สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ตำนาน “พ่อตาดุ” แห่งกรุงศรีอยุธยา

ภาพวาด เกาะเมือง อยุธยา โดยชาวต่างชาติ
ภาพประกอบเนื้อหา - ภาพวาดกรุงศรีอยุธยา วาดโดย Struys Jan Janszoon ค.ศ. 1681

ลูกใครใครก็รัก “สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ” พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา จึงทนไม่ได้ ต้องทรงเป็น “พ่อตาดุ” ปกป้องพระราชธิดา คือ “พระวิสุทธิกษัตรีย์” ที่ถูกพระสวามีคือ “ออกญาพิษณุโลก” ทำร้าย อย่างถึงที่สุด

สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ (พระนามเดิม พระเทียรราชา) สมาชิกของราชวงศ์สุพรรณภูมิ แห่งกรุงศรีอยุธยา แม้พระองค์ไม่ใช่กษัตริย์นักรบ แต่ก็ทรงขยันขันแข็งในการปรับปรุงกฎหมาย ทรงมีพระราชกรณียกิจทางศาสนาหลายประการ โดยเฉพาะการปฏิบัติต่อพวกพราหมณ์และคนจน ทรงได้รับการยกย่องว่ามีบุญญาธิการมาก เพราะทรงมีช้างเผือกในครอบครองถึง 7 ช้าง จึงมีพระสมัญญาว่า “พระเจ้าช้างเผือก”

สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ อภิเษกสมรสกับพระสุริโยทัย มีพระราชโอรสธิดา 5 พระองค์ ต่อมาพระองค์พระราชทานพระราชธิดา คือ พระวิสุทธิกษัตรีย์ ให้กับ ออกญาพิษณุโลก (ภายหลังคือ พระมหาธรรมราชา แห่งราชวงศ์สุโขทัย) แต่ก็มีเหตุที่ทำให้พระองค์กริ้ว “ลูกเขย” ผู้นี้อย่างมาก

พงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับวัน วลิต ตอนหนึ่งบันทึกว่า

“พระเทียรราชาได้พระราชทานพระธิดาให้อภิเษกกับออกญาพิษณุโลก (Oja Poucelouck) แต่เนื่องจากบุคคลทั้งสองมีความแตกต่างกันมาก ชีวิตสมรสจึงมีแต่การทะเลาะเบาะแว้งและไม่ลงรอยกัน

ในการทะเลาะครั้งหนึ่ง ออกญาพิษณุโลก ได้ตีพระเศียรพระราชธิดาแตก พระราชธิดาจึงใช้ผ้าซับพระพักตร์เช็ดพระโลหิต ใส่ถ้วยทอง ส่งไปถวายพระราชบิดาที่กรุงศรีอยุธยา พร้อมทั้งมีพระราชสาส์นทูลฟ้องว่าถูกพระสวามีทารุณเพียงใด

ด้วยเหตุนี้พระเจ้าแผ่นดินสยามจึงพิโรธพระราชบุตรเขยเป็นอย่างมาก มีรับสั่งให้ทหารยกกำลังไปฆ่าออกญาพิษณุโลก ออกญาพิษณุโลกได้ทราบข่าวก็ไม่รอให้กองทัพจากกรุงศรีอยุธยามาตั้ง ทิ้งบ้านเมือง รีบหนีไปยังเมืองพะโค

พระเจ้าแผ่นดินแห่งพะโคทรงทราบข่าวว่าออกญาพิษณุโลกหนีมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารก็ทรงต้อนรับอย่างดี เมื่อออกญาพิษณุโลกเห็นเช่นนั้นก็ได้ใจ ขอร้องให้พระเจ้าแผ่นดินแห่งพะโค ยกทัพไปทำสงครามกับสยาม” [จัดย่อหน้าใหม่โดยกองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม)

ส่วนเรื่องความไม่ลงรอยกันระหว่าง พระวิสุทธิกษัตรีย์-พระมหาธรรมราชา หลักฐานในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาและหลักฐานพม่า ได้สะท้อนถึงความแตกแยกระหว่างพระมหาธรรมราชากับพระญาติวงศ์ของพระวิสุทธิกษัตรีย์ นับแต่สิ้นสงครามช้างเผือกใน พ.ศ. 2106 เป็นอย่างช้า

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่ 


อ้างอิง :

ศ.ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์. “ขัตติยนารี แห่งราชอาณาจักรสยาม” ใน, ศิลปวัฒนธรรม ฉบับมกราคม 2546


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2564