ผู้เขียน | กมลวรรณ ยุทธศิลป์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เพอร์วิติน ยาลับแสนอันตราย เบื้องหลังปฏิบัติการสุดอำมหิต ช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่ 2
เบื้องหลังปฏิบัติการสุดโหดของกองทัพนาซีช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากการถูกปลูกฝังแนวคิดชาตินิยมสุดโต่ง ต่อต้านยิว ยังมี “ยา” เป็นตัวกระตุ้น ซึ่งยานี้คือ เพอร์วิติน ยาเม็ดเล็ก ๆ ที่ขณะนั้นพวกนาซีมองว่าช่วยเพิ่มพละกำลังได้อย่างมหาศาล และมองเป็น “ยาวิเศษ” ที่ช่วยขับเคลื่อนการรุกรานของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซี ในสงครามโลกครั้งที่ 2 (ค.ศ. 1939-1945)
ในปี 1937 บริษัทเวชภัณฑ์เยอรมัน แทมม์เลอร์-แวร์เก (Temmler Werke) คิดค้น “เพอร์วิติน” (Pervitin) ยาที่มีส่วนผสมหลักเป็นเมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) (หรือไทยเรียกยาไอซ์) สารเสพติดที่มีความรุนแรงมากกว่ายาบ้า (Amphetamine) มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท เมื่อใช้ในปริมาณมาก ๆ จะทำให้เกิดอาการหลอนประสาท หูแว่ว หวาดระแวง ควบคุมตัวเองไม่ได้

โฆษณาอ้างว่า เพอร์วิตินช่วยแก้อาการเหนื่อยล้า ซึมเศร้า และทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ทำงานได้ทั้งวันโดยไม่รู้สึกเหนื่อย ยาตัวนี้มีหลายรูปแบบทั้งเป็นเม็ดยา หรือเป็นช็อกโกแลตแท่ง
ชาวเยอรมันจึงสามารถหาซื้อเพอร์วิตินได้ทั่วไป โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์!!
“เมายา กล้าหาญ และบ้าคลั่ง”
ไม่ว่าจะเป็นปี 1939 เหตุการณ์การรุกรานโปแลนด์ และต้นทศวรรษ 1940 กองทัพนาซีใช้กลยุทธ์สงครามสายฟ้า (Blitzkrieg) ที่มีความรุนแรงสูง ทำให้สามารถยึดครองเดนมาร์ก นอร์เวย์ ได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะบุกต่อไปยังฮอลแลนด์ เบลเยียม และฝรั่งเศส
ทหารนาซีรบต่อเนื่องนานถึง 10 วันใน “สมรภูมิดันเคิร์ก” ที่ฝรั่งเศส โดยไม่หยุดพัก แน่นอนว่า การใช้ยาเพอร์วิติน ส่งผลให้อยู่ในสภาวะตื่นตัวและมีอาการประสาทหลอน ราวกับพวกเขาเป็นเครื่องจักรสังหารที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย!
อีกทั้งมีการแจกจ่ายเพอร์วิตินมากถึง 35 ล้านเม็ดให้กับทหารเยอรมันในเวลาเพียง 4 เดือน เรียกได้ว่ามันเป็น “น้ำมันหล่อลื่นเครื่องจักรมฤตยู” ของกลไกสงครามนาซีอันโหดเหี้ยมเลยทีเดียว
แต่แล้วด้านมืดของเพอร์วิตินก็ปรากฏ

ทหารจำนวนมากมีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ เหงื่อไหลท่วมตัว หน้ามืด ที่แย่สุดคือ อาการทางจิตประสาท หวาดระแวง เห็นภาพหลอน และอาการโรคทางจิตเวชรุนแรง
มีจดหมายมากมายที่ทหารเขียนกลับบ้าน วิงวอนครอบครัวให้ส่งเพอร์วิตินมาเพิ่ม เพราะเมื่อฤทธิ์ยาหมด พวกเขาจะตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าอย่างหนัก ร่างกายหมดแรง และต้องการยาอีกเพื่อให้รู้สึกเป็นปกติ
รัฐบาลเยอรมันจึงตระหนักถึงปัญหา โดยในปี 1941 ได้ประกาศให้เพอร์วิตินเป็นยาที่ต้องมีใบสั่งแพทย์เท่านั้น แต่ก็สายเกินไป วัฒนธรรมการใช้สารเสพติดได้ฝังรากลึกในกองทัพและประชาชนไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม การใช้เพอร์วิตินไม่ได้มีแต่ฝ่ายเยอรมัน เพราะฝั่งทหารอเมริกันและอังกฤษก็ใช้ เบนซีดรีน (Benzedrine) แอมเฟตามีนสัญชาติอเมริกันที่มีฤทธิ์คล้ายกัน หรือแม้กระทั่งญี่ปุ่น ก็ให้นักบินกามิกาเซ่รับเมทแอมเฟตามีนปริมาณสูงก่อนภารกิจพลีชีพ
ตำนานทหารชาวฟินน์ หนีตายด้วยไอซ์ 30 เม็ด!
เหตุการณ์สุดบ้าบิ่นของการใช้เพอร์วิตินจนเป็นที่กล่าวขานในวงกว้าง เกิดขึ้นช่วงสงครามต่อเนื่อง ระหว่างฟินแลนด์ (ได้รับการสนับสนุนจากนาซีเยอรมัน) กับโซเวียต ในเดือนมีนาคม ปี 1944 เป็นเรื่องราวของ “ไอโม โคยวูแนน” (Aimo Koivunen) ทหารฟินแลนด์หน่วยสกีลาดตระเวน เมื่อทั้งเขาและสหายทหารต้องหลบหนีการไล่ล่าของทหารโซเวียตในป่าทางเหนืออันหนาวเหน็บ
ด้วยความสิ้นหวัง ไอโมตัดสินใจใช้เพอร์วิติน แต่เพราะสวมถุงมือหนา เขาจึงเทยาทั้งหมดราว 30 เม็ดลงในมือและกลืนลงไปพร้อมหิมะ!

