“จับต้องประคองนม” ความงดงาม “เชิงสังวาส” ในจิตรกรรมไทยที่วัดคงคาราม ราชบุรี

วัดคงคาราม ศิลปะ เชิงสังวาส จิตรกรรมไทย
ภาพจิตรกรรมเชิงสังวาสที่วัดคงคาราม จังหวัดราชบุรี

“จับต้องประคองนม” ความงดงาม “เชิงสังวาส” ใน จิตรกรรมไทย ที่ วัดคงคาราม จังหวัดราชบุรี

ความงามของจิตรกรรมฝาผนังตามโบสถ์วิหารนั้น ย่อมเป็นที่ประจักษ์ว่างดงามและทรงคุณค่ายิ่ง ด้วยเส้นที่อ่อนหวาน กลมกลึง หรือหนักแน่น ด้วยสีที่บ่งบอกอารมณ์อันกราดเกรี้ยว ด้วยสีที่บอกถึงความอ่อนโยน ด้วยสีที่บอกถึงความอลังการยิ่งใหญ่ ความลึกล้ำแห่งปรัชญา ด้วยการจัดวางภาพเป็นเรื่องราวอย่างง่ายง่าย แต่งามด้วยเส้นและสีไม่กี่สี ด้วยทีท่าอันงามของตัวเรื่อง ตัวกาก ทําให้ภาพจิตรกรรมฝาผนังดูง่ายไม่ซับซ้อน เข้าใจ และน่าสนใจ

แต่ภาพที่น่าสนใจและสร้างบรรยากาศอันงามให้กับคนดู นอกจากปรัชญาเรื่องราวทางพุทธศาสนาแล้ว ช่างเขียนย่อมต้องแสดงความเป็นตัวตนของเขา แสดงชีวิตความเป็นอยู่ของเขา แสดงยุคสมัยของเขา ออกมาในภาพเขียนด้วย

ภาพอันน่ารักและน่าสนใจยิ่งนี้ เป็นความงามที่ช่างเขียนไทยได้ใส่ความรู้สึกเข้าไปเหมือนอย่างความรู้สึกในการเขียนภาพอื่นอื่น ภาพเชิงสังวาสใน “จิตรกรรมไทย” เป็นภาพของความงามอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง เป็นภาพความงามของศิลปกรรมแท้แท้ ภาพเหล่านี้จะมีปรากฏอยู่ทุกวัดในประเทศไทยที่มีช่างเขียนเขียนจิตรกรรมฝาผนัง จะมากจะน้อยแตกต่างกันไปตามธรรมชาติของช่างเขียนเป็นสําคัญ

ที่ราชบุรี ในอําเภอโพธาราม ริมทางรถไฟ ที่วัดวัดหนึ่งชื่อ วัดคงคาราม เป็นวัดที่สวยงามร่มรื่น มีพระอุโบสถ และหมู่กุฎีสงฆ์เป็นเรือนไทย มีงานจิตรกรรมที่สวยงามและสมบูรณ์ยิ่ง ฝีมือการเขียนของช่างก็ล้ำเลิศเป็นแบบอย่างได้ เรื่องส่วนใหญ่ที่เขียนเป็นเรื่องชาดก ฝีมือการเขียนของช่างที่นับว่าเลิศในพระอุโบสถคือการเขียนภาพคน ซึ่งถือว่าเป็นเอกในด้านความมีชีวิตชีวา เคลื่อนไหวได้ รวมถึงอารมณ์ต่างต่างนับว่าดีเยี่ยม

ด้วยเหตุนี้ภาพ “เชิงสังวาส” อันมีปรากฏอยู่มากแห่งในผนังพระอุโบสถวัดคงคารามนี้ จึงดูได้อารมณ์และสวยงามยิ่ง นอกเหนือจากภาพคนแล้ว ยังมีภาพสัตว์ที่สวยงามในเชิงสังวาสด้วย และช่างเขียนเป็นผู้ที่สามารถเขียนได้อย่างมีอารมณ์และงามในการจัดวางภาพ

ผู้หญิง จิตรกรรมไทย เชิงสังวาส วัดคงคาราม
ภาพจิตรกรรมเชิงสังวาสที่ วัดคงคาราม จังหวัดราชบุรี

