอนเจ้าให้ท่านไปรายงานแต่เรื่องดีงาม

ส่วนการเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านเรือนนั้น ก็เป็นเหตุสืบเนื่องกัน มีนิทานชาวบ้านเล่าว่าในอดีต เง็กเซียงฮ่องเต้ต้องการทราบความเป็นไปในโลกมนุษย์ จึงส่งเทพสามศพมาคอยสอดส่องดูแล พอถึงปลายปีเทพสามศพกลับไปรายงานว่า พวกมนุษย์มีแต่ความหยาบคาย กล้าด่าแม้กระทั่งเง็กเซียงฮ่องเต้ๆ กริ้วมาก สั่งให้เทพสามศพตรวจสอบกวดขัน ผู้ใดด่าท่านให้เขียนชื่อผู้นั้นไว้ที่ฝาผนังบ้านของคนด่า ถึงปลายปีจะส่งทหารสวรรค์ลงไปจับคนเหล่านั้นมาลงโทษ

เจ้าเต่าบังเอิญไปทราบเรื่อง จึงคิดหากทางช่วยด้วยการบอกให้มนุษย์ทำความสะอาดบ้านประจำปีในช่วงสิ้นปี เมื่อทหารสวรรค์ลงมาตรวจดูตามฝาผนังก็ไม่พบรายชื่อเลยแม้แต่คนเดียว มนุษย์ปากร้ายที่นินทาเง็กเซี้ยงฮ่องเต้จึงพ้นภัย


ข้อมูลจาก

ถาวร สิกขโกศล. เทศกาลจีนและการเซ่นไหว้. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มติชน. 2557


แก้ไขปรับปรุงเนื้อหาในระบบออนไลน์เมื่อ 28 มกราคม 2562