ข้าราชการมหาดไทยสมัย ร.5 ในความเห็นกรมดำรง “มท.1” พระองค์แรก ต้องมีคุณสมบัติอะไร?

ม้า ประกอบ โยชน์ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ข้าราชการนักปกครอง ข้าราชการมหาดไทย
ขบวนม้า สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ขณะเสด็จตรวจราชการมณฑลต่าง ๆ ใน พ.ศ. 2449 (ภาพจากหนังสือ เทศาภิบาล พระนิพนธ์ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ สนพ. มติชน)

ข้าราชการมหาดไทยสมัยรัชกาลที่ 5 ในความเห็น “กรมดำรง” มท.1 พระองค์แรก ต้องมีคุณสมบัติสำคัญอะไร?

รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) มีการปฏิรูปการปกครอง เป็นจุดกำเนิดของกระทรวงมหาดไทย ที่มี สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีมหาดไทยเป็นบุคคลแรก 

สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ กรมดำรง ตรวจราชการ เมืองนครพนม ข้าราชการมหาดไทย
สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ คราวเสด็จตรวจราชการเมืองนครพนม พ.ศ. 2449 (ภาพจาก “เทศาภิบาล” สนพ. มติชน)

ภูวดล ศรีวิไล กล่าวถึงข้าราชการนักปกครองมหาดไทยสมัยรัชกาลที่ 5 ไว้ในหนังสือ “เสนาอำมาตย์ อำนาจมหาดไทย” (สำนักพิมพ์มติชน) ไว้ตอนหนึ่งว่า

ข้าราชการนักปกครองมหาดไทยถือเป็นตัวแทนจากส่วนกลางมีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขราษฎร กรมดำรงจึงทรงเน้นย้ำถึงคุณสมบัติสำคัญของคนที่จะมาเป็นข้าราชการนักปกครองว่า

“ประการสำคัญคือจะต้องเป็นผู้จงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”

ความพยายามกำกับความจงรักภักดีได้ปรากฏชัดเจนในหนังสือ “เกี่ยวกับการแนะนำข้าหลวงเทศาภิบาลในการที่จะเสนอความชอบข้าราชการหัวเมือง” ซึ่งกรมดำรงทรงกำชับข้าหลวงเทศาภิบาล และบรรดานักปกครองข้าราชการมหาดไทยให้ตระหนักเรื่องนี้

เพราะทรงเห็นว่า ข้าราชการนักปกครองทั้งหลายยังยึดติดอยู่กับการเลื่อนชั้นในรูปแบบเดิม ยังไม่ได้เข้าใจในหลักการของระบบเกียรติยศของการปกครองแบบใหม่ และการที่จะได้รับเกียรติยศเหล่านี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น และได้รับโดยง่ายดายเกินควร เพื่อรักษาความสูงค่าของเกียรติในแต่ละชั้น ดังความว่า

“ในการที่เจ้ากระทรวงต่างๆ กราบบังคมทูลขอให้ข้าราชการในกระทรวงนั้นๆ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตร์ไม่ใคร่เป็นระเบียบแบบแผน มักเข้าใจเสียว่าสัญญาบัตร์ยศเป็นรางวัลสำหรับตัวคนที่มีความชอบ ใครทำดีก็หมายจะให้คนนั้นได้เลื่อนยศขึ้นโดยลำดับ อย่างนี้จะเป็นทางให้ยศถานันดรศักดิ์ฟั่นเผือเกินกว่าสมควรไป”

ประกอบกับระเบียบการขอเกียรติยศ รวมไปถึงการขึ้นเงินเดือนที่พระองค์ใช้นั้นต้องขึ้นอยู่กับการกระทำที่มากกว่าการทำหน้าที่ปกติได้ดี ไม่เพียงเท่านั้นยังต้องเป็นการก่อความชอบเป็นพิเศษเฉพาะ พร้อมกันนั้นทรงวางหลักการที่ข้าราชการนักปกครองจะไม่ได้รับเกียรติยศเหล่านี้เร็วเกินไป

ผู้หญิงชาวแสก เมืองนครพนม กรมดำรง ตรวจราชการ ความเชื่อสมัยรัชกาลที่ 5 ข้าราชการมหาดไทย
ผู้หญิงชาวแสก (พูดภาษาตระกูลมอญ-เขมร) เมืองนครพนม กำลังเล่นรำกระทบไม้ ในพิธีถวายต้อนรับสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ คราวเสด็จตรวจราชการมณฑลอีสาน พ.ศ. 2449 (ภาพเก่าจาก หอจดหมายเหตุแห่งชาติ)

กระบวนการดังกล่าวจึงเป็นทั้งการควบคุมและกระตุ้นให้ข้าราชการนักปกครองทั้งหลายมุ่งมั่นมากขึ้น และพร้อมที่จะเข้าไปทำงานในที่ทุรกันดาร หรือเมื่ออยู่ในตำแหน่งใดก็จะต้องกระทำการให้ปรากฏเป็นความชอบพิเศษ

ไม่เช่นนั้นการขอรับพระราชทานเกียรติยศนั้นก็จะ “ไม่มีผลอันใดและบางทีกลับจะถูกติเตียนให้ด้วย”

การที่ทรงกำชับเช่นนี้ก็เพื่อจะให้มีการกลั่นกรองที่เข้มงวดมากขึ้น และไม่ต้องการให้ข้าราชการรู้สึกว่า การได้รับพระราชทานสัญญาบัตรขึ้นอยู่กับการทำงานในหน้าที่เพียงอย่างเดียว

เพื่อที่จะรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของอำนาจที่ปันจากพระมหากษัตริย์ภายใต้อุดมการณ์แบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ นักปกครองข้าราชการมหาดไทยต้องตระหนักว่า ตนเองไม่อาจเป็นผู้กำหนดขอบเขตอำนาจ เงินเดือน และเกียรติยศนั้นเองได้ แต่เป็นสิ่งที่พระมหากษัตริย์พระราชทานมา

เหตุนี้ทำให้ข้าราชการนักปกครองกลายเป็นข้าราชการที่ผูกเข้ากับสถาบันพระมหากษัตริย์โดยตรง ต่างจากข้าราชการสมัยก่อนหน้า ที่มักจงรักภักดีต่อมูลนายเหนือตนมากกว่าพระมหากษัตริย์

อ่านเพิ่มเติม : 

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

ภูวดล ศรีวิไล. เสนาอำมาตย์ อำนาจมหาดไทย. กรุงเทพฯ: มติชน, 2567.

สั่งซื้อหนังสือเล่มนี้ที่เว็บไซต์สำนักพิมพ์มติชนได้ที่นี่ 


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 19 มิถุนายน 2568