อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีโมโหร้าย เพราะผลจากการใช้ยา?

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อับราฮัม ลินคอล์น
อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 16

อับราฮัม ลินคอล์น รัฐบุรุษผู้ประกาศเลิกทาส น่าเกรงขาม มีเมตตา ยึดมั่นในอุดมคติ มีความอดทน มีความคิดหลักแหลม แต่อีกด้านของเหรียญ ลินคอล์นมีอาการซึมเศร้า ก่อนเข้ารับตําแหน่งประธานาธิบดีในปี 1861 เขาเป็นคนขรึม ดูเศร้า ฉุนเฉียว อารมณ์แปรปรวน โมโหร้าย ฯลฯ  

อาการเจ็บป่วยทางจิตเกิดจากเรื่องเศร้าที่ประสบอยู่เป็นระยะๆ ในช่วงต้นของชีวิต จากการสูญเสียบุคคลในครอบครัว และคนรักดังนี้

เมื่อลินคอล์น อายุ 3 ปี เสียน้องชายที่ยังเป็นทารก, 9 ปีเสียแม่, ป้า และลุง, อายุ 18 ปีเสียพี่สาว, อายุ 26 ปี คนรักคนแรกจากเขาไป, อายุ 32 ปี แมรี่ ท็อดด์ ภรรยาของเขาบอกเลิกในวันปีใหม่ ฯลฯ

เพื่อต่อสู้กับความรู้สึกสิ้นหวัง ลินคอล์นใช้วิธีกินยารักษาอาการป่วยทางกายที่เกิดจากจิตใจ  ซึ่งในศตวรรษที่ 18 ใช้เรียก อาการ “หวาดระแวงและอารมณ์ซึมเศร้า” อาการนี้แพทย์มักลงความเห็นว่าเกิดจากลําไส้ทํางานผิดปกติ

จอห์น ท็อดด์ สจ๊วร์ต เป็นเพื่อนทนาย และลูกพี่ลูกน้องของแมรี่ ภรรยาของลินคอล์น อ้างว่าตนเป็นผู้แนะนำให้ลินคอล์นลองกินยาที่ชื่อ “บลูแมส” (blue mass) เพื่อรักษาอาการซึมเศร้า

ยาดังกล่าวมีส่วนผสมของสารปรอท ซึ่งถูกจัดว่าเป็นพิษต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง หากยาบูลแมส 1 เม็ดมีปรอทผสมอยู่ถึง 65 มก. ซึ่งมากกว่าปริมาณสูงสุดของปริมาณที่ปัจจุบันอนุญาตให้ร่างกายได้รับหลายพันเท่า

ดร.โรเบิร์ต จี. เฟลด์แมน ศาสตราจารย์ด้านเภสัชศาสตร์และประสาทวิทยาของมหาวิทยาลัยบอสตัน หนึ่งนักวิจัยที่ศึกษาทดสอบความเป็นพิษของยานี้ ยืนยันว่า “พิษของสารปรอทอาจเป็นคําอธิบายอาการทางประสาทของลินคอล์นซึ่งรู้กันอยู่แล้ว ได้แก่ นอนไม่หลับ ชักกระตุก และคลุ้มคลั่ง”

เฮนรี่ เคลย์ วิทนีย์ เพื่อนของลินคอล์น กล่าวว่า เมื่อครั้งฝึกหัดเป็นทนายเวลาโกรธ ลินคอล์นจะ “ดูน่าเกรงขาม และเกรี้ยวกราดจนน่าตกใจ” ในการประชุมสภาคองเกรส ครั้งหนึ่งเมื่อ ค.ศ. 1858 ลินคอล์นโกรธจนคุมอารมณ์ไม่อยู่ และคว้าตัวอดีตผู้ช่วยทนายมาเขย่าจนฟันกระทบกัน

ไม่มีผู้ใดรู้แน่นอนว่าท่านประธานาธิบดี รับประทานยาเข้าไปมากหรือบ่อยเพียงใด

สิ่งที่ทราบก็คือ ลินคอล์นตัดสินใจหยุดยาบูลแมสเมื่อแรกเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี จอห์น ท็อดด์ สจ๊วร์ต บันทึกว่า ลินคอล์นกล่าวว่ายาทำให้เขา “โมโห” แต่อาการป่วยของเขาไปไกลเกินกว่าจะเยียวยา และอาจต้องการยามากขึ้น

หากเมื่อเป็นอิสระจากฤทธิ์ยาบูลแมส อับราฮัม ลินคอล์น ทำให้เห็นว่า เขาเป็นผู้นำที่สุขุม เข้มแข็ง เป็นกำลังใจและนำฝ่ายสหภาพสู่ชัยชนะ หลายปีในสงครามกลางเมืองลินคอล์นก็ได้รับการยกย่องในฐานะผู้นำที่มีความทรหดอดทน  

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่ 


ข้อมูลจาก

เรื่องจริงนอกบันทึกประวัติศาสตร์. บริษัท รีดเดอร์ส ไดเจสท์ (ประเทศไทย) จำกัด, กรกฎาคม 2549


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 28 เมษายน 2565