“เจ้าไม่มีศาล” ในวัฒนธรรมจีน “เกียงไท้กง” บุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์

โจวเหวินหวาง-ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์โจวไปเชิญเกียงจือแหยในวัย 70 กว่า มาเป็นที่ปรึกษาและแม่ทัพ

เกียงจูแหย (เสียงจีนกลางว่า “เจียงจื่อหยา”) นิยมเรียกกันทั่วไปอย่างยกย่องว่า “เกียงไท้กง-ผู้อาวุโสแซ่เกียง” เกียงไท้กงเป็นบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ และยังจัดเป็นยอดคนผู้ยิ่งใหญ่ทั้งคุณธรรมและความสามารถ มีความรู้เชี่ยวชาญทั้งบุ๋นและบู๊ แม้แต่ขงเบ้งก็ยังนับถือเป็นบุคคลในอุดมคติของตน  

แต่ชะตาชีวิตก็เล่นตลกทั้งๆ ที่เกียงไท้กงเป็นคนใฝ่รู้ มีความรู้มาก ในวัยหนุ่มกลับไม่ประสบความสำเร็จต่อเมื่อบั้นปลายจึงได้ดี เมื่อเกียงไท้กงอายุ 70 กว่าปี โจวเหวินหวางปฐมกษัตริย์ผู้สถาปนาราชวงศ์โจว มาเชิญเขาด้วยตนเองเพื่อให้ไปเป็นที่ปรึกษาและแม่ทัพเพื่อล้มราชวงศ์ซาง

เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ เป็นภาพจิตรกรรมหนึ่งที่เห็นบ่อยตามศาลเจ้า, โรงเจ ฯลฯ คือภาพขุนนางยืนอยู่กับคนแก่ที่ตกปลาริมน้ำ ชื่อว่าภาพ “โจวเหวินหวางเชิญเมธี” ชายที่ใส่ชุดขุนนาง-โจวเหวินหวาง ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์โจว, ส่วนคนแก่ตกปลา-เกียงไท้กง เป็นปราชญ์เมธีผู้มีความสามารถ (ซึ่งเป็นตอนหนึ่งในวรรณกรรมจีนเรื่องห้องสิน) ภาพนี้สื่อความหมายเป็นนัยๆ เรื่องการเลือกใช้คนให้เหมาะสมกับงาน แล้วยังเป็นกำลังใจให้คนยังไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพให้สะสมความรู้ ฝึกฝนฝีมือ รอเวลาของตัวเอง

ส่วนเกียงไท้กงเมื่อไปอยู่กับโจวเหวินหวางก็ช่วยวางแผนทำศึกโค้นราชวงศ์ซางและสถาปนาราชวงศ์โจวสำเร็จ ตัวท่านเองได้เป็นเจ้าผู้ครองนครไปครองแคว้นฉี ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าตงอี๋ต่างเชื้อชาติ ต่างวัฒนธรรม แต่เกียงไท้กงไม่ได้ใช้อํานาจบังคับให้พวกตงอี๋ทิ้งวัฒนธรรมตนเอง กลับศึกษายอมรับวัฒนธรรมท้องถิ่น และปรับปรุงพัฒนาอย่างเหมาะสม ให้เกิดความกลมกลืนก้าวหน้าจนแคว้นฉีกลายเป็นมหาอำนาจและอู่อารยธรรมจีนสำคัญแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและการศึกษา ก็เพราะเกียงไท้กงวางรากฐานไว้

นอกจากความรู้ความสามารถ เกียงไท้กงยังมีและชื่อเสียงเรื่องความยุติธรรมและเสียสละ ในวรรณกรรม “ห้องสิน-สถาปนาเทวดา” เกียงไท้กงจึงได้รับเทวโองการ ให้แต่งตั้งวิญญาณนักรบและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการรบระหว่างของฝ่ายโจวเหวินหวาง และฝ่ายของราชวงศ์ซางให้เป็นดาวหรือเทพประจำถิ่นตามความเชื่อของจีน

