ผู้เขียน | กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม |
---|---|
เผยแพร่ |
ความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายเป็นแนวคิดที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งอยู่คู่กับมนุษย์มายาวนาน แม้กระทั่งปัจจุบันก็ยังมีเหล่า “นักล่าผี” ที่พร้อมพิสูจน์ความลี้ลับ และมีสถานที่เก่าแก่ที่บรรยากาศเป็นใจพร้อมอ้าแขนต้อนรับ ดังเช่นคุก “เชปตัน มาลเลต์” (Shepton Mallet) ใกล้กับบริสตอล ในโซเมอร์เรสต์ ประเทศอังกฤษ
เชปตัน มาลเลต์ สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 ไม่เพียงเป็นคุกเก่าแก่อันดับต้นๆ ในแดนผู้ดี ปัจจุบันนี้ก็ถูกชาวยุโรปขนานนามว่าเป็นคุกหลอนที่สุดอันดับต้นๆ ในสหราชอาณาจักร ซึ่งสื่อท้องถิ่นรายงานว่า คุกแห่งนี้เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปค้างคืนในสถานที่ประวัติศาสตร์ซึ่งเคยใช้เป็นอาคารสำหรับจองจำอาชญากรคดีร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นข่มขืน ซ่องโจร และคดีอื้อฉาวที่ถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์อีกจำนวนหนึ่ง
เชื่อกันว่า เชปตัน มาลเลต์ น่าจะเปิดทำการมาก่อนปี 1625 ทำให้คุกแห่งนี้เป็นสถานที่จองจำซึ่งใช้งานมายาวนานที่สุดแห่งหนึ่งจนกระทั่งเลิกใช้งานในปี 2013 และหลังจากปิดตัวไปแล้ว 6 ปี เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเรือนจำเปิดโปรแกรมพิเศษให้นักท่องเที่ยวได้นอนค้างในเรือนจำเป็นเวลา 12 ชั่วโมงหลังลูกกรง (แต่ไม่ได้ถูกล็อก) ภายในอาคารเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหลอน
โปรแกรมนี้รวมถึงการทัวร์รอบเรือนจำยามวิกาลเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ภายในเรือนจำมีบาร์จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มในตอนเย็นด้วย หลังจากทัวร์แล้วจึงเริ่มเข้าไป “พัก” ในตัวอาคาร เว็บไซต์ยังระบุว่า ผู้ใช้บริการสามารถออกเสาะหาประสบการณ์ลึกลับหรือเรื่องเหนือธรรมชาติ หรือเลือกจะพักผ่อนในห้องขังก็ได้
เว็บไซต์ LondonLives.org รายงานว่า อาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตามร่างกฎหมายเมื่อปี 1610 ที่เรียกว่า Bridewell Act ซึ่งเนื้อหาส่วนหนึ่งกำหนดให้ทุกมณฑลในอังกฤษต้องมีแหล่ง “ลงทัณฑ์” ในพื้นที่ เว็บไซต์ของเรือนจำอธิบายว่ากฎหมายนี้เกิดขึ้นโดยพระเจ้าเจมส์ที่ 1
รูปแบบการใช้งานเรือนจำแห่งนี้ใช้คุมขังนักโทษชายหญิงและเด็กไว้ด้วยกัน ผู้กระทำความผิดมีตั้งแต่ลูกหนี้ ขโมย ผู้ที่อยู่ร่วมกับสังคมไม่ได้ คนจรจัด และผู้ป่วยทางจิตก็ยังถูกส่งมาที่นี่เพื่อจองจำในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ของนักโทษที่ถูกจองจำกลับไม่ค่อยพบมากนัก ข้อสันนิษฐานมีหลายทิศทาง อาจเป็นเพราะว่ามีคนที่อ่านออกเขียนได้ไม่มากนักในช่วงเวลานั้น และอีกประการหนึ่งก็อาจเป็นเพราะไม่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่แบบนั้น ในสภาพเช่นนั้น มีเสียงร่ำลือว่า ผู้คุมก็ฉวยโอกาสจำหน่ายเหล้าให้ผู้ถูกคุมขัง ยิ่งทำให้เกิดพฤติกรรมติดเหล้า
