“ถ้าไม่อยากแก่เร็วตายเร็ว ก็อย่าไปเป็นนายกฯ เมืองไทยเข้าก็แล้วกัน” วาทะม.ร.ว.คึกฤทธิ์

ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช
ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช (ภาพจาก คึกฤทธิ์ 2528)

“…เกิดมาเป็นลูกเจ้าลูกนาย การศึกษาก็สูง พ่อแม่ก็เลี้ยงมาดี ไม่เคยให้ใครมากระทืบเช้ากระทืบเย็น วันละ 3 เวลาหลังอาหารอย่างเมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี…” ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช

ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ นายกรัฐมนตรีทั้งในภาพยนตร์ และชีวิตจริงใน “รัฐบาลร้อยพ่อพันแม่”

ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ แสดงเป็นนายกรัฐมนตรีในภาพยนตร์ “อั๊กลี่ อเมริกัน” แต่ดูเหมือนว่า การเป็นนายกรัฐมนตรีในชีวิตจริงจะยากกว่าการแสดงบทบาทในแผ่นฟิล์มที่ว่ากันว่าเป็นเรื่องยาก ต้องผ่านการฝึกหัดประกอบกับความสามารถส่วนตัว

ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ จากพรรคการเมือง “กิจสังคม” ได้ที่นั่งในสภาฯ 18 เสียงในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2518 ดูแล้วไม่น่าได้เป็นรัฐบาล แต่พรรคประชาธิปัตย์ที่ได้เสียงมากกว่าพรรคอื่นใดไม่สามารถรวมเสียงสมาชิกสภาฯ ได้เกินกว่าครึ่งมาสนับสนุนรัฐบาลผสมของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเกษตรสังคม จนไม่ได้รับความไว้วางใจในวาระแรกที่รัฐบาลแถลงนโยบายของรัฐบาล ทำให้รัฐบาลต้องลาออก

ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช ผู้พี่จากประชาธิปัตย์ต้องอำลาออกไปแล้ว มาถึงคราวของผู้น้องจากพรรคกิจสังคมจัดตั้งรัฐบาล แม้จะมีผู้แทนฯ ได้รับเลือกตั้งมาเพียง 18 คน แต่ด้วยกลวิธีเจรจาและการต่อรองจูงใจทำให้ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ตั้งรัฐบาลได้ กลายเป็นรัฐบาลที่คนตั้งฉายากันว่า “รัฐบาลร้อยพ่อพันแม่” เพราะผสมกันหลายพรรคเหลือหลาย รวมทั้งสิ้น 12 พรรค

อย่างไรก็ตาม บทบาทการทำหน้าที่ “นายกรัฐมนตรี” จากมุมมองของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ น่าจะเป็นเรื่องยากไม่น้อยไปกว่าการรับบทในภาพยนตร์ เมื่อพิจารณาจากคำกล่าวของท่านเอง ครั้งหนึ่งท่านกล่าวไว้ว่า

“ขอเรียนว่า ได้อดทนมาเป็นเวลา 1 ปี 1 เดือน กับ 4 วัน อดทนให้คนเหยียบย่ำดูถูก ทำทุกอย่างโดยตนเองไม่ใช่คนเช่นนั้นเลย พูดไปจริงๆ ก็เกิดมาเป็นลูกเจ้าลูกนาย การศึกษาก็สูง พ่อแม่ก็เลี้ยงมาดี ไม่เคยให้ใครมากระทืบเช้ากระทืบเย็น วันละ 3 เวลาหลังอาหารอย่างเมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี”

เมื่อมีการประกาศยุบสภา และประกาศเลือกตั้งวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2519 ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ แพ้เลือกตั้งที่เขตดุสิต ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้ร่วมรัฐบาลใด แต่ก็เป็นหัวหน้าพรรคที่มีอิทธิพลทางการเมืองสูง

นรนิติ เศรษฐบุตร แสดงความคิดเห็นในหนังสือ “เกิดมาเป็นนายกฯ” ว่า การที่ท่านไม่ได้เป็นนายกฯ อีก คงทำให้ท่านไม่แก่ลงไป สมดังที่ท่านเคยกล่าวในการบรรยายครั้งหนึ่งว่า

“ถ้าไม่อยากแก่เร็ว ตายเร็ว ก็อย่าไปเป็นนายกรัฐมนตรีเมืองไทยเข้าก็แล้วกัน”

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่ 


อ้างอิง :

นรนิติ เศรษฐบุตร. เกิดมาเป็นนายกฯ (ศิลปวัฒนธรรม ฉบับพิเศษ). กรุงเทพฯ : ศิลปวัฒนธรรม, 2529


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 7 มิถุนายน 2562