เบื้องหลัง “นายพลแพตตัน” ตบหน้าทหาร 2 นาย ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนเป็นข่าวใหญ่โต

จอร์จ เอส แพตตัน (ในไฮไลต์สีเขียว) หลังวางพวงหรีดที่สุสานทหารนิรนาม ที่ Arc de Triomphe ในปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อ 17 สิงหาคม 1945 ภาพจาก AFP

นายพล จอร์จ เอส แพตตัน แห่งกองทัพสหรัฐอเมริกาขึ้นชื่อเรื่องความดุดันและเข้มงวดอย่างมาก ครั้งหนึ่ง นายพลแพตตัน เคยตบหน้าทหาร 2 นาย ระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากไม่เข้าใจสภาพทหารที่รักษาตัวขณะสภาพร่างกายภายนอกไม่แสดงสัญญาณอาการบาดเจ็บใดๆ แต่พวกเขาได้รับผลกระทบจากการรบเป็นอาการที่เรียกว่า Combat stress reaction (CSR) ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เกือบทำให้เขาต้องยุติเส้นทางอาชีพทหารแล้ว

วันที่ 3 สิงหาคม ค.ศ. 1943 พลโทจอร์จ เอส แพตตัน (Lieutenant General George S. Patton – ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสำหรับกลุ่มอพยพที่ 15 (15th Evacuation Hospital) เพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ได้รับผลกระทบจากการรบและมารักษาตัว แถบซิซิลี ประเทศอิตาลี พลโทแพตตัน พบกับพลทหาร ชาร์ลส คูห์ล (Pvt. Charles Kuhl) ซึ่งไม่ได้มีบาดแผลภายนอกร่างกาย จึงได้สอบถามว่าป่วยเป็นอะไร

พลทหารตอบว่า “ผมว่าผมไม่สามารถรับมันได้อีกต่อไปแล้ว” แพตตัน สบถใส่นายทหารผู้นั้น และต่อว่าพลทหารว่าขี้ขลาด จากนั้นก็ตบหน้าพลทหารด้วยถุงมือและไล่เขาออกจากเต็นท์ (ภายหลังมีข้อมูลเผยว่า คูห์ล เป็นมาลาเรียและโรคบิดด้วย โดยมีไข้สูงในเวลานั้น)

เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลต้องมาช่วยนำคูห์ล ไปที่เต็นท์อีกแห่งและรักษาอาการของเขาต่อ

วันที่ 10 สิงหาคม พลโทแพตตัน กระทำลักษณะคล้ายกันอีกครั้ง ครั้งนี้เกิดขึ้นในโรงพยาบาลสำหรับกลุ่มอพยพที่ 93 (93rd Evacuation Hospital) ใกล้กับซาน สเตฟาโน ที่ซิซิลี ประเทศอิตาลี คราวนี้ผู้ถูกกระทำคือพลทหาร พอล เบ็นเน็ตต์ (Pvt. Paul Bennett) ผู้ได้รับวินิจฉัยว่า กระทบกระเทือนทางจิตใจหลังผ่านการรบมายาวนาน (combat fatigue)

พลโท แพตตัน พบเห็นพลทหาร พอล เบ็นเน็ตต์ ร่ำไห้อยู่ ก็ลงมือตบพลทหารไป และต่อว่า พร้อมขู่ว่าจะส่งไปแนวหน้าหรือไม่ก็ยิงเป้าซะ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถูกแพทย์และนักข่าวที่พบเห็นเหตุการณ์ทำเรื่องส่งรายงานไปที่นายทหารดไวท์ ดี ไอเซนฮาวร์ (Dwight D. Eisenhower) ผู้บังคับบัญชาของพลโทแพตตัน

หลังจากนั้น นายพลไอเซนฮาวร์ ส่งจดหมายมาตำหนิพลโทแพตตัน พร้อมสั่งให้เขาขออภัยกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพลโทแพตตัน ก็ดำเนินการตาม มีรายงานว่า ครั้งนั้น นายพลไอเซนฮาวร์ กังวลว่าจะสูญเสียแพตตันไปด้วย จึงขอให้นักข่าวปิดเรื่องนี้ไว้โดยขอให้เห็นแก่เรื่องผลของสงคราม

อย่างไรก็ตาม ข่าวคราวเรื่องนี้ถูกสื่อนำเสนอออกมาในช่วงเดือนพฤศจิกายน 1943 กระแสที่ตามมายังตำหนินายพลไอเซนฮาวร์ จากท่าทีพยายามหลีกเลี่ยงดังกล่าว ขณะที่สายการเมืองก็เรียกร้องให้ปลดพลโทแพตตัน จากตำแหน่ง และชะลอการเลื่อนขั้นตำแหน่งพลโทแพตตันไว้ก่อน

ท้ายที่สุดแล้ว แพตตัน ยังคงรักษาตำแหน่งเดิมไว้ได้ แต่ก็เกือบจะทำให้เขาไม่ได้เป็นผู้บัญชาการการรบภาคพื้นดินในสมรภูมินอร์มังดี (Normandy) เมื่อมิถุนายน 1944

มีข้อมูลว่า คูห์ล รอดจากการรบในสงคราม และเดินทางกลับภูมิลำเนาในอินเดียน่า และเสียชีวิตในปี 1971 ส่วนพอล เบ็นเน็ตต์ ทำงานในกองทัพต่ออีก 30 ปี

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

Lovlace, Alex. Controversies and appraisal of George Patton. Britannica. Access 28 MAR 2022. <https://www.britannica.com/biography/George-Smith-Patton/Controversies-and-appraisal>

“Smack Down – How the ‘Patton Slapping Incident’ Nearly Cost America One of its Greatest Generals”. Military History Now. Online. Published 19 MAR 2019. Access 28 MAR 2022. <https://militaryhistorynow.com/2019/03/19/smack-down-how-the-patton-slapping-incident-nearly-cost-america-one-of-its-greatest-generals-2/>


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 28 มีนาคม 2565