ผู้เขียน | ธงชัย อัชฌายกชาติ |
---|---|
เผยแพร่ |
ตำนานเคลท์ มีเรื่องราวของ “กรอเนีย” เจ้าหญิงรูปงามที่ตกหลุมรัก “เดียร์มุด” นักรบหนุ่มเจ้าเสน่ห์แห่งกองทหารเฟียน่า แต่โชคไม่เข้าข้าง เพราะเธอถูกมัดมือชกแต่งงานกับ “ฟิออน” หัวหน้ากองทหารเฟียน่า อดีตนักรบที่เข้าสู่วัยชรา
เดียร์มุด (Diarmuid) เป็นหนึ่งในขุนพลฉกาจของกองทหารเฟียน่า เขาเป็นนักรบที่แข็งแกร่งผู้ใช้หอกวิเศษ และมีไฝเสน่ห์ (เรียกว่า Bol Sherca) อยู่บนกลางหน้าผาก ที่ แองกัส (Angus) พ่อบุญธรรมผู้เป็นเทพแห่งความรักมอบให้ ผู้ใดเห็นไฝเสน่ห์นี้ย่อมตกหลุมรักเดียร์มุด ด้วยเหตุนี้เขาจึงพยายามปกปิดโดยการไว้ผมยาวมาบังหน้าผากของตน
แต่แล้ววันหนึ่งขณะที่เดียร์มุดเล่นกีฬา (บางเวอร์ชันเล่าว่าฝึกซ้อมต่อสู้) เจ้าหญิงกรอเนีย (Grainne) ก็บังเอิญผ่านมาเห็นขณะที่ลมพัดจนหน้าผากของเดียร์มุดเปิด เผยให้เห็นไฝเสน่ห์ กรอเนียตกหลุมรักเดียร์มุดในแรกเห็น ตั้งแต่นั้นเธอพยายามปฏิเสธการแต่งงานกับบุรุษทุกนาม และหวังว่าสักวันจะได้พบเดียร์มุดอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ราชาคอร์แม็ค (High King Cormac) พ่อของกรอเนีย ตกปากรับคำสัญญากับ ฟิออน แมกคอยล์ (Fionn Mac Cumhaill) หัวหน้ากลุ่มนักรบเฟียน่า ซึ่งเคยเป็นนักรบในตำนานของเคลท์ แต่ปัจจุบันเริ่มชราภาพ ใช้ชีวิตส่วนใหญ่กับงานเฉลิมฉลอง และทดสอบพลังของตนเองเป็นครั้งคราว ให้สามารถแต่งงานกับกรอเนียได้
ในวันเฉลิมฉลองการหมั้น ขณะที่กรอเนียกำลังเบื่อหน่ายและผิดหวังกับโชคชะตาที่ต้องมาแต่งงานกับนักรบแก่อย่างฟิออน เธอก็ได้พบเดียร์มุดที่มาร่วมงานเฉลิมฉลองของหัวหน้างาน ประกายไฟแห่งรักจุดขึ้นในใจเธออีกครั้ง กรอเนียวางยาสลบใส่เครื่องดื่มของเหล่านักรบเฟียน่าทุกคน ยกเว้นเดียร์มุด ทั้งสองพูดคุยกัน เดียร์มุดเกิดความรู้สึกดี ๆ กับกรอเนีย แต่เขาไม่อาจทรยศฟิออน ผู้เป็นทั้งหัวหน้าและเพื่อนสนิทของเขาได้
เมื่อกรอเนียเห็นเดียร์มุดสับสนระหว่างความรักและหน้าที่ เธอจึงใส่ “เกียส” (Geis) แก่เดียร์มุด
เกียส หรือ กีสะ (Geasa) เป็นเหมือนคำสาปที่เมื่อใส่ให้ใคร ผู้นั้นต้องกระทำหรือไม่กระทำการตามแต่ที่ผู้ใส่จะสั่งไว้ แต่คำสาปนี้จะมีผลตราบเท่าที่เนื้อหามีความชอบธรรมหรือพอยอมรับได้เท่านั้น เดียร์มุดโดนใส่เกียสว่าห้ามใช้อาวุธทิ่มแทงหรือฟันหมูป่า เนื่องจากพ่อแท้ ๆ ของเดียร์มุดเคยหักคอลูกของชายคนหนึ่ง ซึ่งชายคนนั้นชุบชีวิตลูกขึ้นมาให้เป็นหมูป่า หมายจะให้ลูกชายมาแก้แค้นเดียร์มุดในภายภาคหน้า เป็นต้น
