ผู้เขียน | วิภา จิรภาไพศาล |
---|---|
เผยแพร่ |
“แผลร้อนใน” มักเกิดขึ้นในปาก เราจึงเชื่อโดยปริยายว่าเกิดจากร่างกายเสียสมดุล และจบลงด้วยความพยายามลดความร้อนภายในร่างกาย ด้วยสารพัดเครื่องดื่ม เช่น จับเลี้ยง, ยาขม, น้ำใบบัวบก ฯลฯ
แผลร้อนใน
การแพทย์แผนปัจจุบันระบุว่า แผลร้อนในเป็นโรคของเยื่อเมือกช่องปากที่พบได้บ่อย มักพบในบริเวณที่เยื่อเมือกช่องปากไม่มีเคราติน เช่น กระพุ้งแก้ม, เหงือก, ลิ้น, เพดานอ่อน หรือพื้นช่องปาก มักพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ พบในเพศหญิงมากกว่าผู้ชาย และแนวโน้มความถี่และความรุนแรงลดลงเมื่อผู้ป่วยมีอายุเพิ่มขึ้น
โรคนี้เกิดจากอะไร ณ วันนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่ชัดเจน
แต่ก็มีรายงานปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหลายอย่าง เช่น การแพ้อาหาร (เช่น กลูเตน), การแพ้สารบางชนิด (เช่น สารกันบูดในยาสีฟัน), ความเครียด, ความไม่สมดุลของฮอร์โมน, การขาดสารต้านอนุมูลอิสระ (เช่น วิตามินซี, วิตามินอี, แมงกานีส ฯลฯ), การติดเชื้อแบคทีเรีย เป็นต้น
ดังที่กล่าวไปข้างต้น ว่าปัจจุบันไม่ทราบสาเหตุการเกิดโรคที่แน่ชัด จึงยังไม่มีการรักษาที่หายขาด ผู้ที่เป็นจึงมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ การรักษาเป็นการรักษาตามอาการ ซึ่งโดยทั่วไปส่วนใหญ่หายได้ในเวลา 1-2 สัปดาห์ ไม่เป็นแผลเป็น และมีอาการไม่รุนแรง ทว่าระหว่างที่เป็นมีอาการก็เจ็บปวดและน่ารำคาญ เพราะทำให้เคี้ยว, กลืน, พูด และแปรงฟัน ไม่สะดวก
อ่านเพิ่มเติม :
- ยุครัฐไทย(โบราณ)ที่การเจ็บป่วย-ตายของประชาชนเป็น “เวรกรรม” สู่สมัยแห่งการปรับเปลี่ยน
- การสักเพื่อ “รักษาโรค” ?
ข้อมูลจาก :
นางสาวณัฐานิษฐ์ รุ่งศิริเสถียร. การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของสารอะซีแมนแนน ความเข้มข้นร้อยละ 0.5 และยาไตรแอมซิโนโลน ความเข้มข้น 0.1 ในการรักษาแผลร้อนในในช่องปาก. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ปีการศึกษา 2555.
ชานล ตั้งเจริญ และคณะ . “แผลร้อนในในช่องปากกลับเป็นซ้ำ: การรายงานผู้ป่วย” ใน, วิทยาสารทันตแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปีที่ 25 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม 2565.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 11 เมษายน 2566