“ปอยเปต” กลายเป็นดินแดนการพนัน-คาสิโน ได้อย่างไร?

การพนัน ปอยเปต — ภาพถ่ายบริเวณขุดผ่านแดนไทย-กัมพูชาที่ปอยเปต ถ่ายเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2014 (Photo by TANG CHHIN SOTHY / AFP)

ผู้เขียน	เสมียนอารีย์
เผยแพร่	วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2567

กัมพูชา ก็เหมือนประเทศเพื่อนบ้านในอุษาคเนย์ที่พบ “การพนัน” มาตั้งแต่ยุคโบราณนับร้อยนับพันปี แต่ปัจจุบัน กัมพูชา เป็นประเทศที่ค่อนข้างเปิดเสรีการพนัน มีการตั้งคาสิโนถูกกฎหมายหลายแห่งในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ “ปอยเปต” บริเวณชายแดนอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เหตุใดปอยเปตจึงกลายมาเป็นดินแดนแห่งคาสิโน ?

แนวคิดการทำคาสิโนในกัมพูชามีมาอย่างยาวนาน ย้อนกลับไปในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลกัมพูชาดัดแปลงที่พักบน Bokor Hill ซึ่งอดีตเคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนในยุคอาณานิคมฝรั่งเศส ปรับปรุงตกแต่งใหม่ให้กลายเป็นรีสอร์ท และคาสิโน ทั้งนี้เพื่อเป็นแหล่งรายได้ของรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกัมพูชาไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้มากเพียงพอต่อการนำไปพัฒนาประเทศ ดังนั้น อีกทางเลือกหนึ่งของรัฐบาลกัมพูชา คือ การดึงรายได้จากนักลงทุนชาวต่างชาติ ด้วยแผนการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ที่มีการก่อสร้างโรงแรม ศูนย์การค้า และนำคาสิโนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในโครงการด้วย

ราวปี พ.ศ. 2537-2538 บริษัท Ariston Inc. ของ Chen Lip Keong นักธุรกิจชายเมลย์เชื้อสายจีน ได้รับใบอนุญาตดำเนินกิจการคาสิโนในกัมพูชาเป็นเวลา 70 ปี จากนั้น บริษัท Ariston Inc. ได้มอบใบอนุญาตคาสิโนให้กับ NagaCorp Ltd. เป็นผู้ดำเนินกิจการคาสิโน ซึ่งให้บริการในชื่อ “Naga Resorts” บนเรือที่ลอยอยู่ในแม่น้ำใจกลางกรุงพนมเปญ เปิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ปี พ.ศ. 2538 นับเป็นคาสิโนในยุคใหม่แห่งแรกของกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานั้นประเทศกัมพูชายังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการพนันที่ชัดเจน กระทั่ง กฎหมายว่าด้วยการปราบปรามการพนันประกาศใช้เมื่อปี พ.ศ. 2539 ซึ่งได้ห้ามการพนันทุกรูปแบบทั่วประเทศ ยกเว้นที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลเท่านั้น และห้ามชาวกัมพูชาเล่นพนันทุกรูปแบบในประเทศ

การเปิดคาสิโนในกรุงพนมเปญทั้งที่ถูกต้องตามกฎหมาย และลักลอบเปิดแบบผิดกฎหมาย ส่งผลให้เกิดความเสื่อมทรามในสังคมอย่างรุนแรง ทั้งการปล้น ชิงทรัพย์ สังหาร และการฆ่าตัวตาย เนื่องจากการเป็นหนี้พนัน ต่อมา ปี พ.ศ. 2541 ฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งกวาดล้างคาสิโนที่ไม่มีใบอนุญาตในกรุงพนมเปญทันที และสั่งห้ามเล่นการพนันภายในรัศมี 200 กิโลเมตรจากเมืองหลวง

ดังนั้น จึงเหลือคาสิโนที่ได้รับอนุญาตเพียง 2 แห่งเท่านั้นคือ Naga Resorts และ Holiday Club Casino ซึ่งรัฐบาลอนุญาตให้ดำเนินการต่อไปอีก 6 เดือน และจะต้องย้ายกิจการออกจากกรุงพนมเปญเมื่อครบกำหนดเวลา

