ที่มา | ศิลปวัฒนธรรม ฉบับพฤษภาคม 2551 |
---|---|
ผู้เขียน | ส.สีมา |
เผยแพร่ |
โรคชอบอวด หรือเอ็กซ์ฮิบิทชัน นิสม์ (exhibitionism) หมายถึง ชอบอวดอวัยวะเพศเป็นสําคัญและโดยตรง ในดีกรีที่รุนแรง ไม่อาจหักห้ามใจได้ เมื่อจะต้องอวดก็ต้องโดยทันที จากนั้นจึงรู้สึกผิดบาปเสียใจกับการกระทําของตนเอง บางคนถึงกับฆ่าตัวตาย
การอวดอวัยวะเพศมักอวดกับเพศตรงข้ามเท่านั้น
โรคชอบอวดปรากฎชุกชุมในอเมริกา แคนาดา และยุโรป พบน้อยมากในอาร์เจนตินา เคยมีบันทึกว่าพบเพียง 24 ราย ใน 5 ปี ในญี่ปุ่นมีมากหน่อยพบประมาณปีละ 60 ราย ในพม่าและอินเดียไม่พบเลย ในบ้านเราพอมีบ้างแต่ไม่ถึงกับมากหรือชุกชุม?!
โรคชอบอวดมักปรากฏในสวนสาธารณะ สถานที่สาธารณะหรือกึ่งสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า ระเบียง อนาจาร โบสถ์ (ฝรั่ง) โรงละคร หรือสถานีรถประจําทางในเมือง
ผู้ป่วยมักขับรถไปตามโรงเรียน ป้ายจอดรถประจําทางที่มีผู้โดยสารรออยู่โดยลงมาเปิดเสื้อผ้าโชว์ แล้วรีบขับรถหนีไปโดยเร็ว ผู้ป่วยบางคนชอบทําซ้ำๆ เคยทําที่ใดก็มักไปที่นั้น ในเวลาเดียวกันและวันเดียวกัน เช่น ตอนบ่ายวันศุกร์ เป็นต้น
ผู้ป่วยชอบอวด โดยปกติเป็นชายหนุ่ม ไม่ใช่เด็กและก็ไม่ใช่ผู้สูงอายุ ส่วนเหยื่อมักเป็นสาวๆ วัยรุ่นหรือวัยกลางคน ผู้ป่วยเพียงต้องการอวดอวัยวะเพศของตนเท่านั้น มีน้อยมากที่จะกระทําอนาจาร-มาสเตอร์เบตหรือทําร้ายเหยื่อ ยกเว้นแต่พวกที่มีบุคลิกภาพต่อต้านสังคมร่วมด้วยเท่านั้น ฤดูกาลอวดมักเป็นฤดูร้อนฝรั่งที่อากาศดีมีผู้มาชุมนุมมากหน้าหลายตา
สตรีเป็นโรคชอบอวดมีอยู่บ้างเหมือนกันแต่น้อย แต่ไม่ชอบอวดอวัยวะเพศซึ่งจะมีอยู่ตามบาร์เหล้าหรือดิสโก้เธคบางแห่งเท่านั้น
อย่างไรก็ดี วิเคราะห์ทางจิตวิทยาว่าโรคชอบอวดของสตรี น่าจะมีน้อยหรือน้อยมาก เพราะสตรีมีโอกาสอวดอยู่แล้วในชีวิตประจําวันผ่านแฟชั่นของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย นักออกแบบเสื้อผ้ามีความแยบยลในการออกแบบให้สตรีได้อวดอย่างมีศิลปะชวนดูและไม่อนาจาร
อย่างไรก็ดี มีพวกชอบอวดอีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า สตรีกเกอร์ (streaker) ประเภทที่เปลือยร่างทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด แล้ววิ่งเร็วในสนามกีฬาต่อหน้าผู้ชมกีฬาและนักกีฬา เช่น วิ่งตัดขวางสนามเทนนิส วิ่งเฉพาะมุมหนึ่งของสนามฟุตบอลหรือบางหลุมของสนามกอล์ฟ ผู้ป่วยมักเป็นวัยรุ่นและผู้ใหญ่วัยต้นซึ่งปรากฏชุกชุมในยุโรปและอเมริกา ผู้ป่วยมีทั้งเพศชายและเพศหญิง
นักจิตวิทยาตั้งข้อสังเกตว่า มนุษย์มีแรงผลักดันของการชอบอวดอยู่แล้วทุกคนตามธรรมชาติ ต่างกันที่ มากหรือน้อยและสามารถควบคุมปรับแต่งให้เหมาะสมได้เพียงใด
ด้วยเหตุดังนี้ คนที่มีชื่อว่าชอบอวดมักมีบุคลิกภาพไม่สมวัย…อาจมีชีวิตคู่แบบคนทั่วไป แต่ชีวิตรักมักไม่ราบรื่นเป็นสุข บางคนมีอารมณ์เครียดง่าย รู้สึกขัดแย้งและรู้สึกหมดความสามารถที่จะแก้ไขคลี่คลาย
ผู้ป่วยโรคชอบอวดบางรายมักมีพยาธิสภาพทางจิตใจร่วมด้วย เช่น … ขาดความสนใจในกฎระเบียบของสังคม
ที่มาและสาเหตุของโรคชอบอวดค่อนข้างซับซ้อน…ผู้ป่วยบางรายมีบุคลิกภาพถอยกลับไปเป็นเด็กชั่วคราว หรือบางรายมีพัฒนาการทางเพศบกพร่อง ผู้ป่วยอาจเคยถูกห้ามและเคร่งครัดเรื่องเพศอย่างรุนแรงมาก่อน การอวดอวัยวะเพศเป็นการผ่อนคลายความคับข้องใจส่วนหนึ่ง
การอวดของผู้ป่วยน่าจะมีความหมายว่า “ผมก็มีเหมือนกันนะคุณ” หรือ “ดิฉันเป็นผู้หญิงเต็มๆ เลย ดูซิ เนียะ” – การด่าทอไล่หลังผู้ป่วยเหล่านี้จึงไม่ใช่สิ่งจําเป็น ควรเข้าใจในการกระทําของพวกเขาดีกว่า
อ่านเพิ่มเติม :
- โรคจิตสมัยกรีก-โรมัน (ตอน 1) ยุคเชื่อว่า “เป็นบ้า” เพราะวิญญาณร้าย จนถูกไล่ผีด้วยวิธีโหด
- “มอราล ทรีตเมนต์” วิถีบำบัดผู้ป่วยโรคจิตแบบใหม่ รักษา “ทั้งคน” และ “ทั้งไข้”
หมายเหตุ : คัดเนื้อหาจากบทความ “โรคชอบอวด” เขียนโดย ส.สีมา ในศิลปวัฒนธรรม ฉบับ พฤษภาคม 2551
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2565