เห็นแค่แบบร่างยัง “ยิ่งใหญ่” แผนผังป้อมปราการเมืองลพบุรี จากหอสมุดแห่งชาติกรุงปารีส

แบบร่าง แผนผัง ป้อมปราการเมืองลพบุรี โดย เดอ ลา มาร์ วิศวรกร ชาวฝรั่งเศส
แบบร่างแผนผังเมืองลพบุรี สันนิษฐานว่าเป็นผลงานของ เดอ ลา มาร์ วิศวกรชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาพร้อมทูต เดอ โชมองต์ และสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงใช้งาน

การสร้าง ป้อมปราการเมืองลพบุรี ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เอกสารของ เดอ ลา มาร์ วิศวกรชาวฝรั่งเศส บันทึกและเขียนแผนผังไว้ดังนี้

“ละโว้เป็นเมืองตั้งอยู่ริมสาขาหนึ่งของแม่น้ำ และแม่น้ำสายนี้ก็เรียกว่าแม่น้ำละโว้ ส่วนอีกลำน้ำอีกสายเรียกว่าแม่น้ำเฉยๆ แต่มีน้ำบริบูรณ์ แต่แม่น้ำละโว้แทบจะไม่มีน้ำเลยในฤดูร้อน ข้าพเจ้าได้เสนอไปว่าควรขุดร่องน้ำในแม่น้ำ ในบริเวณที่แม่น้ำแยกกัน เพื่อนำน้ำเข้ามาในแม่น้ำละโว้ จะมากหรือน้อยก็ได้ตามที่เราต้องการ และข้อเสนอนี้ก็กำลังดำเนินการอยู่

Advertisement

เมืองละโว้มีกำแพงเมือง 2 ชั้น ชั้นแรกคือกำแพงล้อมพระราชวัง เรียกกันว่าเมืองบน และเมืองล่าง พระเจ้ากรุงสยามมีรับสั่งกับข้าพเจ้าเมื่อปีที่แล้วว่าให้ก่อสร้างป้อมปราการขึ้นบริเวณแนวกำแพงเมืองทั้ง 2 และรับสั่งให้ทำป้อมปืนเล็กๆ ไว้ด้วย ข้าพเจ้าได้เขียนแบบให้มุมป้อมสูง 12 ต๊วส และอีก 12 ต๊วสที่บริเวณพื้นที่ด้านหลังป้อม ที่เหลือข้าพเจ้าเผื่อสำหรับมุมป้อม และพื้นที่ระหว่างมุมหนึ่งกับอีกมุมหนึ่ง และข้าพเจ้าก็ได้รับคำสั่งให้จัดการกับป้อมปราการเก่าที่พังทลายลงกับดินและไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้แล้ว

ป้อมท่าโพธิ์และแนวประตูน้ำ ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือในสภาพปัจจุบัน

ป้อมที่ด้านหลังพระราชวังนั้นมีขนาดใหญ่กว่าแห่งอื่น เพราะพระเจ้ากรุงสยามมีพระราชประสงค์ดังนั้น การสร้างป้อมนั้นเริ่มมากว่า 8 เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จ ยังมีงานเล็กๆ น้อยๆ อีกสองสามแห่งที่คงค้างอยู่ที่ข้าพเจ้าจะต้องจัดการให้เรียบร้อย บางอันมีขนาดเล็กไป บางอันตั้งอยู่ผิดที่

แนวกำแพงเมืองทั้ง 2 แห่งจำเป็นจะต้องก่อกำแพงอิฐขึ้นไปใหม่ ฉาบปูนขาวผสมทราย และให้มีความหนาประมาณ 15 ปิเย่ด์ และข้าพเจ้าก็ทำส่วนด้านหลังของแนวกำแพง โดยขุดคูน้ำ กว้าง 2 ปิเย่ด์ครึ่ง  ส่วนที่เหลือหนาอีก 12 ปิเย่ด์ครึ่ง รวมกำแพงสูง 30 ปิเย่ด์นับจากก้นคูน้ำ เพื่อที่ว่าจะได้ระยะ 6 ปิเย่ด์ สำหรับพื้นที่ที่ก่อยื่นออกไปตรงข้ามกำแพงของแนวกำแพง ที่จะเว้นไว้ในระยะ 12 ปิเย่ด์ครึ่ง และอีก 6 ปิเย่ด์ครึ่งสำหรับความหนาของกำแพง ข้าพเจ้าให้ขุดคูน้ำลึก 12 ปิเย่ด์

ข้าพเจ้าให้ทำแนวค้ำยันที่ด้านในกำแพงในระยะห่าง 12 ปิเย่ด์ เสาค้ำยันเหล่านี้มีความหนา 8 ปิเย่ด์ และหนา 5 ปิเย่ด์ ตั้งแต่ฐานจนระดับเส้นที่คาดอยู่บนแนวป้อม

