ผู้เขียน | กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม |
---|---|
เผยแพร่ |
สัมภาษณ์ ดร. ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เมื่อปี 2517 ระบุ “พลเรือน 2 พวกมักจะตีกัน จนทหารชนะ”
เมื่อประชาชนมีชัยชนะในการโค่นล้มระบอบเผด็จการเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2516 การเมืองไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังเหตุการณ์นั้น ประชาธิปไตยเบ่งบาน, มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่, เกิดพลังของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน ฯลฯ
หลัง “14 ตุลาฯ” (ก่อนจะถึง “6 ตุลาฯ”) ดร. ป๋วย อึ๊งภากรณ์ (ต่อมาเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในช่วงเหตุการณ์ “6 ตุลาฯ”) ได้ให้สัมภาษณ์กับ “ประชาชาติรายวัน” เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2517 (หนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 15 กันยายน 2517) ในประเด็นเกี่ยวกับการเมืองสามเส้า รัฐธรรมนูญ และขบวนการนักเรียน นิสิต นักศึกษา บางส่วนดังนี้
ถาม : เท่าที่อาจารย์มองการเมือง คิดว่ามันจะออกไปในรูปไหน
ตอบ : …เราก็ควรต้องสู้ต่อไป รัฐธรรมนูญก็มีดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ผมอาจจะคาดหวังอะไรมากเกินไป จึงผิดหวังมากกว่าคนอื่น แต่ต้องคอยดูต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร แต่ถึงอย่างไรก็ตาม มันก็ยังดีกว่าก่อน 14 ตุลาฯ เอาละ ได้แค่นี้ก็เอา เราสู้กันต่อไป
เมื่อพิจารณาการเมืองของไทยเห็นมันเป็นสามเส้า คือ ทหาร แล้วก็พลเรือนที่ไม่ยอมจะเปลี่ยนแปลง กับพลเรือนที่อยากจะเปลี่ยนแปลง ส่วนมากพลเรือน 2 พวกมักจะตีกัน จนทหารชนะ พอเป็นดังนี้ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
การสู้กันระหว่างพลเรือนด้วยกัน ยังมีหวังว่าจะเล่นกันตามกติกายังมีคนชนะอยู่ฝ่ายหนึ่ง เป็นการต่อสู้ตามกติกาประชาธิปไตย ในความหมายอย่างกว้างก็นี่มันก็ยังดีกว่าก่อน 14 ตุลาฯ เราก็ยังได้เล่นเกมส์กัน และมีความหวังขึ้นมาบ้าง พูดกันง่าย ๆ อย่างสมัยก่อน มีหลวงธำรงฯ กับหลวงประดิษฐ์ฝ่ายหนึ่ง และคุณควงกับคุณเสนีย์สู้กัน ซึ่งถ้าทั้งสองฝ่ายนี้รวมกัน ทหารก็ขึ้นมาไม่ได้ แต่กลับตีกันเสีย ทหารจึงขึ้นมา
ถาม : มีแนวโน้มไหมครับที่พลเรือนจะตีกันจนทหารขึ้นมา?
ตอบ : ก็น่าจะเป็นไปได้ เพราะฉะนั้นจึงน่าวิตก
ถาม : ที่อาจารย์คว่าเป็นแบบนี้ คิดว่าทหารเขากำลังคิดอะไร?
ตอบ : คือว่าผมก็ไม่รู้ว่าทหารเขาจะคิดยังไง แต่คิดว่าคนที่เสียอำนาจ และคิดว่าตนจะสูญเสียอีก คนที่เคยมีอำนาจก็จะต้องหวงแหนอำนาจอยู่ อีกส่วนที่เขาจะหาโอกาสอย่างไร ก็เป็นสิ่งที่เขาจะไม่บอกเรา เราจึงหวาด ๆ อยู่เสมอ และหวังว่าเราจะไม่กลับไปเป็นแบบนั้นอีก
ถาม : ถ้าทหารกลับมา อาจารย์คิดว่าบทบาทส่วนตัวของอาจารย์จะเป็นอย่างไร
ตอบ : เราก็ต้องต่อสู้ต่อไป เวลานี้ผมคิดว่าเรารวมกำลังกันได้ง่าย ไม่เหมือนแต่ก่อน สมัยจอมพล ป. และต่อมานั้นเราไม่มีการรวมกำลังกันเลย ไม่มีการที่ใครจะคิดทางด้านประชาธิปไตยจริง ๆ จนถึงสมัยจอมพล ถนอม ก็พอรวมกันเป็นฝ่ายค้าน เช่น ประชาธิปัตย์ แต่ตอนนี้มันไม่มีพื้นฐาน แม้เดี๋ยวนี้เราก็ยังไม่มีพื้นฐานที่แน่นพอ
ผมว่าพื้นฐานที่ดี เราต้องถือที่ชาวนา, กรรมกร เวลานี้เรามีนิสิต นักศึกษา อาจารย์และอื่น ๆ อย่างคุณอย่างผม ที่มีความคิดว่าจะให้มีความชอบธรรมขึ้นในสังคม ถ้าหากว่าเขาผุดขึ้นมา เราก็ตะลุยออกไป ถ้าเรารวมกำลังกันได้อยู่เสมอมันก็ยากที่ใครจะมายึดอำนาจ ผมก็หวังไว้อย่างนั้น
ถาม : อาจารย์วิเคราะห์ว่าบทบาทของนิสิตนักศึกษาจะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร
ใจผมคิดว่าไม่เปลี่ยนไปแบบคนหนุ่ม คนสาว ถ้ามันไม่มีอะไรจะทำ มันก็ทะเลาะกัน ผมคิดว่านักศึกษาเขาทำถูก ที่ทะเลาะกันตีกันมันอีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่เขาไม่ลงรอยกัน ก็เป็นเรื่องของเขา แต่ถ้ามีเรื่องใหญ่ ๆ ก็คงจะรวมกันได้ หวังว่ามันจะเป็นอย่างนี้ต่อไป
อ่านเพิ่มเติม :
- ดร. ป๋วย อึ๊งภากรณ์ บันทึกถึงคุณภาพชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายที่ควรมี?
- งานพัฒนาชุมชน อีกบทบาทของ “ดร.ป๋วย” ผู้ก่อตั้ง NGO แรกของไทย และบัณฑิตอาสาฯ
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 7 ตุลาคม 2564