“โบดิกา” ราชินีแห่งไอซินี กบฏผู้หาญกล้าต่อกรจักรวรรดิโรมัน

อนุสาวรีย์ โบดิกาแห่งไอซินี ลอนดอน อังกฤษ
รูปปั้นโบดิกาแห่งไอซินี (ภาพโดย Aldaron ใน flickr สิทธิการใช้งาน CC BY-SA 2.0)

แม้จักรวรรดิโรมันจะยิ่งใหญ่ทรงอิทธิพลเพียงใด แต่ “โบดิกาแห่งไอซินี” (Boudica of the Iceni) ก็หาญกล้าท้าทายอำนาจนั้นอย่างไม่หวั่นเกรง

บริเวณนอร์โฟล์คทางตะวันออกของอังกฤษในปัจจุบัน เป็นที่ตั้งของ “ไอซินี” ชนเผ่าที่ทำการเกษตรและงานฝีมือจนร่ำรวย มีวิถีชีวิตตามแบบวัฒนธรรมชาวเคลต์ในยุโรป ไอซินีเป็นหนึ่งในรัฐบริวารของโรมัน หมายความว่า ตราบใดที่ผู้นำเผ่ายังนอบน้อมอยู่ใต้อำนาจโรมัน ไอซินีก็จะยังคงมีอำนาจอธิปไตยในระดับที่โรมันยอมรับได้

กระทั่ง ค.ศ. 60 เค้าลางของความโชคร้ายเริ่มปรากฏให้เห็น เมื่อ พราสุตากัส (Prasutagus) ราชาแห่งไอซินี สามีของโบดิกาเสียชีวิต

พราสุตากัสแบ่งทรัพย์สมบัติให้ลูกสาวทั้งสอง และจักรพรรดิเนโร ด้วยความตั้งใจให้โรมันยังคงปกป้องครอบครัวและเผ่าไอซินี เพื่อสืบสานสมดุลทางการเมืองที่เคยมีต่อไป แต่กองทัพโรมันกลับบุกเข้าปล้นสะดมไอซินี ทำร้ายเฆี่ยนตีโบดิกาผู้เป็นภรรยา และข่มขืนลูกสาวทั้งสองของเขา ชาวไอซินีจึงลุกฮือขึ้นขับไล่อำนาจของโรมัน โดยมีโบดิกาเป็นผู้นำ ซึ่งจากบันทึกของ แคสเซียส ดิโอ (Cassius Dio) นักประวัติศาสตร์โรมันและสมาชิกสภา ได้เล่าถึงเหตุการณ์ตอนนั้นว่า กองทัพกบฏมีกว่า 280,000 คน แม้เป็นการกล่าวเกินจริง แต่ก็สื่อได้ว่ามีชาวไอซินีเข้าร่วมมหาศาล

ดิโอยังกล่าวถึงโบดิกาว่า เกิดมาเพื่อเป็นผู้นำ และบรรยายรูปลักษณ์ของเธอไว้ว่า “..เธอมีร่างกายสูงใหญ่ดูน่ากลัว สายตาดุดัน น้ำเสียงแข็งกร้าว มีผมสีน้ำตาลยาวประสะโพก ที่คอใส่สร้อยทองคำ ใส่เสื้อทูนิคที่มีสีสัน มีเสื้อคลุมหนาที่มัดด้วยเข็มขัดทับไว้ ในมือกำหอกไว้มั่น”

เมื่อโบดิการวบรวมกำลังพลจากเผ่าต่างๆ ที่ไม่ชอบใจโรมันอยู่แล้ว ก็บุกเข้าเมืองโคลเชสเตอร์และลอนดอน ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของโรมัน โบดิกาสามารถเอาชนะกองทัพโรมันที่นั่นได้อย่างไม่ยากเย็น มีหลักฐานทางโบราณคดีที่ตรงกับคำบอกเล่าในบันทึกด้วยว่า กองทัพของโบดิกาเผาทำลายเมือง และจากบันทึกของ ตาสิตุส (Tacitus) นักประวัติศาสตร์ชาวโรมัน ให้การว่า กองกบฏสังหารชาวโรมันและคนที่สนับสนุนโรมันไปกว่า 70,000 คน

