สายสัมพันธ์ราชสกุลพระเจ้าตาก กับราชวงศ์จักรี

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ณ วัดลุ่มมหาชัยชุมพล อ.เมือง จ.ระยอง

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดจุฬาโลก และสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทั้ง 3 พระองค์ทรงเป็นวีรบุรุษไทย ทรงเป็นนักรบที่เคียงบ่าเคียงไหล่กอบกู้อิสรภาพจากพม่ามาด้วยกัน

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเสด็จพระราชสมภพปีขาล พ.ศ. 2277 ทรงแก่พระชันษากว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และสมเด็จกรมพระราชวังบวรฯ 2 ปีและ 9 ปีตามลำดับ

Advertisement

เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชปราบดาภิเษกเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกขณะดำรงพระยศเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้ถวายพระราชธิดา คือ สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงฉิมใหญ่ ให้เป็นพระราชชายาในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งประสูติพระราชโอรสคือสมเด็จเจ้าฟ้าชายสุพันธุวงศ์ และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้ทรงสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนกระษัตรานุชิต (เจ้าฟ้าเหม็น)

เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติแล้ว เจ้าพระยาอภัยภูธร (น้อย) สมุหนายก ขณะที่เป็นพระยาอนุชิตราชา จางวางพระตำรวจ ได้รับหนังสือ (บัตรสนเท่ห์) ทิ้งที่ใต้ต้นแวงในลานชาลาพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กล่าวกันว่ากาคาบมาทิ้งไว้ เนื้อความในหนังสือกล่าวโทษฟ้องว่าพระโอรสและพระธิดาของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช คือ เจ้าฟ้ากรมขุนกระษัตรานุชิต พระองค์เจ้าหนูดำ และจอมมารดาสำลีวรรณ คบคิดกับข้าราชการหลายคนจะก่อการกบฏแย่งชิงเอาราชสมบัติ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์ใหญ่ คือพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสอบสวนได้ความเป็นสัตย์ รวมทั้งมีการพาดพิงซัดทอดข้าราชการหลายคน เช่น เจ้าพระยาพลเทพ (บุนนาค บ้านแม่ลา) พระยาเพชรปราณี (กล่อม) พระยาพระราม (ทอง) พระอินทเดช (กระต่าย) เป็นต้น รวม 10 คน กับข้าในกรมเจ้าฟ้ากรมขุนกระษัตรานุชิตอีก 30 คน รวม 40 คน

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงโปรดให้ถอดยศเจ้าฟ้ากรมขุนกระษัตรานุชิต เป็นหม่อมเหม็นแล้วสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ที่วัดปทุมคงคา

ส่วนพระองค์เจ้าหนูดำ พระองค์เจ้าหญิงสำลีวรรณและข้าราชการที่สมรู้ร่วมคิดนั้นทรงโปรดให้ลงโทษด้วยการตัดศีรษะเสียทั้งสิ้น

ส่วนโอรสของเจ้าฟ้ากรมขุนกระษัตรานุชิตหรือหม่อมเหม็นจำนวน 6 องค์นั้นทรงโปรดให้ใส่เรือไปถ่วงน้ำเสียทั้งหมดที่ปากน้ำเจ้าพระยา

จอมมารดาสำลีวรรณ

พระองค์เจ้าหญิงสำลีวรรณ หรือจอมมารดาสำลีวรรณ ท่านเป็นชายาในสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ พระอนุชาธิราชแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

ส่วนสมเด็จเจ้าฟ้าฉิมใหญ่นั้นสิ้นพระชนม์ในช่วงรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเสด็จครองสิริราชสมบัติอยู่ 15 ปี ทรงมีพระโอรสและพระธิดาทั้งสิ้น 29 พระองค์ ช่วงปลายรัชสมัยของพระองค์บ้านเมืองเป็นจลาจล สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้เข้าทำการสงบระงับเหตุจลาจล และสำเร็จโทษสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระปฐมกษัตริย์แห่ง

