วิจิตรงดงาม ชมภาพโมเสก “รัชกาลที่ 5 และประวัติวัดราชบพิธ” ณ โรงงานที่อิตาลี

ภาพโมเสก รัชกาลที่ 5 วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
ภาพโมเสก “รัชกาลที่ 5” ที่จัดทำ ณ โรงงาน Travisanutto Mosaics สาธารณรัฐอิตาลี (ภาพจาก Facebook : Tongthong Chandransu)

ภาพโมเสก “พระคุณ 10 ประการ แห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และประวัติวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม” เป็นโครงการจัดสร้างกระเบื้องโมเสกเพื่อประดับผนังภายในพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม สนองพระราชดำริใน รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 ตามที่เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระนโยบาย โดยโครงการนี้มีพิธีลงนามสัญญาจ้างจัดทำ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2565

ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม 2566 ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ และคณะ ซึ่งเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปติดตามความก้าวหน้าของโครงการจัดสร้างกระเบื้องโมเสกถึงโรงงานที่สาธารณรัฐอิตาลี เขียนเล่าถึงการดำเนินงานโครงการนี้ไว้ในเฟซบุ๊ก Tongthong Chandransu ว่า

“เช้าวันนี้ผมตื่นขึ้นมาพบกับอากาศที่สดใสและหนาวเย็นชื่นใจของเมืองเทรวิโซ เมื่อกินอาหารเช้าในโรงแรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว คณะของเราก็ออกเดินทางก่อนเวลา 09:00 น. เล็กน้อย เพื่อไปยังเมืองเล็กๆ อีกเมืองหนึ่งชื่อ Spilimbergo ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองที่เราแรมคืนเป็นระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร ระยะทางไม่ไกลแต่ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงครับ เพราะรถวิ่งบนถนนขนาดใหญ่ได้ไม่นานก็ต้องเลี้ยวลงไปวิ่งถนนเส้นเล็กเพื่อไปเมืองเล็กให้พอสมน้ำสมเนื้อกัน

ทำไมพวกเราทุกคนจึงต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงเมืองเล็กๆ ที่คนไทยทั่วไปไม่เคยได้ยินชื่อเสียงมาก่อน เรื่องนี้มีเหตุผลที่มาที่ไปครับ

ภาพโมเสก รัชกาลที่ 5 วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
ภาพโมเสก “พระเกียรติคุณในรัชกาลที่ 5” (ซ้าย) ที่ทำเสร็จเรียบร้อยโดยช่างอิตาลี (ขวา) ต้นฉบับภาพเขียนจากฝ่ายไทย (ภาพจาก Facebook : Tongthong Chandransu)

เหตุผลมีอยู่ว่า เมื่อตอนต้นรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างวัดราชบพิธขึ้นเป็นพระอารามหลวงอย่างวิจิตรด้วยหมายพระราชหฤทัยให้เป็นวัดประจำรัชกาล ภายในพระอุโบสถ พื้นที่ระหว่างช่องหน้าต่างซึ่งมีจำนวนกว่าสิบช่องนั้น ทรงพระราชดำริให้มีภาพประดับเป็นโมเสก ซึ่งเป็นงานศิลปะอย่างตะวันตกและมีความคงทนถาวรอยู่ได้นานนับร้อยปีหรือนานกว่านั้นเสียด้วยซ้ำ ดังตัวอย่างที่ปรากฏอยู่ที่พระบรมรูปทำด้วยศิลปกรรมชนิดนี้ประดิษฐานอยู่ที่มุขด้านหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท แต่การที่ทรงพระราชดำรินี้ยังไม่ทันได้ดำเนินการให้เป็นกิจลักษณะ เรื่องก็ค้างอยู่จนสิ้นรัชกาล

ครั้นมาถึงรัชกาลที่ 7 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบพระราชดำริเดิมของสมเด็จพระบรมชนกนาถ จึงมีพระราชปรารภที่จะดำเนินการเรื่องนี้ให้สำเร็จเรียบร้อย ได้ทรงขอให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพระดำริว่าภาพแต่ละภาพที่จะทำด้วยโมเสกเพื่อประดับระหว่างช่องหน้าต่างในพระอุโบสถวัดราชบพิธ ควรเป็นเรื่องใดภาพใด ที่สุดมีพระมติเห็นพ้องกันว่าควรจะเป็นภาพเกี่ยวกับพระคุณในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 10 ประการ เช่น พระเกียรติคุณ และพระกรุณาคุณ โดยทรงอธิบายขยายความไว้ด้วยว่าพระคุณแต่ละข้อนั้นประกอบด้วยเรื่องใดบ้าง แต่ท้ายที่สุดแล้วเรื่องนี้ก็ค้างอยู่เช่นเดิม ยังมิได้ดำเนินการให้สำเร็จลุล่วงตามพระราชประสงค์ของพระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์

