ที่มา | ศิลปวัฒนธรรม ฉบับธันวาคม 2533 |
---|---|
ผู้เขียน | ธรรมศักดิ์ พึ่งตนเพียร |
เผยแพร่ |
ปฏิทิน “แม่โขง” ดูเหมือนจะเป็นปฏิทิน “โป๊” รุ่นเก่าที่สุด ที่เริ่มต้นมาก่อนใครเพื่อน หรืออย่างน้อยก็เป็นรุ่นแรก ๆ ที่มีแต่คนกล่าวขวัญถึง และปรารถนาที่จะได้มีไว้ในครอบครอง นำไปประดับอยู่บนฝาห้องนอน ห้องทำงาน เพื่อประกอบการพิจารณาวันเดือนปี และอารมณ์สุนทรีที่ชุ่มไปด้วยความเร่าร้อนในอกขนาดหลายศอกของชายแท้หลายยุคสมัยมาแล้ว
หรือหากจะเหมาสรุปเอาว่า ในอดีตที่ผ่านมาหลายสิบปีนั้น ปฏิทินแม่โขงเป็นรุ่นพี่ที่สร้างประเพณีของปฏิทินโป๊เมืองไทยขึ้นมา โดยเฉพาะหากจะพูดให้แคบเข้า ในวงการสุราในเมืองไทยซึ่งมีอยู่ในเมืองไทยไม่กี่เจ้า
“แม่โขง” เหล้าการเมือง
สุราจากโรงงานบางยี่ขัน ถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2484 อันเป็นปีเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งไทยเข้าร่วมด้วย
มีข้อความบางตอนในประวัติศาสตร์ของโรงเหล้าบางยี่ขัน ปทุมธานี พิมพ์เป็นข้อความไว้ในปฏิทินฉบับหนึ่ง กล่าวถึงต้นกำเนิดชื่อเหล้า “แม่โขง” อันเลื่องลือว่ามีเค้าความคิดมาจาก เพลงปลุกใจสองเพลงในสมัยของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ่งขณะนั้นอยู่ในสถานการณ์ที่ไทยมีกรณีพิพาทกับฝรั่งเศส เรื่องฝั่งขวาแม่น้ำโขง (หรือสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในปัจจุบัน)
เพลงปลุกใจสมัยนั้นแพร่หลายอยู่ในเมืองไทย และมีอิทธิพลต่อจิตสำนึกของคนไทยเป็นอย่างมาก รวมทั้งเพลงรำวงรักชาติ ซึ่งคนไทยร่วมสมัยยังจำได้ดีว่า “จากหมู่บ้านหนึ่งไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่ง เสียงเพลงรำวงดังอยู่ตลอดไม่เคยเงียบ”
เพลงปลุกใจให้รักชาติและเรียกร้องดินแดนครั้งนั้นที่เป็นต้นกำเนิดของชื่อ “แม่โขง” คือ “ข้ามโขงไปสู่แคว้นแดนไทย” และ “สองฝั่งโขงเหมือนฝั่งเดียวกัน” และความรักชาตินั้นก็ปรากฏอยู่ในปฏิทินฉบับเก่าแก่อีกฉบับหนึ่งเช่นกันว่า “การที่สุราแม่โขงขายดีมีกำไร จึงถือเป็นชัยชนะของรัฐบาล เป็นผลประโยชน์ของชาติ ของประชาชนชาวไทย”...