พระราชวงศ์จักรี

ครั้งนี้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ที่เป็นพระมหาอุปราช และสมเด็จเจ้าฟ้าชายน้อย พระราชโอรสพระองค์แรกและพระองค์ที่สองแห่งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ยอมพลีพระชนมชีพให้สำเร็จโทษตามพระราชบิดา ด้วยไม่ยอมเป็นข้าของแผ่นดินใหม่ สมเด็จพระอัครมเหสี กรมหลวงบาทบริจา (สอน) ถูกลดพระยศเป็น “หม่อมสอน” รวมทั้งพระโอรสและพระธิดาชั้นพระองค์เจ้าถูกลดพระยศ แต่ก็ยังเป็นที่เคารพรักของราษฎรและผูกพันกับเจ้านายในพระราชวงศ์จักรีและผูกสายสัมพันธ์ทางการสมรสกับเจ้านายผู้ทรงเป็นต้นราชสกุลหลายพระองค์ และมีสายสืบราชสกุลมาจนทุกวันนี้

พระองค์เจ้าหญิงสำลีวรรณเป็นพระธิดาพระองค์ที่ 8 ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาอำพัน ธิดาคนเดียวของอุปราชจันทร์เมืองนครศรีธรรมราช

เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงตีเมืองนครศรีธรรมราชได้ทรงโปรดให้เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช (หนู) และอุปราชจันทร์เข้ามารับราชการในกรุงธนบุรี จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ท่านได้รับราชการในกรมคชบาลเป็นที่พระยาราชวังเมือง แล้วได้เป็นเจ้าเมืองถลาง และได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าพระยาสุรินทราชา และภายหลังเจ้าพระยามหาเสนา (ปลี) สมุหพระกลาโหม ถึงแก่อสัญกรรม ทรงมีพระราชประสงค์จะให้เจ้าพระยาสุรินทราชาเข้ามาเป็นสมุหพระกลาโหมแทน แต่เจ้าพระยาสุรินทราชาขอรับราชการเป็นเจ้าเมืองถลางต่อไปด้วยอายุมากแล้ว

ท่านเป็นต้นสกุล “จันทโรจนวงศ์”

พระองค์เจ้าสำลีวรรณทรงเสกสมรสกับสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ พระมหาอุปราชในรัชกาลที่ 2 แต่ครั้งยังดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงเสนานุรักษ์

พระองค์เจ้าสำลีวรรณประสูติพระราชโอรสและพระราชธิดา 6 พระองค์ ประกอบด้วย

1. พระองค์ชายใหญ่ สิ้นพระชนม์แต่ทรงพระเยาว์

2. พระองค์เจ้าหญิงประชุมวงศ์

3. พระองค์เจ้าหญิงนัดดา

4. พระองค์เจ้าหญิงขนิษฐา

5. พระองค์เจ้าชายพงศ์อิศเรศ

6. พระองค์เจ้าหญิงนฤนล

กรมหมื่นกษัตริย์ศรีศักดิเดช

พระองค์เจ้าชายพงศ์อิศเรศ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 8 ในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ ประสูติเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีวอก พ.ศ. 2343 ทรงเป็นพระราชโอรสที่สมเด็จพระราชบิดาโปรดปรานยิ่งนักด้วยทรงเป็น “หลานปู่” ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และทรงเป็น “หลานตา” ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ทรงเป็นเจ้านายฝ่ายหน้าพระองค์เดียวที่เป็นพระราชนัดดาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ข้างต้น

ถึงปีจอ พ.ศ. 2405 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาให้สถาปนาพระองค์เจ้าพงศ์อิศเรศ เป็นพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นกษัตริย์ศรีศักดิเดช ซึ่งทรงเป็นต้นราชสกุลอิศรเสนา ณ อยุธยา

ชายาของพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นกษัตริย์ศรีศักดิเดช คือ คุณหญิงพลับ ธิดาสมเด็จเจ้าฟ้าชายศิลา พระราชโอรสพระองค์ที่ 8 ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

