คลายข้อสงสัย คนกรุงศรีอยุธยา “หน้าตา” เป็นอย่างไร?

อยุธยา เรือสำเภา ค้าขายทางเรือ
นักเดินทางหลายชาติบนเรือสำเภาที่มาติดต่อการค้า และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับอยุธยา (ภาพจากหนังสือ สมุดข่อย จัดพิมพ์โดย โครงการสืบสานมรดกวัฒนธรรมไทย พ.ศ. 2542)

มีคติโบราณบอกว่า “ไทยเล็ก เจ๊กดำ” คบไม่ได้ แสดงว่าคนไทยทั่วไปไม่ใช่คนตัวเล็ก แต่รูปร่างจะใหญ่ขนาดไหน? ไม่มีเกณฑ์กำหนดแน่นอน “หน้าตา” ของ “คนกรุงศรีอยุธยา” สมัยก่อนเป็นอย่างไร?

หน้าตาของ “คนกรุงศรีอยุธยา”

อธิบายยาก แต่มีข้อหน้าสังเกตว่าควรคล้ายพระพักตร์พระพุทธเจ้ารูปแบบ “อู่ทอง” คือหน้าเหลี่ยม ริมฝีปากหนา เป็นต้น ประเด็นนี้มีข้อยืนยันอยู่ในบันทึกของลาลูแบร์บอกว่า

วงหน้าของชาวสยามทั้งชายและหญิง กระเดียดไปข้างรูปขนมเปียกปูน (หรือข้าวหลามตัด)  มากกว่าที่จะเป็นรูปไข่

ใบหน้ากว้าง ผายไปทางเหนือโหนกแก้ม แล้วทันใดก็ถึงหน้าผากอันแคบ รวมเข้าเป็นรูปมนเหมือนปลายคาง

อนึ่งนัยน์ตาซึ่งหางตาค่อนข้างจะยกสูงขึ้นไปข้างบนนั้นเล็ก และไม่สู้แจ่มใสไวแววนัก และตาขาวซึ่งควรจะขาวนั้นก็ออกเหลืองๆ

แก้มของพวกเขานั้นตอบ ค่าที่โหนกแก้มสูงเกินไปนั่นเอง ปากนั้นกว้าง ริมฝีปากซีด ๆ และฟันดำ ผิวนั้นหยาบ สีน้ำตาลปนแดง”  (สั่งเน้นคำและจัดย่อหน้าใหม่โดย กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม

ที่ลาลูแบร์บอกว่า ชาวบ้านกรุงศรีอยุธยาทั้งผู้หญิงและผู้ชายฟันดำทั้งนั้น ข้อนี้เป็นรสนิยมของผู้คนยุคนั้นอย่างแท้จริงว่าเป็นเสน่ห์อย่างยิ่ง ดังมีกาพย์โคลงนิราศธารโสกของเจ้าฟ้ากุ้ง ยกย่องหญิงงามต้องมีฟันดำอย่างสีนิล ดังนี้

๏พิศฟันรันเรียงเรียบ   เป็นระเบียบเปรียบแสงนิล
พาทีพี่ได้ยิน   ลิ้นบ่กระด้างช่างเจรจา
๏ชมทันต์รันเรียบริ้ว   เรียมถวิล
ระเบียบเรียบแสงนิล   ย่องย้อย
พาทีพี่ฟังยิน   พจนาตถ์
ลิ้นเล่ห์เสนาะเพราะถ้วย   กล่าวเกลี้ยงเสียงใสฯ

ที่ว่าฟันดำอย่างสีนิลนี้ไม่ใช่ย้อมสีดำ แต่เพราะกินหมากกินพลูเป็นประจำ นิยมเคี้ยวหมากพลูกันตั้งแต่รุ่นสาวรุ่นหนุ่มจนถึงแก่เฒ่า

ประเพณีเคี้ยวหมากเคี้ยวพลูจนฟันดำเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมมาแต่ยุคดึกดำบรรพ์ทีเดียว มีเอกสารจีนโบราณบันทึกว่าราวสองพันปีมาแล้ว กลุ่มชนพวกหนึ่งในภูมิภาคอุษาคเนย์นิยมให้ฟันดำ

ชาวอยุธยายกย่องคนมีใบหูใหญ่ด้วยเชื่อว่าอายุยืน ลาลูแบร์รู้สึกประหลาดที่ชาวสยามในอยุธยามีใบหูใหญ่ จึงเขียนบันทึกว่า

“ชาวสยามนั้นมีจมูกสั้นและปลายมน และใบหูนั้นใหญ่กว่าใบหูของพวกเรา คนมีใบหูใหญ่มากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นที่ยกย่องกันมากขึ้นเท่านั้น ด้วยว่าเป็นรสนิยมของชาวต่างชาติบ้างบูรพทิศ  สังเกตได้จากตุ๊กตากระเบื้องหรือวัสดุอย่างอื่นที่ได้มาจากภูมิภาคนั้นเถิด

แต่การนิยมมีใบหูใหญ่นี้ยังมีทรรศนะแตกต่างกันอยู่ในหมู่ชาวตะวันออก ลางพวกก็นิยมดึงติ่งหูให้ยืดยาวลงมาโดยมิได้เจาะติ่งหูด้วยหมุดให้กว้างๆ ขึ้น โดยเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นไปทีละน้อย

ในประเทศลาวนั้นนิยมเบิกหูกันให้กว้างจนแทบว่าจะเอากำปั้น (poing ) ยัดเข้าไปได้ และติ่งหูนั้นย้อยยืดลงมาจรดบ่า ชาวสยามมีใบหูใหญ่กว่าของพวกเราเล็กน้อย แต่ก็เป็นไปโดยธรรมชาติ หาได้มีการดัดแปลงไม่”

ด้วยรูปลักษณะดังที่กล่าวไปนี้ “คนกรุงศรีอยุธยา” ถือว่า “สวย” หรือ “หล่อ” เพียงใดโปรดพิจารณา

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


ข้อมูลจาก :

สุจิตต์ วงษ์เทศ. “ไพร่ฟ้าประชากร และข้าวปลาอาหารใน,  อยุธยา ยศยิ่งฟ้า ประวัติศาสตร์สังคมวัฒนธรรมกรุงศรีอยุธยา ว่าด้วยวิถีชีวิตไพร่ฟ้าข้าไทย, สำนักพิมพ์มติชน 2549


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2561