ภาพที่นํามาให้ดูนี้เป็นภาพที่ตัดออกมาจากภาพใหญ่ ตอนที่พระเจ้าอังคติราชกับพระมเหสีประทับนั่งในปราสาท ซึ่งจัดภาพได้อย่างยิ่งใหญ่อลังการ มีกลุ่มนักดนตรีหญิงที่สวยงามนั่งเล่นดนตรีอยู่เบื้องล่าง ข้าทาสบริวารหมอบเฝ้าอยู่อีกด้านหนึ่ง เบื้องขวามือเป็นภาพชายหนุ่มหญิงสาวกําลังเกี้ยวพาราสี ตรงเชิงบันได

หญิงสาวนั่งชันเข่าข้างหนึ่ง เปลือยส่วนบน ชายหนุ่มแอบอยู่ข้างเสา มือหนึ่งเกาะกุมเสาเหนี่ยวตัวเอื้อมมืออีกข้างมากุมซ้อนเต้าเพียงเบาเบา ฝ่ายหญิงสะเทิ้นอายขวยเขิน ด้วยมือข้างหนึ่งผลักต้นแขนแต่ พองาม รูปร่างของหญิงสาวนั้นงามได้สัดส่วนอย่างยิ่ง หน้าท้องที่กลมกลึงลาดเนียน และหน้าอกอวบเต็ม หน้าเธอสวยเชิดเอียงอายเล็กน้อย ฝ่ายชายหนุ่มดูปลาบปลื้มผ่องใส

ผ้าม่านที่พาดเอียงลงมาด้านหนึ่งนั้นตัดกับพื้นสีแดงครึ่งล่างพอเหมาะพอเจาะดีเหลือเกิน พื้นดําลายทอง เบื้องหลังก็สวยลึกลับ

อีกภาพหนึ่งเป็นภาพสังวาสระหว่างเงือก ในท้องทะเลใหญ่ที่เต็มไปด้วยฝูงปลาน้อยที่ระเริงกับคลื่น เงือกสองตัวใช้หางเกี่ยวกระหวัดรัดเร้ากันแนบแน่น ตั้งแต่ปลายหางขึ้นมาจนถึงโคน เนื้อตัวที่เป็นคนก็แนบกระชับกัน มือก็เกี่ยวกอดกุมกันพัลวันพัลเก มือข้างหนึ่งของเงือกตัวผู้กุมอยู่กับเต้างามของเงือกสาว หน้าตาเหลือกล้นอัศจรรย์ใจ เงื่อกสาวก็เหมือนต้องมือแรก อ่อนปวกเปียกในวงแขน

ภาพนี้งามโดยรวมทั้งปลาทั้งเต่าทั้งม้าบินผาดโผน เริงร่า สนุกสนานกันทั่วท้องทะเล

เงือก หญิง ชาย จิตรกรรมไทย เชิงสังวาส วัดคงคาราม
ภาพจิตรกรรมเชิงสังวาสที่วัดคงคาราม จังหวัดราชบุรี

ดูอีกภาพหนึ่งก็ได้ เป็นตอนที่เจ้าชายสิทธัตถะจะออกบวช เข้ามาดูพระชายา เห็นนางสนมกํานัลนอนเกลือกกลิ้งผ้าผ่อนหลุดลุ่ย มือไม้ไขว่คว้าหาที่เกาะกุม นี่ก็วางภาพได้งามด้วยการเขียนรูปร่างคนที่ได้ สัดส่วนงามกลมกลึง เส้นอ่อนหวานและเขียนอย่างแม่นยํามาก

ภาพจิตรกรรมเชิงสังวาสที่ วัดคงคาราม จังหวัดราชบุรี

นี่เป็นภาพที่ตัดมาเฉพาะส่วนให้ดู ถ้าไปดูของจริงจะเห็นว่าภาพนี้มีการวางภาพที่งามสง่า โดยเฉพาะเจ้าชายสิทธัตถะนั้นยืนอยู่หน้าฉากสีน้ำเงินอมเทา เขียนดอกไม้แดงร่วงเต็มผนัง สีอยู่ในวรรณะอุ่น ได้บรรยากาศแห่งการนอน

นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่นํามาเชิญชวนให้ดูกัน เพื่อให้เห็นความงาม “เชิงสังวาส” ที่ช่างเขียนสมัยรัชกาลที่ 4 นฤมิตเอาไว้ให้เราได้ดู

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่ 


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2562