ผู้เขียน | นิติพัฒน์ บุญชู |
---|---|
เผยแพร่ |
“จอมพล ป. พิบูลสงคราม” สมาชิกผู้ร่วมก่อการปฏิวัติ 2475 สมัยที่ศึกษาอยู่ที่ฝรั่งเศส เคยโดนฝรั่งเหยียดสยามว่าเป็นเพียง “เมืองเหาเมืองเลน”
กลุ่มคณะปฏิวัติสยาม 2475 เป็นกลุ่มคนที่มีความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปสู่ระบอบประชาธิปไตย สมาชิกส่วนใหญ่เป็นนักเรียนหรือนักเรียนทหารที่มีโอกาสได้เดินทางไปศึกษายังทวีปยุโรป ทำให้ได้เห็นและสัมผัสความเจริญของชาวตะวันตก
หนึ่งในนั้นคือจอมพล ป. พิบูลสงคราม และ พลโท ประยูร ภมรมนตรี ที่ได้พบปะกันเป็นครั้งแรกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในสมัยที่ยังศึกษาอยู่ ทั้งคู่ก็มีโอกาสเที่ยวเล่น และพบปะสังสรรค์กันบ่อยครั้งตามสถานที่ต่าง ๆ

เป็นที่มาของเหตุการณ์ “เหยียดเชื้อชาติ” ที่ทำให้จอมพล ป. ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะเข้าร่วมก่อการปฏิวัติเมื่อ พ.ศ. 2475
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อครั้ง จอมพล ป. และ พลโท ประยูร เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเยอรมนีด้วยกัน แต่ระหว่างเดินทางกลับฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเทศที่กำลังศึกษาอยู่ ทั้งคู่ได้ถูกเหยียดหยามโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของฝรั่งเศสอย่างหยาบคาย ชนิดที่ใครฟังก็ต้องรู้สึกโมโหไปตาม ๆ กัน
พลโท ประยูร เล่าเรื่องราวไว้ในนิตยสาร ฟ้าเมืองไทย ว่า
“ครั้งที่พลโท ประยูร ภมรมนตรี ได้มีโอกาสไปเที่ยวประเทศเยอรมันกับท่านจอมพล ป. พิบูลสงคราม เมื่อตอนเดินทางกลับเข้าประเทศฝรั่งเศสก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเหยียดหยามหาว่าเป็นประเทศที่อยู่ในเครือการปกครองของฝรั่งเศสในอินโดจีน
ในที่สุดเมื่อถกเถียงกันอยู่พักหนึ่งเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสก็จำนน แต่ในขณะที่เถียงเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสก็บอกว่า
เป็นเมืองเหาเมืองเลนจะรู้จักได้อย่างไร ควรจะมาอยู่เป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสเสียจะได้รุ่งเรือง
ทำให้จอมพล ป. พิบูลสงครามเดือดดาลและบอกกับเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสว่าระวังให้ดีเถอะ สักวันหนึ่งไอ้หมัดไอ้เหาจะกัดให้ประเทศฝรั่งเศสเน่าไปทั้งชาติ
ข้าพเจ้า (พลโท ประยูร) จึงได้ถือโอกาสชวนจอมพล ป. พิบูลสงครามให้ร่วมคิดเปลี่ยนแปลงการปกครองเพื่อปราบฝรั่งเศสเอาดินแดนคืน (เช่น ดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงที่เสียให้แก่ฝรั่งเศสในครั้ง ร.ศ. 112 โดยผู้เขียนบทความ)
ซึ่งท่านจอมพลกำลังขุ่นแค้นตกลงใจบอกเอาเลย จึงได้เพื่อนร่วมคิดคู่ชีวิตที่สำคัญที่สุดมาร่วมมือร่วมคิดในการเปลี่ยนแปลงการปกครองกันต่อไป”

