พบหีบทองคำบรรจุ “ชิ้นส่วนกะโหลก” ระบุเป็นของ “พระพุทธเจ้า” ในประเทศจีน

แฟ้มภาพพระพุทธรูปจาก pixabay

จากรายงานของ Live Science ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2016, นักโบราณคดีพบชิ้นส่วนกะโหลกเก็บรักษาอย่างดีในหีบหลายชั้นโดยชั้นในสุดเป็นหีบทองคำซึ่งมีจารึกระบุว่า ชิ้นส่วนกะโหลกดังกล่าวเป็นของ “พระพุทธเจ้า” ศาสดาของชาวพุทธ

ทีมนักโบราณคดีได้ทำการสำรวจซากเจดีย์ในวัดเปาอันใหญ่ (Grand Bao’en Temple) ในเมืองหนานจิง (Nanjing) และได้พบกับห้องใต้ดิน ซึ่งภายในพบหีบศิลาขนาดใหญ่พร้อมจารึกที่ระบุว่าเขียนขึ้นโดยเจ้าอาวาสนามว่า เต๋อหมิง (Deming) มีข้อความบรรยายว่าพระเจ้าอโศกกษัตริย์จากอินเดียได้ส่งชิ้นส่วนกะโหลก และอัฐิธาตุอื่นๆอีก 18 ชิ้นของพระพุทธเจ้ามายังประเทศจีน เมื่อกว่า 2,200 ปีก่อน

ในห้องใต้ดินของศาสนสถานเก่าแก่แห่งนี้ นักโบราณคดีได้พบกับหีบศิลาภายในพบกล่องเหล็กบรรจุเจดีย์จำลองทำจากไม้จันทน์ เงิน และทองประดับด้วยอัญมณีและมีการสลักรายชื่อผู้บริจาค ภายในเจดีย์จำลองมีหีบที่ทำจากเงินสลักลวดลายเทพผู้พิทักษ์ และนางอัปสรา ภายในหีบเงินยังพบหีบทองคำขนาดย่อมลงมา บรรจุชิ้นส่วนกะโหลก และอัฐิธาตุอื่นๆ ซึ่งถูกระบุว่าเป็นของ “พระพุทธเจ้า”

จารึกบนหีบศิลาระบุว่า มันถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยของจักรพรรดิเจินจง (Emperor Zhenzong, ค.ศ. 997-1022 หรือ พ.ศ. 1540-1565) แห่งราชวงศ์ซ่ง และแม้จะมีการระบุว่าชิ้นส่วนกะโหลกที่ถูกพบเป็นของพระพุทธเจ้า แต่นักโบราณคดีที่ทำการสำรวจและเผยแพร่การค้นพบในวารสาร Chines Cultural Relics ก็มิได้แสดงความเห็นถึงโอกาสความเป็นไปได้ว่า ชิ้นส่วนดังกล่าวจะเป็นของ “พระพุทธเจ้า” จริง มีมากน้อยเพียงใด

ภิกษุจีนจารึกว่า หลังจาก “พระพุทธเจ้าปรินิพพาน ร่างของพระองค์ถูกฌาปนกิจใกล้กับแม่น้ำหิรัญวดี (Hirannavati River)” ในประเทศอินเดีย ก่อนที่พระเจ้าอโศก (268-232 ก่อนคริสตกาล หรือ พ.ศ. 275-311) จะนำอัฐิของพระพุทธองค์มาเก็บรักษาและตัดสินใจ “แบ่งออกเป็น 84,000 ส่วน” โดย “ดินแดนจีนของเราได้รับมาทั้งสิ้น 19 ส่วน…รวมถึงชิ้นส่วนกะโหลกข้างขม่อมด้วย”

เนื้อหาตามจารึกกล่าวต่อไปว่า ชิ้นส่วนกะโหลกชิ้นนี้ถูกเก็บไว้ในวัดที่ถูกทำลายไปเมื่อ 1,400 ปีก่อน จากนั้นจักรพรรดิเจินจงจึงได้มีพระบัญชาให้สร้างวัดขึ้นมาใหม่เพื่อเก็บรักษาชิ้นส่วนสำคัญดังกล่าวพร้อมอัฐิชิ้นอื่นๆ โดยฝังไว้ในห้องใต้ดินของวัดดังกล่าว

รายงานของ Live Science ระบุว่า นักโบราณคดีจากสถาบันโบราณคดีแห่งเมืองหนานจิงได้เริ่มทำการสำรวจห้องใต้ดินแห่งนี้เมื่อช่วงปี 2007-2010 ซึ่งไม่ได้รับความสนใจจากสื่อตะวันตกมากนัก แต่ในประเทศจีนมีการรายงานเรื่องนี้อย่างแพร่หลาย

ปัจจุบันอัฐิดังกล่าวถูกเก็บรักษาไว้ที่วัดชีเสีย (Qixia Temple) ในหนานจิง และเคยนำไปจัดแสดงที่ฮ่องกงและมาเก๊ามาแล้ว โดยในปี 2012 เมื่อนำไปจัดแสดงที่มาเก๊าสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผู้จัดงานสามารถขายบัตรเข้าชมได้มากถึง 140,000 ใบ

ทั้งนี้ รายละเอียดของการค้นพบดังกล่าวถูกเผยแพร่เป็นภาษาจีนในปี 2015 ในวารสาร Wenwu ก่อนแปลเป็นภาษาอังกฤษและเผยแพร่อีกครั้งในวารสาร Chinese Cultural Relics

ที่มา: “Ancient Shrine That May Hold Buddha’s Skull Bone Found in Crypt”. Live Science. <http://www.livescience.com/55243-buddha-skull-bone-found-in…>