
ผู้เขียน | กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม |
---|---|
เผยแพร่ |
ข้าราชการมหาดไทยสมัยรัชกาลที่ 5 ในความเห็น “กรมดำรง” มท.1 พระองค์แรก ต้องมีคุณสมบัติสำคัญอะไร?
รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) มีการปฏิรูปการปกครอง เป็นจุดกำเนิดของกระทรวงมหาดไทย ที่มี สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีมหาดไทยเป็นบุคคลแรก

ภูวดล ศรีวิไล กล่าวถึงข้าราชการนักปกครองมหาดไทยสมัยรัชกาลที่ 5 ไว้ในหนังสือ “เสนาอำมาตย์ อำนาจมหาดไทย” (สำนักพิมพ์มติชน) ไว้ตอนหนึ่งว่า
ข้าราชการนักปกครองมหาดไทยถือเป็นตัวแทนจากส่วนกลางมีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขราษฎร กรมดำรงจึงทรงเน้นย้ำถึงคุณสมบัติสำคัญของคนที่จะมาเป็นข้าราชการนักปกครองว่า
“ประการสำคัญคือจะต้องเป็นผู้จงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
ความพยายามกำกับความจงรักภักดีได้ปรากฏชัดเจนในหนังสือ “เกี่ยวกับการแนะนำข้าหลวงเทศาภิบาลในการที่จะเสนอความชอบข้าราชการหัวเมือง” ซึ่งกรมดำรงทรงกำชับข้าหลวงเทศาภิบาล และบรรดานักปกครองข้าราชการมหาดไทยให้ตระหนักเรื่องนี้
เพราะทรงเห็นว่า ข้าราชการนักปกครองทั้งหลายยังยึดติดอยู่กับการเลื่อนชั้นในรูปแบบเดิม ยังไม่ได้เข้าใจในหลักการของระบบเกียรติยศของการปกครองแบบใหม่ และการที่จะได้รับเกียรติยศเหล่านี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น และได้รับโดยง่ายดายเกินควร เพื่อรักษาความสูงค่าของเกียรติในแต่ละชั้น ดังความว่า
“ในการที่เจ้ากระทรวงต่างๆ กราบบังคมทูลขอให้ข้าราชการในกระทรวงนั้นๆ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตร์ไม่ใคร่เป็นระเบียบแบบแผน มักเข้าใจเสียว่าสัญญาบัตร์ยศเป็นรางวัลสำหรับตัวคนที่มีความชอบ ใครทำดีก็หมายจะให้คนนั้นได้เลื่อนยศขึ้นโดยลำดับ อย่างนี้จะเป็นทางให้ยศถานันดรศักดิ์ฟั่นเผือเกินกว่าสมควรไป”
ประกอบกับระเบียบการขอเกียรติยศ รวมไปถึงการขึ้นเงินเดือนที่พระองค์ใช้นั้นต้องขึ้นอยู่กับการกระทำที่มากกว่าการทำหน้าที่ปกติได้ดี ไม่เพียงเท่านั้นยังต้องเป็นการก่อความชอบเป็นพิเศษเฉพาะ พร้อมกันนั้นทรงวางหลักการที่ข้าราชการนักปกครองจะไม่ได้รับเกียรติยศเหล่านี้เร็วเกินไป

กระบวนการดังกล่าวจึงเป็นทั้งการควบคุมและกระตุ้นให้ข้าราชการนักปกครองทั้งหลายมุ่งมั่นมากขึ้น และพร้อมที่จะเข้าไปทำงานในที่ทุรกันดาร หรือเมื่ออยู่ในตำแหน่งใดก็จะต้องกระทำการให้ปรากฏเป็นความชอบพิเศษ
ไม่เช่นนั้นการขอรับพระราชทานเกียรติยศนั้นก็จะ “ไม่มีผลอันใดและบางทีกลับจะถูกติเตียนให้ด้วย”
การที่ทรงกำชับเช่นนี้ก็เพื่อจะให้มีการกลั่นกรองที่เข้มงวดมากขึ้น และไม่ต้องการให้ข้าราชการรู้สึกว่า การได้รับพระราชทานสัญญาบัตรขึ้นอยู่กับการทำงานในหน้าที่เพียงอย่างเดียว
เพื่อที่จะรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของอำนาจที่ปันจากพระมหากษัตริย์ภายใต้อุดมการณ์แบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ นักปกครองข้าราชการมหาดไทยต้องตระหนักว่า ตนเองไม่อาจเป็นผู้กำหนดขอบเขตอำนาจ เงินเดือน และเกียรติยศนั้นเองได้ แต่เป็นสิ่งที่พระมหากษัตริย์พระราชทานมา
เหตุนี้ทำให้ข้าราชการนักปกครองกลายเป็นข้าราชการที่ผูกเข้ากับสถาบันพระมหากษัตริย์โดยตรง ต่างจากข้าราชการสมัยก่อนหน้า ที่มักจงรักภักดีต่อมูลนายเหนือตนมากกว่าพระมหากษัตริย์
อ่านเพิ่มเติม :
- รัชกาลที่ 5 ทรงสั่งย้ายฟ้าผ่า “กรมดำรง” มาเป็นเจ้ากระทรวงมหาดไทย เหตุการณ์เป็นอย่างไร?
- “ไปเมืองเพชรบูรณ์ เหมือนแส่หาความตาย” ทำไมเจ้านายยุค ร.5 ไม่อยากไปเพชรบูรณ์ ?
- 2 เจ้านายไทย ผู้เคยเสด็จไปเยือน “ปราสาทพระวิหาร”
- “หมาบ้า” กัดพระธิดากรมพระยาดำรงราชานุภาพ “สิ้นชีพตักษัย” ปฐมบทเกิด “สถานเสาวภา”
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
ภูวดล ศรีวิไล. เสนาอำมาตย์ อำนาจมหาดไทย. กรุงเทพฯ: มติชน, 2567.
สั่งซื้อหนังสือเล่มนี้ที่เว็บไซต์สำนักพิมพ์มติชนได้ที่นี่
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 19 มิถุนายน 2568