ขุดกรุปฏิทิน “แม่โขง”
มีการขุดกรุปฏิทินโป๊กันขึ้นที่ย่านวงศ์สว่าง เขตจังหวัดนนทบุรี ที่ห้องสมุดส่วนตัวในบริเวณบ้านของ บุญชู สุวรรณสิงห์ นักสะสมผู้นี้เริ่มต้นเก็บรวบรวมของเก่าแก่ต่างๆ มาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่ม สมัยเป็นนักเรียนมัธยม โดยเฉพาะหนังสือ เมื่อย่างเข้าวัยหนุ่มฉกรรจ์ จึงเพิ่มปฏิทินเข้าไว้ในกรุของตนอีกส่วนหนึ่ง และแน่นอนมีบรรดาปฏิทินรูปโป๊อยู่ด้วยมากมายหลายร้อยฉบับ
ปฏิทินรุ่นแรกๆ ที่เขาสะสมไว้ เป็นของแม่โขง และโรงงานยาสูบ ซึ่งเป็นเจ้าแห่งปฏิทินไทยในยุคเริ่มแรก
เหตุที่ได้ปฏิทินรุ่นแรกๆ มาครอบครองไว้ เพราะพื้นเพเป็นชาวอยุธยา บิดามีร้านขายของชำ และตนเองก็เคยเป็นเด็กขายหนังสือประจำแผงที่ตลาด ซึ่งแน่นอนทุกเทศกาลปีใหม่ปฏิทินสวย ๆ เหล่านั้น ก็มีออกมาวางด้วย
เมื่อจำแนกบรรดาปฏิทิน (โป๊) ซึ่งแยกไว้เป็นสัดส่วนออกมาเลือกเฉพาะของแม่โขง ก็สามารถนับถอยหลังจากปี พ.ศ. 2531 ไปจนกระทั่งเก่าแก่ที่สุด เป็นปฏิทินของปี พ.ศ. 2504 หากคำนวณเป็นอายุของผู้สะสมก็จะได้ประมาณอายุ 27 ปี กำลังเป็นวัยหนุ่มฉกรรจ์
บุญชู สุวรรณสิงห์ นักสะสมคนนั้นช่วยยืนยันว่าในอดีตปฏิทินแม่โขงนั้นดังมากที่สุด เพราะคัดเอาบรรดาสาวสวยมานุ่งน้อยห่มน้อยถ่ายภาพกันให้เห็น รับรองว่าไม่สามารถไปหาชมที่ไหนได้อีก เพราะสมัยนั้นสิ่งพิมพ์ก็ไม่มากมาย และอื้อฉาวเท่าสมัยนี้ ทั้งทีวีสมัยช่อง 4 บางขุนพรหมก็มีเพียงช่องเดียว รายการสมัยนั้นเป็นอย่างไรคงนึกภาพกันไม่ยาก
สิ่งที่ไม่สามารถไขความกระจ่างได้คือ ปีเริ่มต้นของปฏิทินแม่โขงที่แท้จริง และความคิดเริ่มต้นในการทำปฏิทินนี้ แต่อย่างน้อยสิ่งที่ได้เห็นคือวิวัฒนาการของปฏิทินแม่โขงซึ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างเหลือเชื่อ บางฉบับบางภาพเมื่อมองด้วยสายตาของคนในยุคใหม่ ยังอดหัวเราะไม่ได้
แต่หากเป็นสมัยก่อนนั้น ก็นับได้ว่าเป็นภาพที่สุดยอดแล้ว แม้ผู้สะสมเองซึ่งไม่ใคร่ได้หยิบออกมาเปิดดูยังเฝ้าชมอีกครั้งด้วยความชื่นชม และรำลึกถึงความหลังครั้งหนุ่มแน่น ถึงกับเอ่ยปากว่าเป็น “ภาพศิลป์จริงๆ”
ปฏิทิน “แม่โขง” โป๊หลายแบบ ยิ่งนานวันยิ่งน้อยชิ้น
ปฏิทินปีแรกๆ ที่พบ บางส่วนที่พลิกชมเป็นภาพสาวน้อยร่างอวบ หน้าหวานตาคม อยู่ในชุดว่ายน้ำค่อนข้างจะมิดชิดนั่งพับเพียบเรียบร้อย ยังไม่ทิ้งบุคลิกสตรีไทยไปมากเท่าไหร่ เพียงแต่เปิดให้เห็นร่องอก และต้นขา แค่นั้นหนุ่มสมัยก่อนก็คงน้ำลายหกกันไปมากแล้ว