เว็บไซต์ของเรือนจำบรรยายต่อว่า สภาพลักษณะนี้นำมาสู่โรคระบาดหลายชนิด แต่ความช่วยเหลือทางการแพทย์กลับไม่ปรากฏอย่างจริงจัง มีเพียงแค่ศัลยแพทย์ท้องถิ่นที่อาจเข้ามาประกาศสภาพการตายแล้วเท่านั้น เมื่อผู้ถูกจองจำเสียชีวิต ศพจะถูกกำจัดโดยนำไปฝังไว้ที่ด้านนอกอาคาร
คุกแห่งนี้ไม่เพียงเป็นแหล่งจองจำผู้กระทำผิดเท่านั้น แต่ยังใช้ประหารนักโทษด้วย ไม่ว่าจะด้วยวิธีแขวนคอ ควักไส้ และผ่าแยกร่าง (HDQ, Hung, Drawn and Quartered) ซึ่งเป็นกรรมวิธีลงทัณฑ์แบบอังกฤษ ห้องแขวนคอในอาคารยังมีอยู่จนถึงวันนี้ ในช่วงหลายปีหลังยังแปรสภาพมาใช้เป็นออฟฟิศ
ในช่วงจลาจล Monmouth หรือ Pitchfork ระหว่างปี 1642-85 มีผู้ถูกแขวนคอ ควักไส้ และผ่าแยกร่างอย่างน้อย 12 รายด้วยข้อหาเห็นอกเห็นใจกลุ่มผู้ก่อความวุ่นวาย
ในศตวรรษที่ 19 คุกแห่งนี้ถูกต่อเติมขยายออก ซึ่งรวมถึงการติดตั้งเครื่องลงทัณฑ์แบบ treadwheel เครื่องจักรที่ใช้แรงงานคนหมุนปั่นและแปรพลังงานมาใช้ประโยชน์ อาทิ ปั๊มน้ำหรือบดข้าวโพด แต่ส่วนใหญ่แล้วมักใช้งานเพื่อการลงโทษมากกว่า

แต่ในปี 1930 คุกแห่งนี้ปิดตัวลงเนื่องจากนักโทษลดลงเหลือประมาณ 51 ราย พลเรือนซึ่งถูกตัดสินประหารชีวิตรายสุดท้ายคือจอห์น ลินคอล์น เมื่อปี 1926 ข้อหายิงเอ็ดเวิร์ด ริชาร์ดส วัย 25 ปีเสียชีวิตในช่วงปี 1925
เรือนจำกลับมาเปิดทำการใหม่อีกครั้งในปี 1939 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยถูกใช้เป็นเรือนจำทหารของกองทัพบริติช และเคยใช้เป็นที่เก็บเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ของหอจดหมายเหตุแห่งลอนดอน
ในช่วงปี 1942-45 เรือนจำยังถูกใช้เป็นเรือนจำทหารของกองทัพสหรัฐฯ ด้วย ขณะที่โทษประหารในเรือนจำเชปตันเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1945 เป็นการลงทัณฑ์ทางการทหาร เมื่อปี 1945 กองทัพอังกฤษกลับมาใช้งานเรือนจำแห่งนี้อีกครั้ง ในช่วงหลังจากนี้เองเรือนจำยังเคยเป็นที่คุมขังฝาแฝดเครย์ (โรนัลด์ เครย์ และเรจินัลด์ เครย์) อาชญากรหัวโจกของแก๊งที่ก่อคดีแบบอุกอาจหลังออกจากเรือนจำแห่งนี้ โดยคู่ฝาแฝดอื้อฉาวในประวัติศาสตร์อังกฤษเป็นคนกลุ่มท้ายๆ ที่รับโทษในเรือนจำแห่งนี้
อ่านเพิ่มเติม :
- “เทคนิคไล่ผี” ยุคกลาง จากคติเทววิทยา คนที่ถูก “ผีเข้าสิง” ได้ยินแล้วอาจเข่าทรุด
- เปิดตำนาน Flying Dutchman เรือผีต้องคำสาป ลอยแล่นไปตลอดกาล? กับบันทึกที่เอ่ยถึง
- กระสือ-กระหัง “คู่จิ้น” ผีไทยสมัยโบราณ
อ้างอิง :
SHEPTON MALLET PRISON. Access 30 SEP 2019. <https://www.sheptonmalletprison.com>
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 30 กันยายน 2562