ผู้เขียน | สุทธาสินี จิตรกรรมไทย เจียจันทร์พงษ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เจ้าคุณจอมมารดาสำลี เป็นสตรีสามัญชนที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อย่างยิ่ง ถึงขั้นเมื่อถึงแก่กรรม โปรดให้ใช้คำว่า “พิราลัย” ทั้งยังโปรดให้นำศพเข้ามาบำเพ็ญกุศลในพระบรมมหาราชวัง อันเป็นการขัดประเพณีโบราณ รวมถึงโปรดให้สร้างเมรุขึ้นที่สนามหลวง เพื่อพระราชทานเพลิงศพเป็นการเฉพาะอีกด้วย
เจ้าคุณจอมมารดาสำลี พระชนนีในพระภรรยาเจ้ารัชกาลที่ 5
คุณสำลี เป็นธิดาของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ (ทัต บุนนาค) ต่อมารับราชการเป็นฝ่ายใน และได้เป็นพระสนมเอกในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4
พระราชโอรสและราชธิดาในรัชกาลที่ 4 ที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาสำลี มี 5 พระองค์ ซึ่งรวมถึง สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ในรัชกาลที่ 5 และ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงทิพยรัตนกิริฏกุลินี หรือ “เสด็จอธิบดี”

พระราชโอรสและพระราชธิดาในรัชกาลที่ 5 ที่ประสูติแต่สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าฯ ซึ่งถือเป็นพระภรรยาเจ้าชั้นลูกหลวง (ลูกของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลก่อนๆ) มี 2 พระองค์ ได้แก่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร และ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ต้นราชสกุล “บริพัตร”
สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าฯ เมื่อครั้งทรงดำรงพระยศเป็น พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี ทรงเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยในรัชกาลที่ 5 อย่างยิ่ง ทรงรับราชการเป็นราชเลขานุการในพระองค์ ทั้งยังทรงเป็นหนึ่งในผู้ถวายการพยาบาลเมื่อครั้งรัชกาลที่ 5 ทรงพระประชวรอีกด้วย
ฉัตรดาว ลีเชวงวงศ์ เล่าไว้ในวิทยานิพนธ์เรื่อง “การเมืองในราชสำนักฝ่ายใน ในสมัยรัชกาลที่ 5” ตอนหนึ่งว่า พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรีทรงได้รับพระเมตตาจากรัชกาลที่ 5 หลายประการ
หนึ่งในนั้นคือ การเลื่อนยศ “เจ้าจอมมารดาสำลี” พระชนนีในพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี เป็น “เจ้าคุณจอมมารดาสำลี”

เท่าที่ปรากฏ การเลื่อนยศมารดาของพระภรรยาเจ้าชั้นลูกหลวง จะเลื่อนยศเฉพาะมารดาของพระอัครมเหสีเท่านั้น ดังเช่น รัชกาลที่ 5 ทรงเลื่อนยศ “เจ้าจอมมารดาเปี่ยม” เป็น “เจ้าคุณจอมมารดาเปี่ยม” เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2428 ด้วยเป็นมารดาของสมเด็จพระอัครมเหสี ซึ่งในเวลานั้นคือ สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา
ฉัตรดาว กล่าวอีกว่า งานศพของเจ้าคุณจอมมารดาสำลีเป็นที่เลื่องลือมาก ด้วยหลังจากท่านสิ้นไปใน พ.ศ. 2443 รัชกาลที่ 5 โปรดให้นำร่างจากบ้านฝั่งธนบุรีเข้ามาตั้งที่หอธรรมสังเวชในพระบรมมหาราชวัง พร้อมทั้งพระราชทานโกศกุดั่นใหญ่เทียบเท่าชั้นบรมวงศ์ ขัดต่อประเพณีโบราณที่นำศพสามัญชนที่ถึงแก่กรรมนอกพระบรมมหาราชวังเข้ามาไว้ในพระราชฐาน
การนี้ ทรงให้เหตุผลว่า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี และสมเด็จฯ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ จะได้ไม่ต้องทรงลำบากข้ามไปบำเพ็ญกุศลถึงฝั่งธนบุรี ทั้งยังโปรดเกล้าฯ ให้ใช้คำว่า “พิราลัย” แทนคำว่า “อนิจกรรม” ซึ่งตามประเพณี คำว่าพิราลัยจะใช้กับบุคคลในระดับเจ้าประเทศราชและสมเด็จเจ้าพระยาเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังโปรดให้สร้างเมรุขึ้นใหม่เป็นพิเศษที่ท้องสนามหลวง เพื่อพระราชทานเพลิงศพเป็นการเฉพาะ และในวันพระราชทานเพลิงศพ รัชกาลที่ 5 พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นลูกเธอในรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 รวมทั้งพระราชนัดดา ทรงเครื่องขาวทุกพระองค์
“เมื่อเปรียบเทียบกับงานพระศพของสมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา ซึ่งในขณะสิ้นพระชนม์ทรงดำรงพระยศเจ้าคุณจอมมารดาเปี่ยม งานศพของเจ้าคุณจอมมารดาสำลีนับว่าได้รับพระราชทานเกียรติยศมากกว่า” ฉัตรดาว ระบุในวิทยานิพนธ์
งานศพพระชนนีในสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี จึงเป็นที่เลื่องลือด้วยปัจจัยเหล่านี้
อ่านเพิ่มเติม :
- “16 มหาสาขา” จุฬาลงกรณราชสันตติวงศ์ มีราชสกุลใดบ้าง พระองค์ใดเป็นต้นราชสกุล?
- ตำนานใน “กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร” พระราชธิดาที่ร.5 ออกพระโอษฐ์ “งามเหมือนเทวดา”
- พระภรรยาเจ้ากับตำแหน่ง “พระอัครมเหสี” ในราชสำนักรัชกาลที่ 5 ใครคือ “เบอร์ 1” ?
- พระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวีผู้อาภัพ เหตุสืบเชื้อสายจาก “บ้านฟากข้างโน้น”
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
ฉัตรดาว ลีเชวงวงศ์. การเมืองในราชสำนักฝ่ายใน ในสมัยรัชกาลที่ 5. วิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญญารัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองและการจัดการปกครอง ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2558.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 10 มกราคม 2568