Holiday Club Casino ตกลงที่จะยุติกิจการ เหลือเพียง Naga Resorts แห่งเดียวเท่านั้น ซึ่งบริษัท Ariston Inc. ก็ได้ยื่นฟ้องต่อศาลในข้อหาที่รัฐบาลกัมพูชาละเมิดสัญญา ซึ่งบริษัทได้รับชัยชนะ แต่ก็มีข่าวลือว่า บริษัทจ่ายเงินสินบนกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อแลกกับการได้รับการยกเว้นจากข้อห้ามตั้งคาสิโนในกรุงพนมเปญ

ต่อมา ปี พ.ศ. 2543 NagaCorp Ltd. ที่ดูแล Naga Resorts ได้ทำข้อตกลงกับรัฐบาลกัมพูชา โดยย้ายกิจการเดิมที่อยู่บนเรือลอยน้ำขึ้นมาอยู่บนแผ่นดิน แล้วสร้างศูนย์รวมความบันเทิงและโรงแรมที่ชื่อ “Naga World” โดยได้รับอนุญาตเป็นเวลา 70 ปี ซึ่งจะดำเนินกิจการไปจนถึงปี พ.ศ. 2608 และนับเป็นคาสิโนแห่งเดียวที่เปิดกิจการในกรุงพนมเปญ

ผลพวงจากคำสั่งห้ามเล่นการพนันภายในรัศมี 200 กิโลเมตร จากกรุงพนมเปญ ทำให้กิจการคาสิโนถูกผลักออกไปตามชายแดนของประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะที่ บาเวต ติดชายแดนประเทศเวียดนาม และปอยเปต ติดชายแดนประเทศไทย ซึ่งดึงดูดการลูกค้าชาวเวียดนาม และชาวไทย ให้มาเล่นการพนันในฝั่งกัมพูชา

ในปี พ.ศ. 2542 “Holiday Poipet Casino” คาสิโนแห่งแรกของปอยเปตก็เปิดให้บริการ โดยตั้งอยู่ห่างจากชายแดนประเทศไทยเพียง 100 เมตร เท่านั้น นี่คือจุดเริ่มต้นของคาสิโนแห่งปอยเปต ดินแดนของการพนัน

ข่าวสด ฉบับวันที่ 21 มิถุนายน ปี พ.ศ. 2542 รายงานว่า “เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กัมพูชา พร้อมคนไทย…ร่วมกันเปิดบ่อนกาสิโนปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย โดยบ่อนแห่งนี้เปิดไว้เพื่อต้อนรับนักพนันคนไทย ส่วนคนเขมรทางราชการห้ามเข้ามาเล่นอย่างเด็ดขาด”

ในไม่ช้าหลังคาสิโนแห่งแรกเปิดตัว การพนันก็เฟื่องฟู และได้รับความนิยมจากคนทั่งสองฝั่งชายแดน และตามมาด้วยคาสิโนอีกหลายแห่งด้วยกัน เช่น Golden Crown Club, Star Vegas และ Tropicana Resort เป็นต้น

คาสิโนที่ปอยเปตส่วนมากดำเนินกิจการโดยนักการเมือง นายทหาร และนักธุรกิจ ซึ่งมาจากทั้งสองประเทศ นักการเมืองของกัมพูชาคนหนึ่งเคยกล่าวว่า คาสิโนในปอยเปตไม่มีผลประโยชน์ที่แท้จริงสำหรับประเทศชาติ หรือประชาชนชาวกัมพูชาทั่วไป เพราะแม้แต่คนที่อาศัยอยู่รอบ ๆ คาสิโนก็ยังเป็นคนยากจนอยู่

สำหรับประเทศไทยเอง ก็เคยมีความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียเงินไปยังคาสิโนที่ชายแดนกัมพูชา รวมถึงในพื้นที่ชายแดนอื่นทั้งที่ลาว และเมียนมาด้วย จนนำมาสู่การถกเถียงกันเรื่องการพนันอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทยเพื่อไม่ให้เงินไหลออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

นอกจากการค้าตามแนวชายแดนแล้ว การพนันหรือคาสิโนก็สร้างเม็ดเงินมหาศาล ในช่วงเวลาไม่ถึง 30 ปี ก็ทำให้ “ปอยเปต” เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่