30 มิถุนายน 2002 บราซิลคว้าแชมป์บอลโลก 2002 เป็นสมัยที่ 5

บราซิล แชมป์ ฟุตบอลโลก
Brazil's forward Ronaldo (C), flanked by teammates, hoists the World Cup trophy during the award ceremony at the International Stadium Yokohama, Japan, 30 June, 2002 following Brazil's 2-0 victory against Germany in match 64 of the 2002 FIFA World Cup Korea Japan final. Brazil has now won a record five World Cup titles. Brazil previously was a FIFA World Cup winner in 1958, 1962, 1970 and 1994. AFP PHOTO ODD ANDERSEN

ทีมชาติบราซิล สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าแชมป์ฟีฟ่าเวิลด์คัพ ถ้วยรางวัลใหญ่ที่สุดของโลกในการแข่งขันฟุตบอลเป็นสมัยที่ 5 ในวันที่ 30 มิถุนายน 2002 ด้วยการเอาชนะเยอรมนี อดีตแชมป์ 3 สมัย (ในขณะนั้น) ไปได้ 2-0 ด้วยการยิงประตูของโรนัลโดนักเตะระดับตำนานอีกคนของ บราซิล

ฟุตบอลโลก 2002 เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ที่มีเจ้าภาพจัดการแข่งขันสองประเทศคือญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยนัดชิงชนะเลิศระหว่างบราซิลและเยอรมนีจัดขึ้นที่โยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น

Advertisement
โรนัลโด นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2002 บราซิล แชมป์ฟุตบอลโลก
โรนัลโดวิ่งแสดงความดีใจหลังทำประตูแรกขึ้นนำเยอรมนีในการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2002 ก่อนที่เขาจะทำประตูที่สองในช่วงท้ายเกม ทำสกอร์รวม 8 ประตูในทัวร์นาเมนต์นี้และคว้ารางวัลรองเท้าทองคำไป (AFP PHOTO TOSHIFUMI KITAMURA)

การคว้าแชมป์ของ บราซิล ในครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายเนื่องจากทีมประกอบด้วยนักเตะชั้นนำอย่าง คาฟู กัปตันทีม และสามประสานเกมรุกอย่างโรนัลโด ริวัลโด และโรนัลดินโญ รวมไปถึงแบ็คซ้ายจอมบุกอย่างโรแบร์โต คาร์ลอส

โอลิเวอร์ คาห์น กัปตันทีมชาติเยอรมนีที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนายทวารมือหนึ่งของโลกในยุคนั้น เดินคอตกหลังจบเกมนัดชิงฟุตบอลโลก 2002 เมื่อทีมต้องพ่ายให้กับบราซิลด้วยสกอร์ 2-0 ซึ่งลูกแรกที่เสียไปเกิดจากความผิดพลาดของคาห์นเองด้วยที่รับลูกยิงของริวัลโดหลุดมือจนถูกโรนัลโดยิงซ้ำเข้าไปได้ แม้ว่าก่อนหน้านั้นเขาจะช่วยทีมมาได้หลายครั้งก็ตาม ( AFP PHOTO / PATRICK HERTZOG)
โอลิเวอร์ คาห์น กัปตันทีมชาติเยอรมนีที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนายทวารมือหนึ่งของโลกในยุคนั้น เดินคอตกหลังจบเกมนัดชิงฟุตบอลโลก 2002 เมื่อทีมต้องพ่ายให้กับบราซิลด้วยสกอร์ 2-0 ซึ่งลูกแรกที่เสียไปเกิดจากความผิดพลาดของคาห์นเองด้วยที่รับลูกยิงของริวัลโดหลุดมือจนถูกโรนัลโดยิงซ้ำเข้าไปได้ แม้ว่าก่อนหน้านั้นเขาจะช่วยทีมมาได้หลายครั้งก็ตาม ( AFP PHOTO / PATRICK HERTZOG)

กลับกันการเข้าถึงนัดชิงชนะเลิศของเยอรมนีถือเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายไม่น้อย เนื่องจากทีมขาดผู้เล่นคนสำคัญอย่างเซบาสเตียน ไดส์เลอร์ เมเม็ต โชล และเยนส์ โนวอทนี และการผ่านรอบน็อคเอาท์ของทีมก็เป็นไปอย่างกระท่อนกระแท่นโดยได้ชัยชนะด้วยสกอร์ 1-0 ทั้งสามนัด ด้วยฟอร์มการเล่นที่ไม่ได้เหนือไปกว่าคู่แข่งอย่างปารากวัยหรือเกาหลีใต้เจ้าภาพร่วม

ทัวร์นาเมนต์นี้ยังมีสิ่งที่เหนือความหมายอีกอย่างคือการตกรอบอย่างรวดเร็วของฝรั่งเศสแชมป์เก่าปี 1998 ซึ่งไม่สามารถคว้าชัยชนะได้เลย และเก็บคะแนนในรอบแบ่งกลุ่มได้เพียงแต้มเดียว ขณะที่ทีมเต็งอีกทีมอย่างอาร์เจนตินาก็ต้องตกรอบแบ่งกลุ่มเช่นกันหลังพ่ายให้กับอังกฤษด้วยลูกจุดโทษของเดวิด แบ็คแฮม และไม่อาจเอาชนะสวีเดนได้ในนัดสุดท้าย

นอกจากนี้การแข่งขันในรอบสุดท้ายซึ่งเจ้าภาพร่วมอย่างเกาหลีใต้สามารถสร้างประวัติศาสตร์เข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จก็เต็มไปด้วยข้อกังขา โดยเฉพาะการตัดสินของกรรมการที่ถูกมองว่าเข้าข้างเจ้าภาพอย่างเห็นได้ชัดทั้งในเกมกับอิตาลีและสเปน

โรนัลโด กิลแบร์โต ซิลวา บราซิล แชมป์ฟุตบอลโลก
โรนัลโด และกิลแบร์โต ซิลวา(ขวา) จูบถ้วยรางวัลฟุตบอลโลกเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2002 (AFP PHOTO ROBERTO SCHMIDT)

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 30 มิถุนายน 2561