คุณหญิงพลับประสูติพระโอรส 3 พระองค์ คือ หม่อมเจ้ากระจ่าง อิศรเสนา หม่อมเจ้าจันตรี อิศรเสนา และหม่อมเจ้าเสาวรส อิศรเสนา

หม่อมเจ้าเสาวรสเป็นบิดาของเจ้าพระยาวรพงษ์พิพัฒน์ (หม่อมราชวงศ์เย็น อิศรเสนา) เสนาบดีกระทรวงวังในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นกษัตริย์ศรีศักดิเดช สิ้นพระชนม์เมื่อเดือน 8 ปีจอ พ.ศ. 2417 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ขณะพระชันษาได้ 75 ปี

สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงปัญจปาปี

พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชอีกพระองค์หนึ่งที่ทรงมีสายสัมพันธ์ทางการสมรสกับเจ้านายฝ่ายหน้าในพระราชวงศ์จักรีคือ สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงปัญจปาปี พระธิดาพระองค์ที่ 11 ได้ทรงเสกสมรสกับสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนอิศรานุรักษ์ พระโอรสในสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ ซึ่งเป็นพระน้องนางในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และเจ้าขรัวเงิน

สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนอิศรานุรักษ์ทรงรับราชการกำกับกรมมหาดไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงเป็นต้นราชสกุลอิศรางกูร ณ อยุธยา

สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงปัญจปาปีประสูติพระโอรสพระธิดา 5 พระองค์ประกอบด้วย หม่อมเจ้าใหญ่ หม่อมเจ้ากลาง หม่อมเจ้าหญิงศรีฟ้า หม่อมเจ้าสุนทรา และหม่อมเจ้าหญิงรสสุคนธ์

พระพงษ์นรินทร์-พระอินทร์อภัย

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงมีความเคารพรักในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองสงบเรียบร้อยแล้ว ทรงโปรดให้ขุดพระศพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชขึ้นมาถวายพระเพลิงที่วัดบางยี่เรือ พระองค์พร้อมสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงฉลองพระองค์พระภูษาขาวอันเป็นการถวายความเคารพและถวายพระเกียรติแด่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชอย่างยิ่ง

ในส่วนของพระโอรสและพระธิดาแห่งองค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก็ทรงให้ความเมตตาชุบเลี้ยงและให้รับราชการในตำแหน่งต่างๆ ทรงโปรดให้สมเด็จเจ้าฟ้าทัศพงศ์ และสมเด็จเจ้าฟ้าทัศไทยเป็นที่ “พระพงษ์นรินทร์” และ “พระอินทร์อภัย” ที่หม่อมราชนิกุลรับราชการในราชสำนัก เนื่องด้วยพระโอรสทั้งสองมีความรู้ทางการแพทย์ และมีตำแหน่งเข้าเฝ้าต่อจากเสนาบดี และด้วยหน้าที่ทางการแพทย์ที่มีความสนิทคุ้นเคยและเข้านอกออกในได้ ทำให้พระอินทร์อภัยมีสัมพันธ์สวาทกับเจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

ความทราบถึงพระกรรณทรงโปรดให้ไตร่สวนได้ความเป็นสัตย์ จึงโปรดให้ประหารชีวิตเสียทั้งพระอินทร์อภัย และเจ้าจอม เหตุเกิดเดือน 10 ปีวอก พ.ศ. 2355

เจ้าจอมมารดาน้อย

ธิดาคนที่สองของพระอินทร์อภัยคือ คุณหญิงน้อย หรือเจ้าจอมมารดาน้อย ได้เป็นหม่อมของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงพระยศเป็นสมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฏ ประสูติพระราชโอรส 2 พระองค์ คือ พระองค์เจ้านพวงศ์ กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส องค์ต้นราชสกุลนพวงศ์ ณ อยุธยา และพระองค์เจ้าสุประดิษฐ์ กรมหมื่นวิษณุนาถนิภาธร องค์ต้นราชสกุลสุประดิษฐ์ ณ อยุธยา