เพอร์วิตินทำให้ไอโมมีกำลังช้างสาร เขาสกีด้วยความเร็วสูงจนทิ้งเพื่อนไว้ข้างหลัง สติพร่ามัวทำให้สูญเสียอุปกรณ์สำคัญทั้งปืนและอาหาร เหลือเพียงเข็มทิศเก่า ๆ อันหนึ่ง
เมื่อฤทธิ์ยาหมด เขาต้องเผชิญอุณหภูมิติดลบโดยไร้อุปกรณ์เอาชีวิตรอด ไอโมหาอาหารจากเปลือกไม้ จับสัตว์เล็กด้วยมือเปล่า ใช้ดวงอาทิตย์และดวงดาวนำทาง มุ่งสู่แนวรบฟินแลนด์ทางตะวันตก ระหว่างทางต้องหลบทหารโซเวียตและสัตว์ป่าหลายครั้ง
หลังเดินทาง 400 กิโลเมตรในสภาพแวดล้อมโหดร้าย เขาพบหมู่บ้านเล็ก ๆ ซึ่งแท้จริงเป็นกับดักที่ทหารฟินแลนด์สร้างขึ้นเพื่อล่อทหารโซเวียต ไอโมเหยียบกับดักระเบิดและเจอระเบิดอีกครั้งเมื่อพยายามเข้าบ้านพัก
ในที่สุด ทหารฟินแลนด์พบเขาในสภาพสะบักสะบอม แทบไม่เหลือความเป็นมนุษย์ น้ำหนักเหลือเพียง 43 กิโลกรัม (จากปกติ 70 กิโลกรัม) หัวใจเต้น 200 ครั้งต่อนาที พร้อมบาดแผลสาหัสหลายแห่ง
อย่างไรก็ตาม หลังสงครามสิ้นสุด ไอโมใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายกับครอบครัว จนเสียชีวิตในวัย 71 ปี
สำหรับชะตากรรมของ เพอร์วิติน ยาชนิดนี้ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อผลข้างเคียงและการเสพติดของทหารจำนวนมากปรากฏชัดยิ่งขึ้น ประกอบกับการใช้อย่างแพร่หลายในหมู่พลเรือน จึงมีการลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยสารออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทขององค์การสหประชาชาติ นำไปสู่การควบคุมอย่างเข้มงวดในระดับนานาชาติตั้งแต่ปี 1971 เรื่อยมาจนปัจจุบัน
อ่านเพิ่มเติม :
- วอยแท็ก พลทหารหมี แห่งสงครามโลกครั้งที่ 2
- สงครามโลกครั้งที่ 2 อาจไม่จบ หาก “รัฐประหาร” สำเร็จ ก่อนการประกาศยอมแพ้ของจักรพรรดิ
- รถถังไทเกอร์ “รถถังที่น่ากลัวที่สุด” ในสงครามโลกครั้งที่ 2
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
‘เพอร์วิติน’ ยาวิเศษเพิ่มประสิทธิภาพนายทหารในสงครามโลกครั้งที่ 20. ออนไลน์.
Nazis Dosed Soldiers with Performance-Boosting ‘Superdrug’. online.
Pervitin: how drugs transformed warfare in 1939-45. online.
Over-Dosed on Amphetamines, Stepped On a Mine, Laid in a Ditch, Skied 250 Miles To Escape The Russians. online.
How Methamphetamine Became a Key Part of Nazi Military Strategy. online.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 15 มีนาคม 2568