
ผู้เขียน | วิภา จิรภาไพศาล |
---|---|
เผยแพร่ |
สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี มีกลุ่มหัวเมืองแห่งหนึ่งเรียกว่า “หัวเมืองปากใต้” ที่ราชสำนักให้ความสนใจเป็นพิเศษ ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 21 หรือ พ.ศ. 2000 ลงมา เพราะมีบทบาทต่อกรุงศรีอยุธยาเป็นอย่างมากในฐานะเส้นทางออกสู่ทะเล
คำว่า “ปากใต้” กับ “ปักษ์ใต้”
ก่อนจะกล่าวถึงหัวเมืองปากใต้ ขอเริ่มต้นจากคำว่า “ปากใต้” ที่ปัจจุบันอาจไม่ค่อยได้ยิน, ไม่ค่อยคุ้นเคยกันเท่ากับคำว่า “ปักษ์ใต้” แล้วทั้งสองคำนี้มีความแตกต่างกันหรือไม่?

พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ทรงวินิจฉัยไว้ในนิตยสารประมวลมารค ปีที่ 2 ฉบับที่ 41 วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2478 ว่า
“ ‘ปากใต้’ ” หรือ “ ‘ปักใต้’ ” เป็นคำไทยไม่ใช่คำสันสกฤต ทรงยกคำในภาษาไทย ถิ่นไทยใหญ่ว่า ‘ปัก’ ตรงกับ ‘ปาก’ ของไทยกรุงสยาม และใกล้กับคำไทยอัสสัมหรือไทยอาสามว่า ‘ผัก’ ซึ่งตรงกับไทยกรุงสยามว่า ‘ฟาก’ (ฟากฝั่ง) อนึ่ง ภาษาไทยใหญ่ (เงี้ยว) เรียกประตูว่า ‘ฝักตู’ จึงทรงเห็นว่าคำ ‘ปัก’ และ ‘ปาก’ เป็นคำเดียวกับ ‘ผัก’ และ ‘ฟาก’ ” (เน้นคำโดยผู้เขียน)
เอกสารโบราณอย่าง พระราชกำหนดเก่า ใช้คำว่า “ปากใต้” เช่น กฎให้แก่พระสุรัศวะดี ที่ตราขึ้นเมื่อปีขาล จัตวาศก จ.ศ. 1084 (พ.ศ. 2265) ว่า “ด้วยมีพระราชกำหนดกฎหมายไปไว้สำหรับหัวเมืองเอกเมืองโท เมืองตรี เมืองจัตวา ปากใต้ ฝ่ายเหนือ” (เน้นคำโดยผู้เขียน)
กฎหมายตราสามดวง ก็เขียนว่า “ปากใต้” เช่น ลักษณะพระไอยการกระบดศึก มาตรา 9 ว่า “9 มาตราหนึ่งเมืองปากใต้ ฝ่ายเหนือซึ่งขึ้นแก่กรุงเทพมหานครให้อ่อนน้อมนำดอกไม้ทองเงินเครื่องราชบรรณาการมาถวายตามราชประเพณีแต่ก่อน” (เน้นคำโดยผู้เขียน)

แต่ “ปากใต้” ไม่ใช่ “ปักษ์ใต้”
หัวเมืองปากใต้ของกรุงศรีอยุธยา คือหัวเมืองที่ตั้งอยู่บนรอยต่อระหว่างลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างกับชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนบน มีทั้งหมด 8 หัวเมือง ได้แก่ เมืองนนทบุรี เมืองธนบุรี เมืองนครชัยศรี เมืองสาครบุรี เมืองสมุทรสงคราม เมืองเพชรบุรี เมืองราชบุรี และเมืองสมุทรปราการ
ปัจจุบันทั้ง 8 หัวเมืองมีพื้นที่อยู่ทางตอนใต้ของอยุธยาจนถึงอ่าวไทย คือ นนทบุรี นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และกรุงเทพมหานคร
หัวเมืองปากใต้มีความสําคัญสูงมาก ดังจะเห็นได้จากการขุดคลองลัดแม่น้ำอ้อมและปรับปรุงเส้นทางน้ำหลายครั้ง เพื่อความสะดวกในการเดินทางขนส่งค้าขายทางทะเลตอนใต้กับกรุงศรีอยุธยา เช่น การขุดคลองลัดบางกอก คลองลัดบางกรวย คลองลัดปทุมธานี คลองลัดนนทบุรี และการขุดคลองมหาชัยในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ

ด้วยเหตุนี้จึงพบงานศิลปกรรมโบราณที่เก่ากว่าสมัยรัตนโกสินทร์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีหลักฐานตามเส้นทางคมนาคมทางน้ำเดิม ตั้งแต่บางใหญ่ บางกรวย ของ จ. นนทบุรี บางพลัด บางกอกน้อย ตลิ่งชัน บางระมาด บางพรม บางเชือกหนัง บางแวก บางจาก คลองด่าน บางขุนเทียน คลองสนามไชย บางยี่เรือ บางกอกใหญ่ ดาวคะนอง ราษฎร์บูรณะ จนถึงฝั่งตะวันออกแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพฯ ไปพระประแดง สมุทรปราการ อันเป็นปากแม่น้ำเจ้าพระยา และเกี่ยวโยงถึงมหาชัยหรือสมุทรสาครที่เป็นปากน้ำท่าจีน
ย่านที่กล่าวมานั้นพบงานศิลปกรรมที่มีอายุสมัยอยุธยา บางแห่งยังได้รับการดูแลรักษาปฏิสังขรณ์ในสมัยรัตนโกสินทร์ด้วย
ส่วน “ปักษ์ใต้” นั้นเป็นหัวเมืองสมัยรัตนโกสินทร์ หรือภาคใต้ของไทยในปัจจุบัน มีทั้งหมด 14 จังหวัด
อ่านเพิ่มเติม :
อ้างอิง :
สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์. “ปักษ์ใต้” ใน, สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคใต้, มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ จัดพิมพ์เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542.
ผศ. ดร. ประภัสสร์ ชูวิเชียร. อยุธยาในย่านกรุงเทพฯ ศิลปกรรมที่สัมพันธ์กับแม่น้ำลำคลอง, สำนักพิมพ์มติชน 2561.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 9 มกราคม 2567.