จากคำดูถูกดูแคลนในครั้งนั้น ทำให้ทั้งสองเกิดเลือดรักชาติมาตุภูมิเดือดพล่านขึ้นหน้า พร้อมกลับมาเริ่มตั้งคำถามต่อปัญหาที่มีในชาติบ้านเกิดด้วยความคลางแคลงใจว่า ทำไมจึงเป็นอย่างที่เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสผู้นั้นพูด ทำไมบ้านเมืองจึงมีความเจริญทัดเทียมกับชาวยุโรปไม่ได้
พลโท ประยูร ยังเล่าต่อถึงปฏิกิริยาความหงุดหงิดของจอมพล ป. ซึ่งเป็นคำพูดที่สะท้อนภาพของสังคมไทยในมุมมองของจอมพล ป. ในช่วงเวลานั้นได้เป็นอย่างดี ที่ใครฟังก็ต้องชวนคิดตามและเจ็บแสบไปพร้อม ๆ กัน ด้วยคำพูดที่ว่า

“แทนที่จะมีศอกมีเข่าไว้สำหรับงอมืองอเท้าเพื่อเคลื่อนไหวร่างกายอย่างมนุษย์ธรรมดา แต่กลับต้องเอามายันพื้นให้ร่างกายหมอบคลานไปเหมือนแมวเหมือนสุนัข
เมื่ออยู่ในเมืองไทยทำไมจึงถูกเรียกไอ้ถูกใช้คำพูดมึงกูเหมือนเป็นทาสในเรือนท่าน ครั้นออกไปต่างประเทศทำไมจึงถูกพวกมนุษย์ผิวขาวเย้ยหยันเอาเหมือนเป็นขี้ข้าในเมืองขึ้น
ทำไมบ้านเมืองจึงไม่เจริญรุ่งเรืองทัดเทียมเขา ไม่มีถนนหนทางให้รถวิ่งได้อย่างเขา จะขึ้นเหนือก็ติดอยู่แค่ดอนเมือง จะลงใต้ก็ไปได้แค่ทางรถไฟบางกะปิ ทำไมชาวนาชาวสวนจึงอดอยากยากจน ปราศจากที่กินที่อยู่เป็นสมบัติของตนเอง
คิดเท่านี้ก็เห็นแล้วว่าปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมเหล่านี้ได้ถูกปล่อยปละละเลยกันมาเนิ่นนานเกินสมควร เห็นกันว่าเหล่านี้เป็นผลของการปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่เก่าแก่ล้าหลัง เห็นกันว่าถึงเวลาจะต้องแก้ไข แต่จะแก้กันด้วยวิธีใดเล่า”
เหตุการณ์และบทสนทนาที่เกิดขึ้น ถือว่ามีส่วนสำคัญในการตัดสินใจและทำให้ทั้งคู่เข้าร่วมเป็นหนึ่งในกลุ่มคณะราษฎร อันมีจุดประสงค์เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475
อ่านเพิ่มเติม :
- พิบูลสงคราม ราชทินนามผู้ว่าจังหวัดนครนายก ทำไมเป็นนามสกุล จอมพล ป.
- บันทึกรัก ท่านผู้หญิงละเอียด-จอมพล ป. พิบูลสงคราม หยอดคําหวานผ่านจดหมาย
- 23 ก.พ. 2477 หลวงพิบูลสงคราม ถูกลอบสังหารเป็นครั้งแรก ท่านรอดตายเหมือนปาฏิหาริย์?
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
พล.ท. ประยูร ภมรมนตรี. (2517). “ฟ้าเมืองไทย”. รายสัปดาห์ ฉบับที่ 271. หน้า 8-9. เรียกใช้เมื่อ 23 เมษายน 2568
อ. พิบูลสงคราม. (2518). จอมพล ป. พิบูลสงคราม. เล่ม 1. กรุงเทพฯ: ศูนย์การพิมพ์. หน้า 20-21. เรียกใช้เมื่อ 23 เมษายน 2568
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 25 เมษายน 2568