เนื้อหาของเกียสที่กรอเนียใส่แก่เดียร์มุดคือให้เขาพานางหนีไป เดียร์มุดจึงจำใจพากรอเนียหนี ทั้งที่ในใจยังเต็มไปด้วยความว้าวุ่นเพราะต้องทรยศฟิออน
เมื่อฟิออนตื่นจากฤทธิ์ยาสลบ เขาโกรธแค้นเดียร์มุดอย่างมาก จึงรวบรวมนักรบเฟียน่าทุกคนและยังขอกำลังเสริมจากกลุ่มนักรบต่าง ๆ เพื่อไล่ล่าเดียร์มุดและกรอเนีย ไม่นานนัก ขณะที่เดียร์มุดและกรอเนียกำลังค้างแรมอยู่ในป่า นักรบแห่งเฟียน่าก็ล้อมป่าไว้ได้เรียบร้อย กว่าจะไหวตัวทันก็สายไปเสียแล้ว เดียร์มุดจึงอ้อนวอนให้แองกัส เทพแห่งความรักและพ่อบุญธรรมของเขาช่วย ซึ่งแองกัสก็ยินดี แต่สามารถช่วยไปได้เพียงคนเดียว เดียร์มุดจึงให้พากรอเนียหนีไปก่อน ส่วนตัวเองจะรับมือกับทหารเฟียน่า
พรรคพวกนักรบเฟียน่าซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานเก่าของเดียร์มุดพร้อมช่วยเหลือ และเสนอจะเปิดทางให้ผ่านไปง่าย ๆ แต่เดียร์มุดไม่อยากให้เพื่อนต้องพลอยโดนลูกหลง จึงวิ่งไปทางที่ฟิออนดักรอและต่อสู้กัน แม้ฟิออนจะเริ่มแก่ตัว แต่ก็เป็นนักรบที่แข็งแกร่ง และยังเป็นคนที่เดียร์มุดสนิทด้วยมาแต่ไหนแต่ไร เดียร์มุดจึงไม่สามารถเอาชนะฟิออนได้ แต่ก็สามารถหาหาทางหลบหนีไปจุดที่นัดพบกับกรอเนียได้อย่างทุลักทุเล
เมื่อเดินทางไปเรื่อย ๆ เขาก็พบสวนแห่งหนึ่งที่มียักษ์ปกป้องสวนนั้น เดียร์มุดอ้อนวอนต่อยักษ์ให้พวกตนเข้าไปอยู่อาศัยในสวนชั่วคราว โดยสัญญาว่าจะไม่กินผลไม้วิเศษที่ยักษ์ปกป้องอยู่ ยักษ์ใหญ่เห็นใจและยินยอม แต่แล้ววันหนึ่งกรอเนียเกิดอดใจไม่ไหวลองลิ้มรสผลไม้วิเศษนั้น (บางเอกสารเล่าว่าเพราะนางตั้งครรภ์ทำให้ต้องการกินผลไม้) ยักษ์โกรธมากที่พวกเดียร์มุดผิดสัญญา จึงเข้าโจมตีทั้งสองคน เดียร์มุดซึ่งเป็นนักรบที่เก่งกล้าสามารถปราบยักษ์ลงได้ เมื่อเหล่านักรบเฟียน่ามาถึงก็รู้ทันทีว่านี่เป็นฝีมือของเดียร์มุด เพราะไม่มีใครแข็งแกร่งพอจะชนะยักษ์ตนนี้ได้
ฟิออนยังคงส่งทหารตามล่าเดียร์มุดอย่างไม่ลดละ ทั้งส่งโจรสลัดหลายร้อยคนไปตามล่า ปล่อยหมาล่าเนื้อที่ดุร้ายไล่ตามสองคู่รัก แต่ก็ไม่สำเร็จ จนฟิออนเริ่มลังเลสงสัยในการกระทำของตนเอง เพราะเขาไม่ใช่เพียงจะสูญเสียเพื่อนรักคนหนึ่ง แต่กำลังจะเสียความเคารพของลูกน้อง ฟิออนจึงยกเลิกการตามล่าเดียร์มุดและกรอเนีย