ปีวอก พ.ศ. 2367 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงโปรดให้สมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฏเสด็จทรงผนวช ซึ่งขณะนั้นพระองค์เจ้านพวงศ์และพระองค์เจ้าสุประดิษฐ์มีพระชันษาได้ 2 ปีและ 2 เดือนตามลำดับ

ระหว่างที่ทรงผนวชอยู่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย สมเด็จพระบรมชนกนาถเสด็จสวรรคตโดยมิได้ทรงมอบราชสมบัติแก่เจ้านายพระองค์ใด ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และพระบรมวงศานุวงศ์ได้ถวายสิริราชสมบัติแด่ พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์เป็นรัชกาลที่ 3 แห่งพระราชวงศ์จักรี

สมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฏจึงครองสมณเพศต่อมาตลอด 27 ปี ช่วงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

เจ้าจอมมารดาน้อยได้อาศัยอยู่กับพระพงษ์นรินทร์ผู้เป็นลุงและเลี้ยงดูพระองค์เจ้านพวงศ์ ส่วนพระองค์เจ้าสุประดิษฐ์นั้น สมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณี พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งประทับอยู่ ณ พระราชวังเดิมธนบุรีทรงเป็นผู้ชุบเลี้ยงให้การอุปถัมภ์

เจ้าจอมมารดาน้อยเป็นสตรีผู้น่าสงสาร เนื่องด้วยสมเด็จพระอัยกาคือพระเจ้าตากสินมหาราชก็ถูกสำเร็จโทษ พระบิดาคือสมเด็จเจ้าฟ้าชายทัศไทยหรือพระอินทร์อภัยก็ถูกประหารชีวิต ชีวิตส่วนตัวก็ตกระกำลำบาก เพราะพระสวามีเสด็จทรงผนวชอยู่ถึง 27 พรรษา เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จครองราชย์แล้วก็ไม่โปรด และไม่ยกย่องเจ้าจอมมารดาน้อยเป็นพิเศษแต่ประการใด

เจ้าจอมมารดาจึงมีพฤติกรรมการแสดงออกแปลกๆ ซึ่งอาจจะเป็นการเรียกร้องความสนใจก็ได้

ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จ ด้วยกระบวนเรือจากตำหนักน้ำถึงวัดเขมาตลาดแก้วมีเรือเก๋งลำหนึ่งพายตามขึ้นมาแข่งกับเรือพระที่นั่ง เจ้าหมื่นสรรเพธภักดี (เจ้าพระยามหินทรศักดิ์ธำรง (เพ็ง เพ็ญกุล)) ร้องถามก็ไม่บอก บ่าวผู้หญิงในเรือเก๋งนั้นพากันหัวเราะเยาะ ปรากฏว่าเรือเก๋งลำนั้นเป็นของเจ้าจอมมารดาน้อยซึ่ง “มาทำหน้าที่เป็นเล่นตัว ล้อข้าต่อหน้าทาสกำนัลน่าชังหนักหนา”

เมื่อเจ้าจอมมารดาน้อยถึงแก่อนิจกรรม พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดให้พระราชทานเพลิงศพที่สวนท้ายวังของพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นวิษณุนาถนิภาธร เมื่อเสร็จงานศพเจ้าจอมมารดาน้อยแล้ว กรมหมื่นวิษณุนาถนิภาธรจึงทรงกะการสร้างวัดขึ้นบริเวณสวนท้ายวังที่เป็นที่ปลงศพเจ้าจอมมารดาน้อย วิธีการที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นวิษณุนาถนิภาธรทรงกะการสร้างวัด คือทรงโปรยเงินไปทั่วบริเวณพื้นที่ที่ทรงกำหนดว่าเป็นที่สร้างวัดแล้วโปรดให้บ่าวไพร่ในพระองค์พากันแผ้วถางต้นไม้ใบหญ้าเพื่อเก็บเอาเงินนั้น ซึ่งก็คือวิธีการจ่ายค่าแรงของพระองค์นั่นเอง