จนมาเมื่อไม่กี่ปีมานี้ในโอกาสฉลองครบรอบ 150 ปีวัดราชบพิธ [พ.ศ. 2563] สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงพระดำริให้รื้อฟื้นการจัดทำภาพโมเสกชุดนี้ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ผมและผู้ที่ร่วมเดินทางมาในคณะคราวนี้ล้วนแต่มีโอกาสวาสนาสนองพระคุณในงานดังกล่าว การจัดทำภาพโมเสกอย่างนี้เมืองอิตาลีเขามีฝีมือมาแต่ดั้งเดิม หลังจากเลือกเปรียบเทียบกันหลายประเทศหลายโรงงาน โรงงานชื่อ Travisanutto Mosaics ก็ได้รับคัดเลือกให้ทำงานชิ้นสำคัญนี้ โดยฝ่ายไทยเราเป็นผู้ยกร่างภาพวาดแสดงพระคุณทั้ง 10 ประการ บวกด้วยภาพประวัติวัดราชบพิธอีกสองภาพ แล้วส่งต้นฉบับภาพเขียนนั้นมาให้ทางโรงงานทำเป็นภาพโมเสก นี่แหละครับเราถึงต้องเดินทางมาเห็นของจริงและพูดคุยกับเจ้าของโรงงานรวมถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งปวง

ภาพโมเสก รัชกาลที่ 5 วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
ภาพโมเสก “พระอุปถัมภคุณในรัชกาลที่ 5” ที่ทำเสร็จเรียบร้อยโดยช่างอิตาลี (ภาพจาก Facebook : Tongthong Chandransu)

เมื่อคณะห้องเราไปถึงโรงงานก็เป็นเวลา 10:00 น. เข้าไปแล้ว ทางฝ่ายอิตาลีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ผมได้พบกับนายกเทศมนตรีของเมืองที่มารอต้อนรับ ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโรมซึ่งช่วยเหลือเรามาตั้งแต่ต้นก็กรุณาจัดเจ้าหน้าที่มาเป็นผู้ประสานงานด้วย ด้านหน้าโรงงานติดธงไทยกับธงอิตาลีไว้คู่กัน โก้เชียวครับ

เมื่อเราเข้าไปในโรงงานภารกิจแรก คือ การตรวจตราดูภาพโมเสกสามภาพแรกที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังสามารถติชมแนะนำได้ ทั้งคำแนะนำติชมนั้นจะได้ใช้เป็นแนวทางในการจัดทำภาพที่ยังคงเหลือค้างอยู่ต่อไปด้วย ข้อสำคัญที่สุดคือนอกจากพวกเราที่เดินทางมาแบบตัวเป็นๆ แล้ว ทางฝั่งเมืองไทย เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราชและผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธ ได้โปรดเมตตาประชุมออนไลน์กับพวกเราด้วย เทคโนโลยีสมัยนี้วิเศษมากครับ

บรรยากาศการประชุมตรวจงานทางออนไลน์ (ภาพจาก Facebook : Tongthong Chandransu)

เจ้าประคุณสมเด็จสามารถเห็นรายละเอียดของชิ้นงาน และร่วมซักถามให้คำแนะนำได้ในทุกขั้นตอน หลังจากใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าประคุณสมเด็จเมตตาถามความเห็นของคณะเดินทางว่าเห็นเช่นไร พวกเรากราบเท้านมัสการว่า โดยข้อใหญ่ใจความแล้วงานทุกอย่างเรียบร้อยดี มีคำแนะนำเล็กน้อยสองสามอย่างที่เราพูดคุยกับทางโรงงานและเขารับปากว่าสามารถทำได้ทุกอย่างตามความปรารถนาของเรา เป็นอันจบการประชุมออนไลน์ข้ามทวีป

จากนั้นเราได้เดินดูเทคนิควิธีทำงานของโรงงานแห่งนี้ กระเบื้องโมเสกที่นำมาตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยมีสีให้เลือกถึง 3000 กว่าสี ขยายความว่า เช่น สีเขียวก็อาจจะมีเขียวได้ตั้งยี่สิบเขียวสามสิบเขียวต่างๆกัน ภาพเขียนที่ส่งไปจากเมืองไทยทางโรงงานต้องทำเป็นภาพกลับด้านแล้วให้ช่างทั้งหลายช่วยกันนำโมเสกมาประดับเป็นแผ่นให้เต็มรูป สำเร็จแล้วจึงพลิกกลับ ภาพที่ปรากฏกับสายตาคนทั่วไปจึงเป็นภาพปกติ ไม่กลับหน้ากลับหลังอย่างเวลาทำงาน

