“สำเนียงหลวงอยุธยา” มาจาก “สำเนียงเหน่อสุพรรณบุรี” รากเหง้าสำเนียงโคราช?

จิตรกรรมฝาผนัง ขุนช้างขุนแผน วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
“วัดวาอาราม กุฏิพระสงฆ์ และบ้านเรือนริมน้ำ” จิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่อง ขุนช้างขุนแผน ที่ระเบียงคดรอบวิหารหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ จังหวัดสุพรรณบุรี เขียนโดย เมืองสิงห์ จันทร์ฉาย

รัฐสุพรรณภูมิ (สุพรรณบุรี) ใช้ภาษาไทย (สำเนียงเหน่อ ลาวลุ่มน้ำโขง) ในตระกูลไต-ไท เป็นภาษากลางทางการค้าทางบกกับทางดินแดนภายใน สถาปนาภาษาไทยและความเป็นไทยในรัฐอยุธยา

ตั้งแต่แรกเริ่มสถาปนากรุงศรีอยุธยา ใช้ภาษาเขมรเป็นหลักสืบจากรัฐละโว้ (ลพบุรี) ทั้งในราชสำนักและในคนทั่วไป นอกนั้นใช้ภาษามอญ, ภาษามลายู, และภาษาอื่นๆ

สำเนียงหลวงจากสุพรรณ ประชากรรัฐสุพรรณภูมิพูดภาษาไทย (ตระกูลไต-ไท) เคลื่อนย้ายไปอยู่ในอยุธยาเป็นเจ้านายขุนนาง, ข้าราชการ, พลไพร่ และประสมประสานกลุ่มคนดั้งเดิมที่อยู่มาก่อน ได้แก่ตระกูลมอญ-เขมร, ชวา-มลายู ฯลฯ นับตั้งแต่นั้น สำเนียงเหน่อ “สุพรรณ” ก็กลายเป็นสำเนียงหลวงอยุธยา พยานสำคัญได้แก่ เจรจาโขนด้วยลีลายานคางสำเนียงเหน่อ

สำเนียงโคราช กับเพลงโคราชมีพัฒนาการความเป็นมาโยกย้ายเข้ามาตั้งหลักแหล่งในโคราชคราวเดียวกัน จากลุ่มน้ำเจ้าพระยาภาคกลาง

สำเนียงโคราช น่าจะมีรากเหง้าเค้าต้นจากสำเนียงหลวงกรุงศรีอยุธยาของคนต้นอยุธยาที่พูดเหน่อ (แบบลาว)

หลัง พ.ศ. 2000 อยุธยาสถาปนาเมืองนครราชสีมา และสร้างกำแพงอิฐ กว่าจะสำเร็จมั่นคงลงหลักปักฐานต้องมีกำลังคนของอยุธยาจำนวนไม่น้อยถูกเกณฑ์ให้เคลื่อนย้ายมาตั้งหลักแหล่งที่แม้จะต่างชาติพันธุ์ เช่น มอญ, เขมร, มลายู แต่ต้องสื่อสารด้วยภาษาไทย (ในตระกูลภาษาไทย-ลาว) ที่มีสำเนียงต่างจากคนไทยใช้พูดทุกวันนี้ ได้แก่สำเนียงสองฝั่งโขง ซึ่งแพร่กระจายอยู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยามาก่อนนานแล้ว ที่ปัจจุบันเรียก สำเนียงเหน่อ แต่ทางลุ่มน้ำมูลจะเรียกภายหลังว่าสำเนียงโคราช ใกล้เคียงสำเนียงระยองและจันทบุรีทางชายทะเลฝั่งตะวันออก

เพลงโคราช เป็นเพลงโต้ตอบของหญิง-ชาย (ที่นักวิชาการสมัยหลังเรียกด้วยคำบาลี-สันสกฤตให้ยากขึ้นว่าเพลงปฏิพากย์) มีพัฒนาการคราวเดียวกับสำเนียงโคราช ต่างกันแต่สำเนียงโคราชเป็นร้อยแก้ว ส่วนเพลงโคราชเป็นร้อยกรอง ประเภทกลอนหัวเดียว ฉันทลักษณ์เดียวกันกับเพลงฉ่อยของลุ่มน้ำเจ้าพระยาภาคกลาง ในบทไหว้ครูเพลงฉ่อย มีกล่าวถึงครูเพลงโคราชพาดควาย (หมายถึงเพลงโคราชกับเพลงพาดควายเป็นสองเพลง) ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับเพลงฉ่อย

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

“สุจิตต์ วงษ์เทศ : สำเนียงหลวงยุคอยุธยา ปัจจุบันเรียกเหน่อ ตกค้างตามท้องถิ่นต่างๆ”. มติชนออนไลน์

สุจิตต์ วงษ์เทศ. โคราชของเรา. มติชน, 2558


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2561