วัยเด็กสุดดาร์คของ “ป๊อปอาย” เรื่องราวที่หลายคน (อาจ) ไม่รู้

ป๊อปอาย
Popeye Exhibit Card ปี 1949 (ภาพโดย Mark Anderson จาก Flickr สิทธิ์การใช้งาน CC BY 2.0) - มีการตกแต่งกราฟิกเพิ่มโดย กอง บก.ศิลปวัฒนธรรม

เคยดู ป๊อปอาย (Popeye) กันไหม? การ์ตูนดังที่เด็กยุค 1990 ต่อทศวรรษ 2000 น่าจะรู้จักดี (อันที่จริงการ์ตูนเรื่องนี้มีมาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว) ป๊อปอาย เป็นตัวการ์ตูนที่มีคาแรกเตอร์เด็กหนุ่มกะลาสีกล้ามโต ปากคาบไปป์ตลอดเวลา มีตาข้างเดียว ป๊อปอายชอบปรากฏตัวพร้อมร้องเพลงแนะนำตัวเองว่า “ผมคือ ‘ป๊อปอาย’ กะลาสีเรือ” (I’m Popeye The Sailor Man)

ป๊อปอายยังมีภาพลักษณ์ของฮีโร่พลังเหนือมนุษย์ คนดูจะเห็นว่าเขาชื่นชอบการต่อสู้มาก มักแก้ปัญหาด้วยกำลัง มียาชูกำลังชั้นเลิศคือ “ผักโขม” ซึ่งที่จริงคือ ผักปวยเล้ง หรือ Spinach ไม่ใช่ Amaranth อย่างที่บางคนเข้าใจ เมื่อไรก็ตามที่ป๊อปอายกินผักโขมเข้าไป พละกำลังของเขาจะเพิ่มพูนขึ้นจนสามารถใช้กำลังแขนเอาชนะทุกปัญหาและอุปสรรคได้

ป๊อปอายมีแฟนสาว คือ โอลีฟ หรือ โอลีฟ ออยล์ (Olive Oyl) สาวน้อยรูปร่างผอมบาง ที่มีป๊อปอายเป็นผู้พิทักษ์ของเธอ ซึ่งนอกจากจะคอยดูแลแฟนสาวแล้ว ป๊อปอายยังมีคติประจำตัวคือ หัวเด็ดตีนขาดเขาก็จะไม่ทำร้ายผู้หญิง ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครก็ตาม 

เรื่องราวในวัยเด็กของป๊อปอายค่อนข้างหฤโหดและน่าตื่นเต้นมาก แม้จะเป็นฉบับการ์ตูนก็ตาม ส่วนเวอร์ชั่นมนุษย์ หรือ คนที่ (เชื่อว่า) เป็น “ป๊อปอาย” ตัวจริงนั้น จะเรียบเรียงให้อ่านกันภายหลัง 

การ์ตูนเรื่องป๊อปอายมี “ความดาร์ค” ซ่อนอยู่ เริ่มตั้งแต่วัยแรกเกิดกันเลยทีเดียว ปุปเด็ค แปปปี (Poopdeck Pappy) พ่อของป๊อปอายทอดทิ้งเขาตั้งแต่ยังเป็นทารก ป๊อปอายจึงถูกเลี้ยงดูในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เสพติดการสูบไปป์ตั้งแต่ยังเป็นทารก และจะเอาไปป์ออกจากปากเป็นครั้งคราวเฉพาะตอนที่ต้องดื่มฮาร์ดแทคเหลวสำหรับทารกเท่านั้น

ป๊อปอายมีร่างกายบอบบาง ผอมกะหร่อง กระทั่งอายุ 4 ขวบ เขาเบื่อหน่ายที่ต้องถูกข่มเหงรังแกจากผู้ดูแลสถานรับเลี้ยงซึ่งมักทุบตีเขาอย่างรุนแรง จึงหนีออกจากที่นั่นพร้อมถุงกระสอบเก่า ๆ สำหรับใส่เสื้อผ้าติดตัวมาด้วย นั่นคือสภาพที่ เวเลอร์ โจ (Whaler Joe) มาพบป๊อปอาย ก่อนจะซื้อเสื้อผ้าและไปป์อันใหม่ให้เขา

เมื่อป๊อปอายอายุได้ 6 ขวบ เขาเริ่มออกกำลังกาย เพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเอง ป๊อปอายยังสร้างชื่อเสียงในหมู่นักเลงท้องถิ่น เพราะเขาไม่นิ่งนอนใจหรือทนต่อการรังแกผู้อื่น เขาเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเพื่อน ๆ และเป็นคนที่โดดเด่นในหมู่เด็กรุ่นเดียวกันอย่างมาก เขาชนะการดวลครั้งแล้วครั้งเล่า การต่อสู้เป็นงานอดิเรกที่ป๊อปอายโปรดปราน

เมื่อ เวเลอร์ โจ พบกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ป๊อปอายตัดสินใจออกทะเลด้วยเรือบดขนาดเล็ก เขาพยายามหารายได้จากการจับวาฬ เรือบดลำน้อยติดอาวุธด้วยเชือกเส้นบาง ๆ และหมุดที่งอเป็นเบ็ดตกปลา วาฬที่เห็นป๊อปอายในสภาพนั้นรู้สึกขบขัน มีวาฬตัวใหญ่ตัวหนึ่งพ่นน้ำใส่เขา ทำให้ป๊อปอายโกรธและชกวาฬตัวนั้นจนตายในหมัดเดียว เขากลับฝั่งพร้อมวาฬที่มัดติดลำเรือ