เกียงไท้กงก็แต่งตั้งทุกตำแหน่งอย่างยุติธรรมไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเดียวกันหรือฝ่ายศัตรู เช่นในเรื่องห้องสินกล่าวว่า “เกียงจูแหยยกความชอบว่าบุนไท้สือเข้าด้วยพระเจ้าติวอ๋อง [กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ซาง] ผู้ผิดก็จริง แต่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของตนจนตัวตายในที่รบ ให้เป็นกี๋เถียนเอง หงวนหลุยเสียโผฮั่วเทียนจุ๋น แปลว่าเป็นเจ้ารามสูรในเก้าชั้นฟ้า” ท่านแต่งตั้งผู้อื่นเป็นดาว และเทพต่างๆ ทั่วหน้า แต่ตัวเองไม่ได้ตำแหน่งอะไรเลย

นิทานชาวบ้านเรื่องหนึ่งเล่าถึงความเสียสละของเกียงไท้กงว่า เดิมที่เกียงไท้กงจะเอาตำแหน่งเจ้าแห่งเขาไท่ซันคุมยมโลกทั้งหมด และการเซ่นสรวงฟ้าดินของกษัตริย์จีน (ซึ่งต้องไปทำพิธีที่เขาไท่ซัน) แต่เผอิญท่านลืมแต่งตั้งอึ้งปวยฮอแม่ทัพตงฉินของพระเจ้าติวอ๋อง จึงต้องยกตำแหน่งนี้ให้อึ้งปวยฮอ ทำให้ตนเองกลายเป็น “เจ้าไม่มีศาล”

พวกเทพทั้งหลายซาบซึ้งในความสุจริตยุติธรรมของเกียงไท้กงมาก จึงประชุมลงมติกันว่า ถ้าเกียงไท้กงไปถึงที่ใด เทพเจ้าของถิ่นและเทพแห่งความชั่วร้ายทั้งหลายต้องถอยห่างออกไป เพื่อให้ถิ่นนั้นมีแต่ความสุขสวัสดีด้วยบารมีของเกียงจูแหย ฉะนั้นคนจีนจึงนิยมเขียนรูปท่าน พร้อมกับข้อความว่า 姜太公在此 百无禁忌 เกียงไท้กงต่อชื่อ แป๊ะบ่อกิ้มกี๋-เกียงไท้กงอยู่ที่นี่ ไม่มีข้อห้ามอัปมงคลทั้งสิ้น” (บ้างใช้ว่า “姜太公在此 百事无忌 เกียงไท้กงต่อชื่อ แป๊ะสื่อบ่อกี๋-เกียงไท้กงอยู่ที่นี่ งานทุกเรื่องไม่มีข้อห้ามไม่ชง”) ปัจจุบันนิยมเขียนแต่เฉพาะวรรคหลังว่า 百事无忌 แป๊ะสื่อบ่อกี๋-งานทุกเรื่องไม่มีข้อห้ามไม่ชง”

ส่วนมากข้อความข้างต้นมักพบเห็นในงานศพของชาวจีน โดยเขียนบนกระดาษเหลือง เพราะตามหลักโหราศาสตร์จีน ผู้ตายหรือเจ้าภาพกับแขกผู้มางานบางคนดวงชะตา “ชง- ขัดแย้ง” กัน การเขียนข้อความดังกล่าวไว้แม้จะเป็นความเชื่อเรื่องโชคลางผีสาง แต่ก็แสดงไมตรีของเจ้าภาพทีี่มีต่อแขก

 


ข้อมูลจาก

ถาวร สิกขโกศล. “ชวนอ่านเรื่องห้องสิน” ใน, ห้องสิน สถาปนาเทวดาจีน, สำนักพิมพ์สร้างสรรค์, พฤศจิกายน 2549

เสี่ยวจิว. ตัวตนคน ‘แต้จิ๋ว’, สำนักพิมพ์มติชน, กันยายน 2554


เผยแพร่ครั้งแรกในระบบออนไลน์เมื่อ 17 พฤษภาคม 2564