ผู้เขียน | วิภา จิรภาไพศาล |
---|---|
เผยแพร่ |
ศิลปกรรมสมัยกรุงศรีอยุธยาในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล นั้น “วัดปรางค์หลวง” ตำบลบางม่วง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี อาจนับได้ว่าเป็น “สถาปัตยกรรม” สมัยอยุธยาที่เก่าแก่ที่สุด
ที่มาของวัด
หนังสือประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม 2 ของกรมศาสนา ระบุว่า “สร้างในสมัยของพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) แห่งกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ประมาณ พ.ศ. 1904 โดยกษัตริย์หรือผู้มีบรรดาศํกดิ์มรสมัยนั้นสร้างขึ้น โดยที่มีปรางค์สร้างขึ้นไว้พร้อมกับการสร้างวัด…”

แต่เดิมวัดนี้มีชื่อว่า “วัดหลวง” ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส มาเห็นองค์พระปรางค์ ที่สร้างขึ้นไว้พร้อมกับการสร้างวัด จึงได้เปลี่ยนนามวัดเป็น “วัดปรางค์หลวง” เป็นวัดสำคัญของชุมชนมาก่อน ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของวัดอยู่ริมฝั่งตะวันตกของคลองอ้อมนนท์ หรือเดิมคือแม่น้ำอ้อมนนทบุรี ก่อนการขุดลัดในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง จึงนับว่าเป็นโบราณสถานที่อยู่ในเส้นทางคมนาคมเก่า ก่อนเกิดเส้นทางใหม่ในสมัยอยุธยาตอนปลาย
เก่าจริงไหม ดูจากอะไร
เนื่องจากพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เคยเป็นชุมชนขนาดเล็กระดับหมู่บ้าน กระจายตัวตามสองฝั่งลำน้ำมาก่อน ระยะแรกๆ คงมีเฉพาะพระพุทธรูปที่ได้เคลื่อนย้ายลงมาเป็นพระประธานตามวัดต่างๆ ของชุมชน
ขณะที่หลักฐานศิลปกรรมที่เป็นสิ่งก่อสร้างซึ่งเป็นของถาวรติดที่ และคงถูกสร้างขึ้นโดยช่างจากราชธานี และช่างพื้นถิ่น น่าจะสื่อถึงความสำคัญของชุมชนที่ชัดเจนขึ้น ในปัจจุบันได้พบงานก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดและยังหลงเหลืออยู่ในบริเวณนี้ คือโบราณสถานภายในวัดแห่งนี้
วัดแห่งนี้มี “แผนผัง” ตามระเบียบของวัดสมัยอยุธยาในช่วงพุทธศตวรรษที่ 19-22 คือ ปรางค์ประธานที่ตั้งเป็นหลักของวัด มีอาคารที่เป็นอุโบสถอยู่ด้านหน้าของปรางค์ซึ่งเป็นทิศเหนือ แกนทิศหลักของวัดจึงเป็นแนวเหนือ-ใต้ ตั้งแต่สมัยแรกสร้าง
การขุดแต่งยังค้นพบ “ฐานอาคารเดิม” ที่ซ้อนทับอยู่ใต้ฐานอุโบสถในปัจจุบันวางตัวไปในทางเดียวกัน ต่างไปจากวัดโดยทั่วไปที่เจดีย์ประธาน วิหาร อุโบสถ จะเรียงกันตามแนวทิศแบบมงคลคือ ตะวันตก-ตะวันออก

ขณะที่ศิลปกรรมหลักของวัดคือ “ปรางค์ประธาน” แต่เดิมเชื่อกันว่ามีอายุเก่าแก่ ถึงสมัยอยุธยาตอนต้น สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 1904 แต่ต่อมาได้รับการศึกษากำหนดอายุสมัยจากรูปแบบสถาปัตยกรรมและงานปูนปั้นประดับว่าอยู่ราวกลางพุทธศตวรรษที่ 21 (ตั้งแต่ช่วง พ.ศ. 2050)
นอกจากนี้ “ใบเสมา” ที่สลักจากหินชนวนสีเทาขนาดใหญ่ มีความสูงจากฐานถึงยอดไม่นับรวมเดือย ราว 1 เมตร ก็เป็นใบเสมาที่อายุอยู่ในช่วงเดียวกับ “ปรางค์ประธาน” ที่กล่าวไปข้างต้น ซึ่งเป็นหลักฐานด้านศิลปกรรมสมัยอยุธยาที่อาจกำหนดอายุได้เก่าแก่ที่สุดชิ้นหนึ่ง และที่น่าสนใจคือปัจจุบันยังไม่เคยพบใบเสมาแบบเดียวกันในย่านนี้

เมื่อประมวลวิเคราะห์ ศิลปกรรมและงานก่อสร้าง วัดแห่งนี้อาจนับได้ว่าเป็น “สถาปัตยกรรม” สมัยอยุธยาที่เก่าแก่ที่สุดใน กทม. และปริมณฑลโดยรอบเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา (หรือ “หัวเมืองปากใต้” สมัยกรุงศรีฯ) ทั้งช่วยสร้างหมุดหมายการกำหนดอายุและภาพของชุมชนในระยะแรกของพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
อ่านเพิ่มเติมเติม :
- อิทธิพลศิลปะอยุธยาตามเมืองต่างๆ ในความทรงจำของช่างเชื้อสาย “โยเดีย”
- “คนกรุงศรีอยุธยา” บันทึกเกี่ยวกับ “กรุงศรีอยุธยา” ไว้อย่างไร?
- “หัวเมืองปากใต้” สมัยกรุงศรีฯ อยู่ที่ไหน? ใช่ “ปักษ์ใต้” หรือไม่?
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
ผู้เขียน ไม่ระบุ. ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม 2, กรมการศาสนา กระทรวงศึกษา พ.ศ. 2526.
<http://m-culture.in.th/album/117123 > สืบค้น 9 มกราคม 2568
ผศ. ดร. ประภัสสร์ ชูวิเชียร. อยุธยาในย่านกรุงเทพฯ ศิลปกรรมที่สัมพันธ์กับแม่น้ำลำคลอง, สำนักพิมพ์มติชน 2561.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 10 มกราคม 2568.