ป๊อปอายเติบโตเร็วมาก ร่างกายของเขาโตเต็มวัยตั้งแต่อายุเพียง 12 ปี ครั้งหนึ่งมีคนวางยาเขา ป๊อปอายตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตนเองอยู่บนเรือ อันที่จริงเขาสามารถใช้หมัดกำราบลูกเรือได้ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าการเดินเรือเป็นสิ่งที่เขาใฝ่ฝัน ป๊อปอายจึงเข้าร่วมเป็นกะลาสีด้วยความเต็มใจ

ชีวิตช่วงแรกของการเป็นกะลาสีเรือค่อนข้างวุ่นวาย แต่ป๊อปอายเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันได้ เขาถูกหมายหัวจากนักเลงชื่อ “The Ape” หลังจากชนะเลิศเกมลูกเต๋ากับเหล่าลูกเรือ ขอเตือนว่าเรื่องราวจากนี้ค่อนข้างน่าสยดสยอง ป๊อปอายพ่ายแพ้ในการต่อสู้กับ The Ape เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขาต้องเสียตาขวาไป และนี่คือที่มาของชื่อ “ป๊อปอาย” คือตาขวาของเขาที่โผล่ออกมา (จากเบ้าตา) นั่นเอง

หลังจากนั้น เมื่อป๊อปอายต้องต่อสู้ เขามักใช้เพียงแขนซ้ายปล่อยหมัด เพราะตาข้างขวาที่เสียไปส่งผลต่อการประสานพลังไปที่แขนขวาอย่างเหมาะสม ซึ่งนั่นอาจทำให้เขาเผลอใช้หมัดฆ่าคนโดยไม่ได้ตั้งใจ นั่นเพราะป๊อปอายไม่ใช่คนที่จะฆ่าคู่ต่อสู้ อย่างมากก็เพียงทำให้อีกฝั่งก็พิการ

เพื่อนกะลาสีของป๊อปอายมักจะพูดถึงผู้หญิงในเชิงลามกอนาจารและไม่ค่อยสุภาพ แต่ทุกครั้งป๊อปอายปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมกับวงสนทนา ระหว่างการเดินทางจากท่าเรือสู่อีกท่าเรือ การผจญภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลกทำให้ป๊อปอายมีโอกาสพบรักกับ “โอลีฟ” แม้หลายเดือนที่พวกเขาได้รู้จักกันจะมีเรื่องให้ทะเลาะเบาะแว้งบ่อยมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาก็รู้สึกชอบพอกันขึ้นมาและตกลงคบหากัน

เรื่องราวหลังจากนี้เป็นเนื้อเรื่องส่วนใหญ่ที่ผู้ชมได้เห็น นั้นคือ ภารกิจช่วยโอลีฟของป๊อปอายให้พ้นจากกะลาสีเรือชื่อ บลูโต (Bluto) ที่ชอบโอลีฟเช่นกัน บลูโตพยายามอย่างมากที่จะขโมยโอลีฟจากป๊อปอาย แต่ป๊อปอายมักเอาชนะเขาได้เสมอ โดยใช้ ไปป์ เป็นอุปกรณ์สารพัดประโยชน์ในภารกิจช่วยแฟนสาวนั่นเอง

สำหรับเด็ก ๆ แล้ว ตัวการ์ตูน ป๊อปอาย ไม่ใช่แค่ซูเปอร์ฮีโร่ที่ใช้กำลังเหนือธรรมชาติจัดการปัญหา แต่ยังเป็นต้นแบบหรือแบบอย่างของการใช้ “ความคิดสร้างสรรค์” ด้วย นั่นคือการประยุกต์ใช้ไปป์เป็นอุปกรณ์อย่างอื่น หลายครั้งเราจึงเห็นป๊อปอายใช้ไปป์มากกว่าเป็นเพียงตัวกรองควัน แต่ใช้มันเป็นเครื่องพ่นผักโขม, นกหวีด, เจ็ทแพ็ค, ใบพัด, เครื่องพ่นไฟ, หัวฉีดน้ำ, กล้องส่องทางไกล จนมีคำกล่าวว่า “ไปป์ของป๊อปอายมีประโยชน์กว่ามีดของกองทัพสวิสฯ ซะอีก

ภายใต้ความเฉลียวฉลาดและความคิดสร้างสรรค์ ป๊อปอายยังเป็นตัวการ์ตูนที่มีภาพลักษณ์ของความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หรือมีมนุษยธรรมสูงมาก เรียกได้ว่ามากพอ ๆ กับพละกำลังอันมหาศาลของเขานั่นแหละ

อ่านเพิ่มเติม : 

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

Chuck Stanion in Pipe Line. Smokingpipes.com (October 2, 2020) : “The Real Popeye The Sailor”. <https://www.smokingpipes.com/smokingpipesblog/single.cfm/post/the-real-popeye-the-sailor>


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2566