เป็น “คางทูม” ทำไมต้องเขียนเสือไว้ที่แก้ม

คางทูม อักษรจีน เสือ เจ็บป่วย
ัอักษรจีน 虎 ที่แปลว่าเสือเขียนไว้ที่แก้มเด็กที่เป็นคางทูม นัยว่าเพื่อรักษาให้หายป่วย

“คางทูม” เป็นโรคติดต่อที่พบได้ทั่วโลก วิธีการรักษาส่วนใหญ่ก็ไปพบแพทย์รับการรักษาตามอาการของโรค ส่วนในประเทศไทย นอกจากการรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบัน ยังมีอีกวิธีหนึ่ง คือการเขียนตัวอักษร “เสือ” ไว้ที่แก้มของผู้ป่วยข้างที่เป็นคางทูมอีกด้วย

ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการรักษา มาดูที่มาของ “คางทูม” ก่อนว่าเป็นอย่างไร

ศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสต์ศักราช ฮิปโปเครติส-บิดาแห่งการแพทย์ อธิบายว่า คางทูมเป็นโรคติดต่อกันได้ แสดงว่ามีผู้เจ็บป่วยด้วยโรคคางทูมมานับพันปี และมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับคางทูมเรื่อยมา จนสามารถพัฒนาเพาะเลี้ยงเชื้อไวรัสคางทูม กระทั่งมีการผลิตเป็นวัคซีนเพื่อใช้ป้องกันโรคคางทูมเป็นครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1950

ในประเทศไทยเริ่มมีการให้วัคซีนป้องกันโรคหัด, คางทูม และหัดเยอรมัน (MMR) แก่เด็กไทยทั่วประเทศในปี ค.ศ. 1971 (พ.ศ. 2514) ทำให้จำนวนผู้ป่วยโรคคางทูมลดน้อยลง

ผู้ป่วยโรคคางทูมส่วนใหญ่มักเป็นเด็กอายุระหว่าง 5-9 ปี อาการที่พบทั่วไปคือ เกิดการบวม และกดเจ็บบริเวณต่อมน้ำลาย (โดยเฉพาะต่อมน้ำลายพาโรติด) ส่วนใหญ่เป็นข้างใดข้างหนึ่ง หากบางรายเป็นทั้งสองข้างก็มี อาการปวดบวมจะเห็นได้ชัดในช่วง 2-3 วันหลังจากเริ่มติดเชื้อ ทำให้ผู้ป่วยมีปัญหาในการพูด และรับประทานอาหาร อาการจะค่อยๆ หายเองภายในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อน 

ที่กล่าวมานั้นเป็นข้อมูลเกี่ยวกับคางทูมทางการแพทย์ปัจจุบันที่สรุปจาก ฐิติอร ฤาชาฤทธิ์, วีระชัย วัฒนวีรเดช “วัคซีนป้องกันโรคคางทูม” ใน, ตำราวัคซีน สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย

หากการรักษา “คางทูม” ที่ใช้การเขียนตัวอักษรจีนเขียนคำว่า “เสือ-虎” ไว้ที่แก้มผู้ป่วย ที่กล่าวไว้ข้างต้นนั้น เป็นไปตามคติความเชื่อ 

การใช้พู่กันจุ่มน้ำหมึกสีดำเขียนตัวอักษร “虎” ที่แปลว่า เสือ ในภาษาจีน ไว้ที่แก้มข้างที่เป็นคางทูม โดยคนที่จะเขียนให้ต้องเป็นคนที่เกิดปีนักษัตรเสือด้วย เรื่องนี้ผู้อ่านหลายท่านคงเคยได้ยิน หรือบางท่านเคยใช้วิธีดังกล่าวแล้ว

ทำไมต้องเป็นตัวอักษรจีนที่แปลว่าเสือ ถ้าว่าเสือดุร้าย ร้ายกว่าอย่างสิงโต หรือที่ฮิตนักอย่างมังกรก็มี 

เหตุที่เสือเป็นคำตอบในเรื่องนี้ เพราะคางทูมในภาษาจีนเขียนว่า 猪头肥  ตัวอักษรแต่ละตัวแปลว่า 猪-หมู, 头-หัว, 肥-อ้วน จึงรวมความได้ว่า “หัวหมูอ้วน” นึกถึงใครที่เป็นคางทูมที่แก้มย้อยจนไม่เห็นคอ ก็มองได้คล้ายหัวหมู จึงใช้ตัวอักษรเสือเสมือนใช้เสือไปกินหมู ไปจัดการหมู

ส่วนที่ไม่ใช้ตัวอักษรสิงโตและมังกร อาจด้วยเสือเป็น 1 ในปีนักษัตร เมื่อใช้คนที่เกิดปีเสือก็จะดูขลังขึ้น ขณะที่ไม่มีสิงโตในปีนักษัตร ส่วนมังกรก็เป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์ และเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ แค่เรื่องหมูๆ ใช้ถึงมังกรก็ดูเกินไป

สุดท้าย ตามข้อมูลทางการแพทย์ที่บอกว่า กว่าจะเห็นชัดว่าเป็นคางทูมก็ 2-3 วัน ฉะนั้นกว่าจะมาเขียนตัวเสืออย่างน้อยก็ต้อง 2-3 วันไปแล้ว เขียนเสร็จกลับไป 2-3 วันก็หายเป็นส่วนใหญ่ เขียนเสือให้เสร็จกลับไปก็หายเกือบทุกราย เพราะวงจรของโรคก็แค่ 7 วัน เด็กเล็กเป็นคางทูมมาให้เขียนเสือก็ไม่เจ็บหรือน่ากลัวอะไร ได้กำลังใจกลับไปกินได้นอนหลับก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร และส่วนให้ก็เขียนให้กันฟรีๆ

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 28 เมษายน 2566