“หัวเมืองปากใต้” สมัยกรุงศรีฯ อยู่ที่ไหน? ใช่ “ปักษ์ใต้” หรือไม่?

กรุงศรีอยุธยา ส่งออก ของป่า เช่น หนังกวาง ไป ญี่ปุ่น อโยธยา ปากใต้
ภาพ “ยูเดีย” (อาณาจักรอยุธยา) วาดโดยโยฮันเนส วิงโบนส์ (Johannes Vingboons) ต้นสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี มีกลุ่มหัวเมืองแห่งหนึ่งเรียกว่า “หัวเมืองปากใต้” ที่ราชสำนักให้ความสนใจเป็นพิเศษ ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 21 หรือ พ.ศ. 2000 ลงมา เพราะมีบทบาทต่อกรุงศรีอยุธยาเป็นอย่างมากในฐานะเส้นทางออกสู่ทะเล 

คำว่า “ปากใต้” กับ “ปักษ์ใต้”  

ก่อนจะกล่าวถึงหัวเมืองปากใต้ ขอเริ่มต้นจากคำว่า “ปากใต้” ที่ปัจจุบันอาจไม่ค่อยได้ยิน, ไม่ค่อยคุ้นเคยกันเท่ากับคำว่า “ปักษ์ใต้” แล้วทั้งสองคำนี้มีความแตกต่างกันหรือไม่?

กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ หัวเมืองปากใต้
กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ (ภาพ : Wikimedia Commons)

พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ทรงวินิจฉัยไว้ในนิตยสารประมวลมารค ปีที่ 2 ฉบับที่ 41 วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2478 ว่า

‘ปากใต้’ ” หรือ “ ‘ปักใต้’ ” เป็นคำไทยไม่ใช่คำสันสกฤต ทรงยกคำในภาษาไทย ถิ่นไทยใหญ่ว่า ‘ปัก’ ตรงกับ ‘ปาก’ ของไทยกรุงสยาม และใกล้กับคำไทยอัสสัมหรือไทยอาสามว่า ‘ผัก’ ซึ่งตรงกับไทยกรุงสยามว่า ‘ฟาก’ (ฟากฝั่ง) อนึ่ง ภาษาไทยใหญ่ (เงี้ยว) เรียกประตูว่า ‘ฝักตู’ จึงทรงเห็นว่าคำ ‘ปัก’ และ ‘ปาก’ เป็นคำเดียวกับ ‘ผัก’ และ ‘ฟาก’ ” (เน้นคำโดยผู้เขียน)

เอกสารโบราณอย่าง พระราชกำหนดเก่า ใช้คำว่า “ปากใต้” เช่น กฎให้แก่พระสุรัศวะดี ที่ตราขึ้นเมื่อปีขาล จัตวาศก จ.ศ. 1084 (พ.ศ. 2265) ว่า “ด้วยมีพระราชกำหนดกฎหมายไปไว้สำหรับหัวเมืองเอกเมืองโท เมืองตรี เมืองจัตวา ปากใต้ ฝ่ายเหนือ” (เน้นคำโดยผู้เขียน)

กฎหมายตราสามดวง ก็เขียนว่า “ปากใต้” เช่น ลักษณะพระไอยการกระบดศึก มาตรา 9 ว่า “9  มาตราหนึ่งเมืองปากใต้ ฝ่ายเหนือซึ่งขึ้นแก่กรุงเทพมหานครให้อ่อนน้อมนำดอกไม้ทองเงินเครื่องราชบรรณาการมาถวายตามราชประเพณีแต่ก่อน” (เน้นคำโดยผู้เขียน)

กฎหมายตราสามดวง
กฎหมายตราสามดวง (ภาพจาก “พระมหากษัตริย์ ในพระบรมราชจักรีวงศ์กับประชาชน” จัดพิมพ์เป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี)

แต่ “ปากใต้” ไม่ใช่ “ปักษ์ใต้” 

หัวเมืองปากใต้ของกรุงศรีอยุธยา คือหัวเมืองที่ตั้งอยู่บนรอยต่อระหว่างลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างกับชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนบน มีทั้งหมด 8 หัวเมือง ได้แก่ เมืองนนทบุรี เมืองธนบุรี เมืองนครชัยศรี เมืองสาครบุรี เมืองสมุทรสงคราม เมืองเพชรบุรี เมืองราชบุรี และเมืองสมุทรปราการ

ปัจจุบันทั้ง 8 หัวเมืองมีพื้นที่อยู่ทางตอนใต้ของอยุธยาจนถึงอ่าวไทย คือ นนทบุรี นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และกรุงเทพมหานคร

หัวเมืองปากใต้มีความสําคัญสูงมาก ดังจะเห็นได้จากการขุดคลองลัดแม่น้ำอ้อมและปรับปรุงเส้นทางน้ำหลายครั้ง เพื่อความสะดวกในการเดินทางขนส่งค้าขายทางทะเลตอนใต้กับกรุงศรีอยุธยา เช่น การขุดคลองลัดบางกอก คลองลัดบางกรวย คลองลัดปทุมธานี คลองลัดนนทบุรี และการขุดคลองมหาชัยในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ

ปากใต้
แม่น้ำลำคลองหลักในพื้นที่หัวเมืองปากใต้ สมัยกรุงศรีฯ ประกอบด้วยแม่น้ำเจ้าพระยาสายปัจจุบัน, แม่น้ำอ้อมสายเก่า บริเวณจังหวัดนนท์ และเส้นทางคลองด่าน-คลองสนามไชย ไปถึงแม่น้ำท่าจีน ที่สมุทรสาคร

ด้วยเหตุนี้จึงพบงานศิลปกรรมโบราณที่เก่ากว่าสมัยรัตนโกสินทร์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีหลักฐานตามเส้นทางคมนาคมทางน้ำเดิม ตั้งแต่บางใหญ่ บางกรวย ของ จ. นนทบุรี บางพลัด บางกอกน้อย ตลิ่งชัน บางระมาด บางพรม บางเชือกหนัง บางแวก บางจาก คลองด่าน บางขุนเทียน คลองสนามไชย บางยี่เรือ บางกอกใหญ่ ดาวคะนอง ราษฎร์บูรณะ จนถึงฝั่งตะวันออกแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพฯ ไปพระประแดง สมุทรปราการ อันเป็นปากแม่น้ำเจ้าพระยา และเกี่ยวโยงถึงมหาชัยหรือสมุทรสาครที่เป็นปากน้ำท่าจีน

ย่านที่กล่าวมานั้นพบงานศิลปกรรมที่มีอายุสมัยอยุธยา บางแห่งยังได้รับการดูแลรักษาปฏิสังขรณ์ในสมัยรัตนโกสินทร์ด้วย

ส่วน “ปักษ์ใต้” นั้นเป็นหัวเมืองสมัยรัตนโกสินทร์ หรือภาคใต้ของไทยในปัจจุบัน มีทั้งหมด 14 จังหวัด 

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์. “ปักษ์ใต้” ใน, สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคใต้, มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ จัดพิมพ์เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542.

ผศ. ดร. ประภัสสร์ ชูวิเชียร. อยุธยาในย่านกรุงเทพฯ ศิลปกรรมที่สัมพันธ์กับแม่น้ำลำคลอง, สำนักพิมพ์มติชน 2561.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 9 มกราคม 2567.