การสร้างวัดยังไม่แล้วเสร็จพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นวิษณุนาถนิภาธรสิ้นพระชนม์ลงเมื่อปีจอ พ.ศ. 2405 พระชันษาเพียง 38 ปี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดให้พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาสทรงสร้างวัดต่อ แต่กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาสก็สิ้นพระชนม์ลงไปอีกเมื่อปีเถาะ พ.ศ. 2410 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงรับเอาการสร้างวัดนั้นมาดำเนินการต่อ โดยทรงโปรดให้พระยาราชสงครามเป็นแม่กองก่อสร้างต่อจนแล้วเสร็จจึงพระราชทานนามวัดว่า “วัดตรีทศเทพ” ซึ่งมีความหมายว่า “เทวดาสามนายสร้าง” แล้วโปรดให้แห่พระครูจุลานุนายก (คง) พระครูปลัดซ้ายฐานานุกรมของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์จากวัดบวรนิเวศวิหารมาครองวัดตรีทศเทพเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก

กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส กรมหมื่นวิษณุนาถนิภาธร

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส เมื่อแรกประสูติมีพระยศเป็นหม่อมเจ้า พระนามว่าหม่อมเจ้านพวงศ์ หรือนภวงศ์ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์แล้วโปรดให้เลื่อนพระยศเป็นพระองค์เจ้ามีพระนามตามพระสุพรรณบัฏว่า “พระองค์เจ้านพวงศ์ วรองค์เอกอรรคมหามกุฎ ปรมุตมราโชรส” และได้รับสถาปนาเป็นพระองค์เจ้าต่างกรม มีพระนามว่า “พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส”

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมิได้รับราชการใดๆ แต่มาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมชนกนาถได้ทรงเป็นผู้กำกับกองทหารล้อมวัง และเช่นเดียวกัน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นวิษณุนาถนิภาธร เมื่อแรกประสูติมีพระยศเป็นหม่อมเจ้าสุประดิษฐ์ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จครองราชย์แล้วทรงโปรดให้เลื่อนพระยศเป็น “พระองค์เจ้าสุประดิษฐ์ วรฤทธิราชมหามกุฎ บุรุษยรัตนราชวโรรส” และเป็นพระองค์เจ้าต่างกรมทรงพระนามว่า พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นวิษณุนาถนิภาธร ซึ่งได้ทรงกำกับราชการกรมพระคลังสมบัติ และได้เสด็จไปศึกษาดูงานการปกครองและการพัฒนาบ้านเมืองยังสิงคโปร์ โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาให้เสด็จไปดูงานพร้อมสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง ขุนนาค) ซึ่งในขณะนั้นท่านมีบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าพระยา

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นวิษณุนาถนิภาธรจึงเป็นเจ้านายชั้นพระราชโอรสพระองค์แรกที่เสด็จไปศึกษาดูงานยังต่างประเทศ

พระนัดดาในสมเด็จพระเจ้าตากสิน

พระนัดดาของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่รับราชการเป็นเจ้าจอมมารดาในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คือ ธิดาของเจ้าพระยานคร (น้อย) ซึ่งท่านถวายธิดาเกือบทุกคนเป็น บาทบริจาริกาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์

ธิดาคนโต คือ เจ้าจอมมารดาน้อยใหญ่ เป็นเจ้าจอมมารดาในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติ พระราชโอรส คือ พระองค์เจ้าเฉลิมวงศ์

ธิดาคนที่ 13 คือ เจ้าจอมมารดาบัวในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติพระราชโอรส พระราชธิดา ประกอบด้วย