บางปีในช่วงนั้นยังปรากฏภาพหญิงสาวนั่งพับเพียบเรียบแต้ สวมชุดทำงานเรียบร้อย ไม่มีอาการ “โป๊” แต่อย่างใด
ถัดมาอีกหลายปี ปฏิทินแม่โขงเริ่มจัดแนวเข้าที่เข้าทางถ่ายผู้หญิงนุ่งชุดว่ายน้ำเป็นการยืนพื้น ส่วนใหญ่นางแบบจะออกไปทาง “อวบ” เสียเป็นส่วนมาก และชุดว่ายน้ำที่ว่าก็เริ่มน้อยชิ้นลงเรื่อยๆ กลายเป็น “บิกินี่” สองชิ้นเปิดเห็นลาดหน้าท้องและสะดือ
การถ่ายทำนิยมถ่ายภาพกลางแจ้ง ใช้แสงธรรมชาติเสียเป็นส่วนมาก (น่าจะด้วยเหตุที่การถ่ายภาพในสตูดิโอยังไม่เป็นที่นิยมและไม่มีผู้ชำนาญมากนัก)
ปฏิทินแม่โขงมาทำแปลกแหวกแนวในช่วงกลาง ๆ ราวยี่สิบปีก่อน [ราวทศวรรษ 2510 – กองบก.ออนไลน์] และเป็นเพียงชุดเดียวที่มีฝรั่ง (ไม่ระบุว่าชาติไหน) เป็นนางแบบ ถึงคราวนี้ ถอดเสื้อถอดผ้าเรียบร้อย นางหนึ่งยืนเต้นบัลเล่ต์อยู่บนชายหาด มีดอกไม้ (ปลอม) แปะไว้บนเนินอก และของลับ อีกนางหนึ่ง ถ่ายภาพในห้อง ใส่กางเกงแต่ไม่ใส่เสื้อเอาท่อนแขนบังไว้ หันหน้ามายิ้มหวานให้กล้อง แต่จากปีนั้นเรื่อยมาก็เป็นนางแบบไทยล้วน
มาอีกครั้งก็เมื่อมีนางแบบไทยยอมถอดผ้าหมด เข้าไปถ่ายกันที่โรงแรมมณเฑียรสมัยนั้นเป็นสองภาพเด่น แต่ทว่าได้เห็นแค่แผ่นหลังของเธอ อีกภาพเข้าไปถ่ายกันในห้องอาบน้ำของโรงแรมเดียวกันนั่นเอง โดยใช้ม่านพลาสติกปิดบังร่างกายเอาไว้
จากนั้นมาอีกหลายปี แฟนปฏิทินแม่โขงก็ได้เห็นส่วนสัดของนางแบบมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่ถึงกับเปลือยเปิดอกเปิดใจกันจนหมด แค่ผ้าหลุดแล้วเอามือเหนี่ยวไว้บ้าง ใส่เสื้อรัดรึงให้เห็นส่วนสัดให้คนดูคิดเอาเอง
มาถอดกันหมดจริงจังในยุคหลังสุดหลังจากปี พ.ศ. 2525 เรื่อยมา เป็นยุคที่หนังสือโป๊แบบจะแจ้งเกลื่อนเมือง ความซ่าของปฏิทินอย่างว่าจึงเพิ่มดีกรีตามไปด้วย คราวนี้ไม่ว่าจะเป็นนมต้ม หรือไรขนก็มีให้ชมกันจนเพลิน เพียงแค่นางแบบกระมิดกระเมี้ยนไว้ด้วยอาภรณ์ชิ้นเล็ก ๆ เท่านั้น
เรื่องหน้าอกหน้าใจเป็นอันหายห่วง จินตนาการหมดความหมายไปอีกคืบ ทั้งนางแบบรุ่นใหม่หุ่นอ้อนแอ้นขึ้นอีกหลายเท่า ตามรสนิยมที่เปลี่ยนไปของชายไทย
- ค้นร่องรอยสิ่งเร้ากามารมณ์ชิ้นแรกๆ ในโลก สู่เส้นทาง “หนังโป๊” ยุค AV-เว็บโป๊
-
“แม่โขง” ชื่อยี่ห้อวิสกี้ที่มาจากเพลงปลุกใจ เรียกร้องดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงคืน
หมายเหตุ : คัดเนื้อหาส่วนหนึ่งจากบทความ “แกะรอยปฏิทินแม่โขง” เขียนโดย ธรรมศักดิ์ พึ่งตนเพียร ในศิลปวัฒนธรรม ฉบับธันวาคม 2533
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 27 ธันวาคม 2564