การลุกฮือขึ้นต่อต้านนี้เรียกได้ว่าเกิดขึ้นถูกเวลา เพราะขณะนั้น พอลินัส (Pualinus) ชาวโรมันผู้ครองแคว้นบริเทน กำลังเข้ารุกรานเวลส์ ทำให้กองทัพลีเจียนซึ่งเป็นกองทัพเครื่องแบบของโรมันง่วนกับการรบที่ห่างออกไป เอื้อให้โบดิกาและพลพรรคจัดการกองทัพโรมันได้ง่ายขึ้น

การที่กองทัพอนารยชนที่นำโดยผู้หญิง สามารถสู้รบปรบมือกับกองทัพโรมันอันยิ่งใหญ่ได้ ทำให้โรมันที่ขึ้นชื่อเรื่องสังคมชายเป็นใหญ่สูงมากๆ และยังขึ้นชื่อเรื่องการทำสงครามเสียหน้าอย่างหนัก ถึงขนาดต้องเรียกกองทัพลีเจีย 2,000 นายมาจากเยอรมัน รวมถึงทหารม้าอีก 1,000 นาย และพลเดินเท้าอีก 8 กอง เข้ามาสนับสนุน พอลลินัสเองก็รวบรวมไพร่พลที่มีและเร่งรุดเข้าปะทะกับโบดิกา

ณ ถนนวัทลิ่ง การต่อสู้ชี้ขาดได้เริ่มต้นขึ้น กองทัพโรมันที่แม้มีจำนวนน้อยกว่า แต่ก็เป็นกองทัพในเครื่องแบบ มีอาวุธยุทโธปกรณ์ มีการฝึกฝนอย่างดี ช่ำชองประสบการณ์ และมียุทธวิธีสูงกว่า ขณะที่กองทัพของ โบดิกาแห่งไอซินี แม้มีจำนวนมากกว่า แต่ก็เป็นเพียงการรวมตัวของกลุ่มชาวบ้าน ถึงบางคนจะพอมีทักษะในการรบ แต่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและช่างฝีมือ อาวุธที่ใช้ก็ดัดแปลงจากเครื่องมือที่ใช้ประจำ และไม่มีความรู้ด้านยุทธศาสตร์การรบใดๆ

กองทัพโรมันใช้กลยุทธ์รบในทางแคบ ทำให้ฝ่ายโบดิกาไม่สามารถเข้าล้อมโจมตีได้ จากนั้นฝ่ายโรมันก็ใช้พลหอกซัดทำลายแนวหน้าของกบฏ ตามด้วยทหารม้าที่ติดหอกขนาดใหญ่เคลื่อนตัวในลักษณะคล้ายลิ่ม เพื่อทะลุทะลวง โบดิกาพยายามถอนทัพแต่ไม่สำเร็จ เพราะติดเกวียนเสบียงที่นำมาตั้งไว้ใกล้แนวรบเกินไป ส่งผลให้การรบครั้งนี้กองทัพของโบดิกาพ่ายแพ้อย่างไม่เป็นท่า

โบดิกาแห่งไอซินีสิ้นชีพหลังพ่ายแพ้สงคราม ดิโอให้ความว่า เสียชีวิตเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการรบอันดุเดือด ขณะที่ทาซิทัสให้ความว่า นางกินยาพิษเพื่อฆ่าตัวตาย และเมื่อสิ้นโบดิกาแล้ว โรมันก็สถาปนาเมืองหลวงแห่งใหม่ในผืนแผ่นดินไอซินี นับเป็นการเข้าครอบครองไอซินีอย่างเต็มตัว

“โบดิกาแห่งไอซินี” ได้รับการกล่าวขานถึงความกล้าหาญต่อกรกับจักรวรรดิโรมันอันยิ่งใหญ่ มีรูปปั้นของนางที่ถือหอกและยืนบนรถม้าเทียมศึกอยู่บนสะพานเวสต์มินสเตอร์ในกรุงลอนดอนตั้งแต่ปี 1902 ถือเป็นการยกย่องโบดิกาในฐานะวีรสตรีมาจนถึงทุกวันนี้

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

“Boudicca | Queen of Britain”, Access 18 July 2023. https://www.britannica.com/biography/Boudicca.

Owen Jarus. “Boudicca: Warrior Queen of the Iceni”. livescience, Access 18 July 2023. https://www.livescience.com/37061-boudicca.html#section-roman-britain-before-the-rebellion.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 21 กรกฎาคม 2566