ข้าพเจ้าสร้างป้อมแบบเปิดโล่ง และไม่ได้ทำมุมย่อเข้ามา และไม่มีทั้งห้องเก็บสรรพาวุธที่ชั้นล่างหรือชั้นกลางบริเวณด้านข้างของป้อม เพราะเราเชื่อว่าก็คงจะมีเฉพาะชาวกัมพูชา พะโค และลาวเท่านั้นที่มาทำสงครามด้วย และเพื่อว่าสถานที่แห่งนี้มีความสามารถเพียงพอที่จะตั้งรับได้ ข้าพเจ้าจึงให้ขุดคูน้ำขึ้นรอบเมืองทั้งสอง ดังเช่นที่เราเห็นในแผนผัง ข้าพเจ้าทำใบป้อมให้หนาเพียง 1 ต๊วสเท่านั้น เพื่อว่าจะได้มีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น และข้าพเจ้าก็ได้ให้มีพื้นที่ที่ก่อยื่นออกไปตรงข้ามกำแพงที่ด้านในป้อมมากกว่าทางสูง เพื่อว่าจะได้ขึ้นไปสะดวก

พื้นดินที่เมืองละโว้นั้นค่อนข้างแห้งแล้ง ดินแข็งมากและมีรูพรุนไปหมด  แม้ว่าจะง่ายที่จะไถพลิกดิน แต่ก็ไม่มีค่าอันใดเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อทำแนวกำแพง

เราพบว่ามีหลุมลึกถึง 24 ปิเย่ด์ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงไม่ต้องใช้เสาในการก่อสร้าง” (Paris, AN, 3 JJ 368 Carton 97, no. 7 หรือใน Michel JACQ-HERGOUALC’H, L’Europe et le Siam du XVIe au XVIIIe siècle : Apports culturels)

ในรายงานของเดอ ลา มาร์ ทำให้เห็นความชัดเจนขึ้นของ ป้อมปราการเมืองลพบุรี แม้เราจะไม่สามารถสันนิษฐานได้ว่า เดอ ลา มาร์ กำลังอธิบายป้อมแห่งใดในเมือง ป้อมที่เหลือในปัจจุบัน 2 ป้อม คือป้อมท่าโพธิ์และป้อมชัยชนะสงคราม มีลักษณะคล้ายคลึงกับคำพรรณนาของ เดอ ลา มาร์ ตามแผนผังเมืองขนาดใหญ่ที่พบแผนที่และแผนผังเก็บในหอสมุดแห่งชาติกรุงปารีส แสดงความยิ่งใหญ่ของเมืองลพบุรีดังนี้ (ดูแผนผังประกอบ)

ป้อมปราการเมืองลพบุรี วาดโดย เดอ ลา มาร์
แบบร่างแผนผังเมืองลพบุรี จากหอสมุดแห่งชาติกรุงปารีส

แผนผังนี้ทำให้เราสังเกตได้ว่า เดอ ลา มาร์ วาดแผนที่ป้อมให้ทับซ้อนลงไปกับแนวกำแพงป้อมปราการเมือง ลักษณะเป็นป้อมแบบยุโรป คือ มี 12 มุมแหลม ที่มักเรียกว่าป้อมแบบโวบอง (Vauban) ตามชื่อวิศวกรที่ก่อสร้างป้อมในยุโรปและในฝรั่งเศส

แต่หากแผนผังการสร้างแนวป้อมของเดอ ลา มาร์ ได้รับการสร้างขึ้นจริงนั้น ก็จะเห็นว่ามีขนาดใหญ่มาก เพราะด้านหนึ่งของป้อมทับอยู่บริเวณพระราชวังเมืองละโว้ ส่วนอีกด้านหนึ่งคือทางตะวันออกนั้น ครอบคลุมพื้นที่เหนือคลองเรือกออกไป

อนึ่ง หากพิจารณาลักษณะของป้อมในยุโรปร่วมสมัยกับเดอ ลา มาร์ แล้วก็จะพบว่า มีความนิยมก่อสร้างป้อมที่มีลักษณะย่อมุมมาก เป็นดวงดาว และมีพื้นที่การใช้สอยที่ชัดเจน ดังตัวอย่างเช่น ป้อมในเมือง Bourtrange ในประเทศเนเธอร์แลนด์ สร้าง ค.ศ. 1593

ป้อมในเมือง Bourtrange ในประเทศเนเธอร์แลนด์ สร้าง ค.ศ. ๑๕๙๓

ปัจจุบันนี้ ป้อมท่าโพธิ์ในลพบุรีมีความสมบูรณ์ และแสดงให้เห็นว่า วิศวกรฝรั่งเศสต้องการสร้างให้ป้อมนี้อยู่บนพื้นที่สูง เพื่อสามารถสังเกตข้าศึกได้ง่าย และใช้แนวสระเสวย ท้องพรหมาส เป็นแนวคูน้ำด้านนอก โดยไม่ต้องขุดคูน้ำเพิ่มเติมอีก ส่วนด้านในนั้นเนื่องจากในปัจจุบันถูกรบกวนจากการสร้างบ้านเรือนของประชาชน จึงไม่สามารถสังเกตได้ว่า มีร่องรอยของฐานหรือแนวป้อมอะไรเหลือบ้าง

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่ 


หมายเหตุ : คัดเนื้อหาจากบทความ “เมกะโปรเจ็คต์ (Mega Projects) ของวิศวกรฝรั่งเศสที่ลพบุรี ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช” เขียนโดย ปรีดี พิศภูมิวิถี ในศิลปวัฒนธรรม ฉบับพฤษภาคม 2561


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 5 สิงหาคม 2561