การทำงานประดับโมเสกของช่างอิตาลี (ภาพจาก Facebook : Tongthong Chandransu)

การประดับโมเสกก็มีช่างแผนกต่างๆ เช่น แผนกหนึ่งทำงานละเอียด ได้แก่ใบหน้าและเสื้อผ้าอาภรณ์ต่างๆ เฉพาะพระพักตร์หรือใบหน้าคนที่อยู่ในรูป พระองค์เดียวหรือหนึ่งคนก็ต้องใช้สีเนื้อหลายสีเต็มทีประกอบกันเข้ากลมกลืนให้เห็นงาม ถ้าเป็นภาพที่เป็นส่วนประกอบก็ใช้ช่างอีกแผนกหนึ่งที่มีความสันทัดสมกับหน้าที่ ภาพสามภาพที่เราได้ชมวันนี้ใช้เวลาทำมาเกือบปีแล้ว ลองคำนวณบัญญัติไตรยางค์ดูก็แล้วกันครับว่ากว่าจะเสร็จโครงการต้องใช้เวลาอีกกี่มากน้อยเท่าใด

ควรบันทึกไว้ด้วยว่าโรงงานนี้เป็นโรงงานสามชั่วคนแล้ว ตัวเจ้าของโรงงานที่ผมเคยได้พบทั้งที่เมืองไทยและได้พบในวันนี้เป็นชั่วคนที่สอง คุณพ่อของเขาซึ่งมีฝีมือชั้นครูเป็นคนแรกของสกุลที่ทำงานนี้ ขณะเดียวกันกับที่ลูกชายของคุณเจ้าของก็เข้ามา เตรียมพร้อมที่จะรับช่วงกิจการโรงงานต่อไปแล้ว ผมได้ขอให้สามคนทั้งคุณปู่คุณพ่อและคุณลูกถ่ายภาพร่วมกัน ดูสนุกครึกครื้นดีครับ”

ภาพโมเสก รัชกาลที่ 5 วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
คุณปู่คุณพ่อและคุณลูกถ่ายภาพร่วมกัน โรงงานโมเสกนี้เป็นโรงงานสามชั่วคน (ภาพจาก Facebook : Tongthong Chandransu)
ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ และคณะ ถ่ายภาพร่วมกับเจ้าของโรงงานและช่างแผนกต่างๆ (ภาพจาก Facebook : Tongthong Chandransu)

“พระคุณ 10 ประการ แห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ตามพระมติของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ประกอบด้วย

  1. พระเกียรติคุณ คือ อุภโตสุชาติ รอบรู้วิชาคุณ ทรงรับรัชทายาท เป็นพระเจ้าช้างเผือก เป็นเอกอัครพุทธศาสนูปถัมภก
  2. พระอุปถัมภคุณ คือ ทรงอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา เสด็จออกทรงผนวช สร้างพระพุทธรูปและพระอาราม พิมพ์พระไตรปิฎก จัดระเบียบปกครองคณะสงฆ์ อุปถัมภ์พระราชวงศ์ให้รุ่งเรือง พระเกียรติยศและคุณธรรม
  3. พระกรุณาคุณ คือ เลิกทาส เลิกประเพณีหมอบคลาน ลดหย่อนพระราชอาญา ตั้งโรงพยาบาลจัดการบำบัดโรคภัย
  4. พระเมตตาคุณ คือ ทรงจัดการศึกษา และทำพระองค์ให้คุ้นเคยกับประชาชนทุกหมู่เหล่า
  5. พระอุปการคุณ คือ ทรงสร้างรถไฟ โทรเลข ไปรษณีย์ ทำถนน ขุดคลอด ประปา ทดน้ำ บำรุงพาณิชยกรรม
  6. พระวิริยคุณ คือ ทรงพระอุตสาหะเสด็จเที่ยวตรวจกิจการต่างประเทศ แลตามหัวเมืองในพระราชอาณาเขตต์
  7. พระอภิปาลคุณ คือ ทรงแก้ระเบียบรัฐบาลการปกครองพระราชอาณาจักร และระเบียบทางยุติธรรม
  8. พระอัปปมาทคุณ คือ ทรงจัดทหารบกทหารเรือ และทำทางพระราชไมตรีกับต่างประเทศ
  9. พระวิจารณคุณ ตรวจค้นโบราณคดี ประเพณี และพงศาวดาร ทรงพระราชนิพนธ์ให้เป็นประโยชน์ความรู้
  10. สนองพระคุณ ชาวสยามทำพระบรมรูปทรงม้า และถวายพระนามปิยมหาราช เมื่อรัชมงคลสมัย

สำหรับภาพที่ 11 และภาพที่ 12 จัดทำเพิ่มเติมเป็นภาพประวัติวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 22 ธันวาคม 2566