รัชกาลที่ 5 ทรงสั่งย้ายฟ้าผ่า “กรมดำรง” มาเป็นเจ้ากระทรวงมหาดไทย เหตุการณ์เป็นอย่างไร?

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ราชการลับ กรมดำรง เสนาบดีมหาดไทย เจ้ากระทรวงมหาดไทย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงฉายกับสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงสั่งย้ายฟ้าผ่า “กรมดำรง” มาเป็นเจ้ากระทรวงมหาดไทยพระองค์แรก เหตุการณ์ตอนนั้นเป็นอย่างไร?

ก่อนหน้าที่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ จะทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยพระองค์แรก ทรงปฏิบัติราชการอยู่ที่กระทรวงธรรมการมาก่อน และทรงผูกพันกับกระทรวงนี้อย่างมาก แต่ต่อมารัชกาลที่ 5 ก็ทรงสั่งย้ายกรมดำรงไปดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย

ย้อนไปเมื่อ พ.ศ. 2430 เมื่อครั้งรัชกาลที่ 5 โปรดให้รวมการบังคับบัญชาทหารบก ทหารเรือ ตั้งเป็น “กรมยุทธนาธิการ” ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนยศทหารของกรมดำรงขึ้นเป็นนายพลตรี มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกในกรมยุทธนาธิการ

สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ กรมดำรง เสนาบดีมหาดไทย เจ้ากระทรวงมหาดไทย เสด็จ ปราสาทหินพิมาย
สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อครั้งเสด็จปราสาทหินพิมาย (ภาพ : สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ)

ต่อมา โปรดให้รวมงานที่จัดโรงเรียนตั้งเป็นกรมอิสระ เรียกว่า “กรมศึกษาธิการ” ตั้งสำนักงานที่ตึกแถวต่อประตูพิมานไชยศรีข้างตะวันออก และโปรดให้กรมดำรงดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศึกษาธิการ

กรมดำรงจึงทรงรับราชการทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนควบคู่กัน

สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ กรมดำรง เจ้ากระทรวงมหาดไทย เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย
สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (ภาพ : กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมศิลปากร)

กระทั่ง พ.ศ. 2432 รัชกาลที่ 5 โปรดให้รวมกรมธรรมการและกรมสังฆการี กับทั้งกรมพยาบาลและกรมพิพิธภัณฑสถาน ซึ่งเป็นกรมอิสระอยู่ก่อน เข้ากับกรมศึกษาธิการ และทรงยกขึ้นเป็น “กระทรวงธรรมการ” แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมดำรงทรงย้ายขาดจากตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกในกรมยุทธนาธิการ มาเป็น อธิบดีกระทรวงธรรมการ เพียงตำแหน่งเดียว

ดังนั้นตั้งแต่ พ.ศ. 2433 กรมดำรงจึงทรงรับราชการแต่ฝ่ายพลเรือน

ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2435 เมื่อรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมดำรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย

กรมดำรงทรงเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งต้องทรงโยกย้ายไปเป็นเจ้ากระทรวงมหาดไทยว่า

“การที่ข้าพเจ้าต้องย้ายจากกระทรวงธรรมการไปเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย พระเจ้าอยู่หัวมิได้ตรัสถามความสมัครของข้าพเจ้า หรือแม้แต่ตรัสบอกให้ข้าพเจ้าเตรียมตัวก่อน บางทีจะเป็นด้วยทรงสังเกตเห็นข้าพเจ้ารักกระทรวงธรรมการอยู่มาก ถ้าตรัสถามก็จะทูลขอตัวหรือขอให้ผ่อนผันไปต่างๆ จึงตรัสสั่งโดยไม่ไต่ถามทีเดียว

แต่เมื่อมีพระบรมราชโองการประกาศเป็นเด็ดขาดเช่นนั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็ต้องย้ายไปตามรับสั่งทั้งไม่ได้เตรียมตัว มีแต่เจ้าพระยาเสด็จฯ (ม.ร.ว.เปีย มาลากุล) เวลานั้นเป็นหลวงไพศาลศิลปศาสตร์ ซึ่งเป็นเลขานุการประจำตัวติดตัวไปด้วยคนเดียวแต่ต่อมาในเดือนเมษายนนั้นเอง”

สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ กรมดำรง เสนาบดีมหาดไทย เจ้ากระทรวงมหาดไทย เสด็จ เมืองสุรินทร์ ปราสาทระแงง
สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จเมืองสุรินทร์ ทรงฉายพระรูปหน้าปราสาทระแงง เมื่อ พ.ศ. 2472 (ภาพ : ห้องภาพเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์)

กรมดำรงที่ทรงเป็นเจ้ากระทรวงมหาดไทยแบบไม่คาดคิด ทรงเล่าอีกว่า

วันหนึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงมีรับสั่งให้พระองค์เข้าเฝ้าในที่รโหฐาน ทรงได้โอกาสจึงกราบบังคมทูลปรับทุกข์ว่า ตั้งแต่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อสร้างกระทรวงธรรมการ พระทัยของกรมดำรงฝังอยู่แต่ในราชการกระทรวงนั้น นึกว่าถ้าโปรดให้อยู่ในกระทรวงธรรมการต่อไปคงจะสามารถจัดให้ดีได้

กรมดำรงกราบบังคมทูลรัชกาลที่ 5 ต่อไปอีกว่า แต่ราชการกระทรวงมหาดไทย ไม่ได้เคยเอาใจใส่ศึกษามาแต่ก่อน ทราบแต่ว่าเป็นกระทรวงใหญ่ การงานยากกว่ากระทรวงธรรมการมาก เมื่อไม่รู้ราชการกระทรวงมหาดไทยแล้วไปบังคับบัญชาการ ก็เกรงว่าจะไม่ดีดังพระราชประสงค์ ถ้าไปพลาดพลั้งอย่างไรก็จะเสียพระเกียรติยศ จึงเกิดความวิตกขึ้น

“พระเจ้าอยู่หัวตรัสตอบว่าในส่วนพระองค์ก็ทรงเชื่อแน่ว่าข้าพเจ้าคงจะสามารถจัดกระทรวงธรรมการให้ดีได้ แต่การบ้านเมืองซึ่งสำคัญกว่านั้นยังมีอยู่ บางทีข้าพเจ้าจะยังมิได้คิดไปถึงด้วยต่างประเทศกำลังตั้งท่าจะรุกเมืองไทยอยู่แล้ว ถ้าเราประมาทไม่จัดการบ้านเมืองเสียให้เรียบร้อย ปล่อยให้หละหลวมอย่างเช่นเป็นอยู่ช้าไป เห็นจะมีภัยแก่บ้านเมือง บางทีอาจจะถึงเสียอิสรภาพของเมืองไทยก็เป็นได้ ถ้าบ้านเมืองเสียอิสระแล้วกระทรวงธรรมการจะดีอยู่ได้หรือ

การรักษาพระราชอาณาเขตด้วยการจัดปกครองหัวเมืองให้เป็นระเบียบเรียบร้อยจึงเป็นการสำคัญกว่ามาก การนั้นตกอยู่ในหน้าที่กระทรวงมหาดไทยยิ่งกว่ากระทรวงอื่น เพราะหัวเมืองทั้งปวงขึ้นอยู่ในกระทรวงมหาดไทยโดยมาก ได้ทรงพิจารณาหาตัวผู้ซึ่งจะเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยให้จัดการได้ดังพระราชประสงค์มานานแล้ว ยังหาไม่ได้ จนทรงสังเกตเห็นว่าความสามารถของข้าพเจ้าเหมาะแก่ตำแหน่งนั้น จึงได้โปรดให้ย้ายจากกระทรวงธรรมการไปเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย…”

รัชกาลที่ 5 ยังทรงให้ความมั่นใจกับกรมดำรงว่า หากลำบากอย่างไรก็ให้ทูลปรึกษาหารือได้ ทำให้กรมดำรงทรงคลายความวิตก และกราบทูลรับว่าจะพยายามสนองพระเดชพระคุณตามพระราชประสงค์อย่างเต็มกำลังและสติปัญญา

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเป็นเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2435 จนถึงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2458 รวมเวลาแล้ว 23 ปี และนับถึงปัจจุบัน มีเจ้ากระทรวงมหาดไทยแล้วกว่า 60 คน

อ่านเพิ่มเติม : 

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

สถาบันดำรงราชานุภาพ กระทรวงมหาดไทย, รวบรวม. เรื่องการเสด็จตรวจราชการหัวเมือง ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ.

ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 19 มิถุนายน 2568