1. พระองค์เจ้าเฉลิมลักษณเลิศ สิ้นพระชนม์แต่ยังทรงพระเยาว์

2. กรมขุนสิริธัชสังกาศ ต้นราชสกุลศรีธวัช ณ อยุธยา

3. พระองค์เจ้าหญิงอรไทยเทพกัญญา

4. กรมขุนมรุพงศ์สิริพัฒน์ ต้นราชสกุลวัฒนวงศ์ ณ อยุธยา

5. พระองค์เจ้าดำรงฤทธิ์ สิ้นพระชนม์แต่ยังทรงพระเยาว์

กุลสตรีซึ่งเป็นพระนัดดาของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชหลายท่านได้เป็นชายาและหม่อมของเจ้านายฝ่ายหน้าแห่งพระราชวงศ์จักรี

1. คุณหญิงแสง ธิดาคนโตของพระองค์เจ้าอัมพวัน พระราชโอรสพระองค์ที่ 3 ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้เป็นชายาของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ชั้น 2 กรมพระพิทักษ์เทเวศร์ ต้นราชสกุลกุญชร ณ อยุธยา

กรมพระพิทักษ์เทเวศร์ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 22 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงรับราชการกำกับกรมม้าและได้รับทรงกรมเป็นกรมหมื่นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดให้เลื่อนพระยศเป็นกรมพระและได้กำกับกรมพระคชบาลอีกตำแหน่งหนึ่ง

กรมพระพิทักษ์เทเวศร์เป็นผู้สร้างวังบ้านหม้อขึ้นที่บริเวณคูเมืองด้านตะวันออก ซึ่งที่ตั้งในปัจจุบันคือถนนอัษฎางค์ตรงข้ามกรมการรักษาดินแดน

วังบ้านหม้อเป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นในกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งนอกเหนือจากพระบรมมหาราชวัง และพระราชวังบวรสถานมงคล ส่วนที่ยังปรากฏที่เป็นเอกลักษณ์คือ ท้องพระโรงซึ่งถือเป็นแบบฉบับท้องพระโรงของวังเจ้านายระดับพระองค์เจ้า

คุณหญิงแสงประสูติโอรสและธิดาคือ หม่อมเจ้าหญิงลมุน กุญชร และหม่อมเจ้าสิงหนาท กุญชร ซึ่งเป็นพระโอรสองค์ใหญ่ของกรมพระพิทักษ์เทเวศร์

หม่อมเจ้าสิงหนาทได้รับราชการในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงบัญชาการกรมพระอัศวราช กรมมหรสพ และได้รับสถาปนาขึ้นเป็นพระองค์เจ้า มีพระนามว่าพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิงหนาทราชดุรงคฤทธิ์ พระองค์เป็นพระบิดาของเจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ (หม่อมราชวงศ์หลาน กุญชร) ผู้บัญชาการกรมม้า กรมมหรสพ เป็นเสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ และกระทรวงเกษตราธิการตามลำดับ ท่านถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปีจอ พ.ศ. 2465 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

2. คุณหญิงพึ่ง ธิดาคนที่ 4 ของพระองค์เจ้าอัมพวัน ได้เป็นชายาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนราชสีหวิกรม พระราชโอรสพระองค์ที่ 21 ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระยศเดิมคือ พระองค์เจ้าชุมสาย ประทับทรงงานที่วังท่าพระ ทรงเป็นเจ้านายที่มีพระนิสัยดุ เอาจริงเอาจังกับหน้าที่ราชการได้ทรงรับราชการสนองพระเดชพระคุณ สมเด็จพระบรมชนกนาถ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมาจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระอัธยาศัยเช่นเดียวกับพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว คือ โปรดงานก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ไม่เน้นรายละเอียดวิจิตรตระการตามากนัก ทรงมีความสามารถในการคำนวณตามแบบสถาปัตยกรรมไทยได้ทรงกำกับราชการ กรมช่างศิลาและกรมช่างสิบหมู่

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนราชสีหวิกรมทรงเป็นต้นราชสกุล ชุมสาย ณ อยุธยา สิ้นพระชนม์เมื่อปีมะโรง พ.ศ. 2411