เมื่อเวลาผ่านไป บาดแผลก็เริ่มเบาบาง ด้วยความช่วยเหลือของแองกัส ฟิออนและเดียร์มุดก็คืนดี กลับมาเป็นสหายกันอย่างที่เคยเป็น และในที่สุดเดียร์มุดก็ได้แต่งงานกับกรอเนียอย่างเป็นทางการ จนมีลูกหลายคน
อย่างไรก็ดี เรื่องราวใน “ตำนานเคลท์” นี้ไม่จบสวยเหมือนนิยายรัก
วันหนึ่งขณะเดียร์มุดออกไปล่าสัตว์ โชคชะตาก็นำพาให้เขาเจอหมูป่าเจ้ากรรม เขาไม่สามารถใช้หอกอาวุธคู่กายทิ่มแทงมันได้ เนื่องจากเกียสที่ถูกใส่ไว้ แม้จะเอาชนะมันได้โดยการใช้หอกทุบตี แต่เขาก็บาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับหมูป่าวิเศษตัวนี้ เมื่อฟิออนตามออกมาพบ (บางเวอร์ชันเล่าว่ามาล่าสัตว์ด้วยกัน แต่ขณะที่เดียร์มุดต่อสู้ ฟิออนไม่ได้อยู่ด้วย) เดียร์มุดก็ร้องขอให้ช่วย โดยขอกินน้ำจากมือฟิออน เนื่องจากฟิออนได้รับพรวิเศษว่า หากใครก็ตามได้ดื่มน้ำจากมือของฟิออน บาดแผลของผู้นั้นจะหายราวกับไม่เคยบาดเจ็บมาก่อน
ฟิออนรีบไปตักน้ำจากบ่อน้ำที่ใกล้ที่สุด แต่เมื่อมองเห็นภาพสะท้อนจากน้ำในมือ ก็พบความโกรธแค้นที่เคยมี และยังไม่หายไปในตัวเขา จนเผลอทำน้ำหกไปทุกครั้ง จนกระทั่งครั้งที่สาม ด้วยความตั้งใจจะรักษาเพื่อนรักจากใจจริง เขาเร่งรัดประคองน้ำในมือจนมาถึงเดียร์มุดโดยไม่หกแม้แต่น้อย
แต่สายไปเสียแล้ว เบื้องหน้าของฟิออนเหลือแต่ร่างไร้วิญญาณของเดียร์มุด เขาไม่สามารถช่วยชีวิตเพื่อนรักไว้ได้ ความโกรธแค้นที่เคยมีกลั่นออกมาเป็นน้ำตาที่หลั่งไหล ถือเป็นอันจบสิ้นเรื่องราวของยอดนักรบพราวเสน่ห์เดียร์มุด
อ่านเพิ่มเติม :
- “ทางเดินแห่งยักษ์” มรดกโลกกับตำนานการสร้างสะพานของยักษ์ไอริช
- “โบดิกา” ราชินีแห่งไอซินี กบฏผู้หาญกล้าต่อกรจักรวรรดิโรมัน
- เมื่อยุโรปเข้าสู่ยุคกลาง คริสตจักรทวีอำนาจ และการผงาดของ “เผ่าแฟรงก์”
อ้างอิง :
พีระสิทธิ์ คูห์ศรีวินิจ. ตำนานเทพไอริช. กรุงเทพฯ: ยิปซี, 2559, 194-212.
Irish Literature, Mythology, Folklore, and Drama. “Geasa. Geis. Irish Mythology.” สืบค้น 24 กรกฎาคม 2023. https://www.luminarium.org/mythology/ireland/geasa.htm.
TED-Ed. “The Myth of Oisín and the Land of Eternal Youth – Iseult Gillespie”. สืบค้น 24 กรกฎาคม 2023. https://ed.ted.com/lessons/the-myth-of-oisin-and-the-land-of-eternal-youth-iseult- gillespie.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 24 กรกฎาคม 2566