ทูตเปอร์เซียเล่าเหตุ คนกรุงศรี “ตกตะลึง” เมื่อกษัตริย์สั่งรีดนมควายทำเนย!

กรุงศรีอยุธยา บวชพระ
ภาพประกอบเนื้อหา - โคลงภาพ "สร้างกรุงศรีอยุธยา" เขียนโดย นายอิ้ม ในสมัยรัชกาลที่ 5 (ภาพจากหนังสือ "พระราชพงศาวดาร เล่ม 1 ฉบับพิมพ์ ร.ศ. 120 พ.ศ. 2444) โดยกรมศึกษาธิการ กระทรวงธรรมการ

เปิดบันทึกราชทูตเปอร์เซีย เล่าเหตุการณ์คน กรุงศรีอยุธยา “ตกตะลึง” เมื่อกษัตริย์สั่งรีดนมควายทำเนย!

ชีวิตชาวไทยในสมัยอยุธยาเป็นมาอย่างไรนั้น ข้อมูลส่วนหนึ่งรับรู้ได้จากบันทึกของชาวต่างชาติที่พบว่าเข้ามาอยู่อาศัยในสยาม ณ ช่วงเวลานั้นเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นชาวเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน และชาติอื่น ๆ โดยเฉพาะชาวเปอร์เชีย ซึ่งในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 นั้น ประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ว่ามีชาวเปอร์เชีย “หลายพันคน” เข้ามาตั้งหลักแหล่งในสยาม บางคนได้รับราชการเป็นเสนาบดีการคลังก็มี

ทั้งนี้เมื่อชาวเปอร์เซียได้มาถึงไทยแล้วก็ได้จดบันทึกสิ่งที่พวกเขาพบเห็นไว้เป็นประวัติศาสตร์เสียด้วย โดยบันทึกดังกล่าวนั้นรู้จักกันในชื่อว่า “สำเภากษัตริย์สุลัยมาน” เขียนโดยราชทูตเปอร์เซียที่มาเยือนสยามในปลายศตวรรษที่ 17 มีเนื้อความกล่าวถึงการเดินทาง  ภูมิประเทศที่พบเห็น ประเพณีวัฒนธรรมในสยามประเทศ รวมถึงชีวิตของผู้คนใน กรุงศรีอยุธยา ที่น่าสนในใจ ดังที่ได้คัดเนื้อหามาส่วนหนึ่งดังใจความต่อไปนี้


 

ในแผ่นดินสยามนั้น ชาวเมืองไม่มีทรัพย์สมบัติ ไม่มีอำนาจที่จะกล้าพูด ชีวิตเป็นไปอย่างผิวเผิน มักจะเปลือยกายบางส่วน ไม่มีบ้านใหญ่โต แปลกที่ว่าตลอดชีวิตชาวสยามไม่กินน้ำมัน ไม่รีดนม ไม่ทำเนย เขาถือว่าอาหารเหล่านี้เป็นบาป ชาวสยามจึงไม่รู้ว่าต้นไม้อะไรให้น้ำมัน หรือสัตว์อะไรให้เนย ชาวอิหร่านต้องสั่งเนยมาจากอินเดีย

ภาพวาดกรุงศรีอยุธยา ราชสำนักกรุงศรีอยุธยา
ภาพประกอบเนื้อหา – ภาพวาดกรุงศรีอยุธยา วาดโดย Struys Jan Janszoon ค.ศ. 1681

เมื่อเร็ว ๆ นี้ตอนที่ทางนี้เตรียมเสบียงไว้ต้อนรับเรานั้น พระเจ้ากรุงสยามเองก็ทรงแปลกพระทัย เพราะหาเนยให้เราได้ไม่พอ พระองค์ทรงมีรับสั่งให้ชาวเมืองรีดนมวัวนมควายและทําเนย พวกชาวพื้นเมืองถึงกับตกตะลึง ร้องว่า

“ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ของพระเจ้าแผ่นดินองค์ใดที่เกิดมีความทารุณและกดขี่เช่นนี้ เพราะเท่ากับริบน้ำนมสําหรับลูกวัว”

ชาวสยามกินข้าวเป็นอาหารหลัก ไม่เติมเกลือ เนื้อหรือเครื่องเทศ แต่เขากินกับหัวปลาต้ม แทบทุกชั้นมีอาหารเช่นนี้เป็นหลัก ถ้าพบสัตว์ที่ตายเอง ไม่ว่าเป็นชนิดใด แม้เป็นวัวแก่ตายแล้วหลายวัน เขาก็จะพา กันแล่เนื้อเอาไปกิน เขาจะไม่ฆ่าสัตว์เพื่อปรุงอาหาร เพราะถือว่าเป็นบาปหนัก ถ้าเขาจะเลี้ยงต้อนรับแขก ก็บีบคอนก (ไก่?) จนมันตาย แล้วก็เอาไปต้มใส่เครื่องชูรสหรือน้ำมันบ้าง แล้วก็กินกัน

จิตรกรรมฝาผนัง วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร อยุธยา
ภาพประกอบเนื้อหา – จิตรกรรมฝาผนัง วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร อยุธยา

แม้แต่เวลานี้ก็ยังกินแย้ปิ้งและงู จะเห็นมีวางขายตามตลาด แทนที่จะเห็นเนื้อแกะ อาหารอีกชนิดหนึ่งคือเนื้อเต่า ชาวสยามไม่เว้นกินสัตว์ทะเลหรือสัตว์ป่า มีชาวสยามพวกหนึ่งกินเนื้อช้างและหมาป่า

มีอีกพวกหนึ่งเรียกว่า Lavand มีกษัตริย์ปกครองเอง กล่าวกันว่าพระองค์ทรงมีพระราชทรัพย์มาก มีเหยี่ยวไว้ล่าสัตว์หลายตัว วันหนึ่งต้องใช้ควายถึงสองตัวแล่เนื้อไว้เป็นอาหารของเหยี่ยว

แม้ว่าชายหญิงชาวสยามและของประเทศใกล้เคียงเมืองจีน ไม่ไว้ผม แต่ท่านจะเห็นชาวพื้นเมือง Lavand มีรูปร่างสวยงามมาก ยิ่งในหมู่สาวๆ ด้วยแล้วจะเห็นคนสวยอย่างที่มีให้เห็นในเมืองจีน (หรือตุรกี)

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2561