3. คุณหญิงพลับ ธิดาของสมเด็จเจ้าฟ้าทัศพงศ์ หรือพระพงษ์นรินทร์ ได้เป็นหม่อมห้ามของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูมินทรภักดี พระราชโอรสพระองค์ที่ 15 ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงรับราชการกรมช่างสิบหมู่

คุณหญิงพลับมีโอรส 3 พระองค์ คือ หม่อมเจ้าสารภี ลดาวัลย์ หม่อมเจ้าชาย ลดาวัลย์ และหม่อมเจ้าเผือก ลดาวัลย์

เมื่อทรงพระชราภาพ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูมินทรภักดีทรงประชวรดวงพระเนตรเป็นต้อ ทอดพระเนตรไม่เห็น และในครั้งนั้นเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ มหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค) ก็ป่วยเป็นโรคตาเช่นเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้ติดต่อแพทย์ตะวันตกเข้ามาผ่าตัดตาของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ มหาโกษาธิบดี และโปรดให้ผ่าตัดพระเนตรของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูมินทรภักดี จนสายพระเนตรหายเป็นปกติ และได้ฉายพระรูปมอบให้แพทย์ฝรั่งเป็นที่ระลึกด้วย

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูมินทรภักดีสิ้นพระชนม์เมื่อปีจอ พ.ศ. 2417 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

4. คุณหญิงทับ ธิดาของสมเด็จเจ้าฟ้าศิลา พระโอรสพระองค์ที่ 8 ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้เป็นหม่อมของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระรามอิศเรศ พระราชโอรสพระองค์ที่ 22 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ซึ่งได้รับราชการศาลรับสั่งและความฎีกา ทรงเป็นต้นราชสกุลสุริยกุล ณ อยุธยา

นอกจากการรับราชการฝ่ายในเป็นเจ้าจอมมารดาหรือบาทบริจาริกาในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือเป็นหม่อมในเจ้านายฝ่ายหน้าแห่งพระราชวงศ์จักรีแล้ว กุลสตรีแห่งสกุลวงศ์พระเจ้ากรุงธนบุรีหลายท่านได้รับราชการใกล้ชิดพระราชสำนัก เช่น คุณหญิงจั่น และคุณหญิงขาว ธิดาของสมเด็จเจ้าฟ้าชายทัศพงศ์

คุณหญิงจั่นเป็นพระนมของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรียกกันทั่วไปว่า “พระนมจั่น” ซึ่งเป็นพระนมที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงให้ความเคารพรัก

ส่วนคุณหญิงขาวเป็นพระนมของสมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระจักรพรรดิพงศ์ สมเด็จพระอนุชาร่วมพระครรภ์ กับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


เอกสารอ้างอิง :

เฉลิมพระยศเจ้านายฉบับมีพระรูป. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพิมพ์ในการพระราชพิธีสถาปนาพระอิสริยศักดิ์ และฉลองพระชนมายุครบ 6 รอบ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ 6 พฤษภาคม 2538.

ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จฯ กรมพระยา. พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 2. พิมพ์เป็นอนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพพลเรือเอกหลวงอาจณรงค์ (อิง ช่วงสุวนิช) ป.ช., ป.ม. ณ เมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2511.

ประวัติวัดตรีทศเทพ. หนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพพระเทพวัชธรรมาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ ณ เมรุหลวง หน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส 26 มีนาคม 2540.

เทศนาประวัติเจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์. หนังสืองานพระราชทานเพลิงศพเจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ ณ เมรุท้องสนามหลวง พ.ศ. 2465.

ราชสกุลวงศ์. พิมพ์เป็นอนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพนายสนั่น บุณยศิริพันธ์ ณ สุสานหลวงวัดเทพศิรินทราวาส 27 มกราคม 2512.

ลำดับสกุลเก่าบางสกุล. หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร จัดพิมพ์ พ.ศ. 2480.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 12 กันยายน 2565