ผู้เขียน | กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม |
---|---|
เผยแพร่ |
ทรัมป์ชนะเลือกตั้งปี 2024 ถือเป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา ที่ดำรงตำแหน่งไม่ติดต่อกัน
แน่นอนแล้วว่า โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) เป็นผู้ชนะในศึกการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในปี 2024 นี้ ซึ่งชัยชนะในครั้งนี้ได้จารึกประวัติศาสตร์ให้กับเขาเรื่องหนึ่งคือ ทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา ที่ดำรงตำแหน่งไม่ติดต่อกัน
ทรัมป์ดำรงตำแหน่งสมัยแรกระหว่างปี 2017-2021 แต่ในการเลือกตั้งปี 2020 เขาพ่ายแพ้ให้กับ โจ ไบเดน ที่จะดำรงตำแหน่งไปจนถึงเดือนมกราคม 2025
และในปี 2025 ทรัมป์จะกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวอีกครั้ง และหากไม่มี “อุบัติเหตุทางการเมือง” เขาก็จะดำรงตำแหน่งสมัยที่สองระหว่างปี 2025-2029 และจะไม่สามารถกลับมาชิงตำแหน่งประธานาธิบดีได้อีก เพราะรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกากำหนดไว้ให้ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งได้แค่ 2 สมัย 8 ปี เท่านั้น
ตลอดระยะเวลานับแต่ก่อตั้งประเทศเมื่อหลังการประกาศอิสรภาพวันที่ 4 กรกฎาคม ปี 1776 เป็นต้นมา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามักดำรงตำแหน่ง 1 สมัย 4 ปี และ 2 สมัย 8 ปี (แบบติดต่อกัน 2 สมัย) อาจมีประธานาธิบดีที่ถึงแก่อสัญกรรมในตำแหน่งที่อยู่ไม่ครบสมัย หรือบางคนก็ดำรงตำแหน่งถึง 4 สมัยติดต่อกัน
แต่การดำรงตำแหน่ง 2 สมัย แต่ไม่ติดต่อกัน มีเพียง 2 คนเท่านั้น ก็คือ ทรัมป์ และอดีตประธานาธิบดีโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ (Grover Cleveland) โดยคลีฟแลนด์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกระหว่างปี 1885-1889 และสมัยที่สองระหว่างปี 1893-1897
คลีฟแลนด์เกิดที่นิวเจอร์ซีในปี 1837 เขาเติบโตในตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ก ทำงานเป็นทนายความในเมืองบัฟฟาโล จากนั้นเขาก็เดินทางสายการเมือง เริ่มจากได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีเมืองบัฟฟาโลในปี 1881 และต่อมาเป็นผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในปี 1884 คลีฟแลนด์ในฐานะผู้สมัครจากพรรคเดโมแคตรก็ได้รับชัยชนะ ก้าวขึ้นเป็นประธานธิบดีสหรัฐอเมริกา ในสมัยของเขานั้น เขาดำเนินนโยบายที่ห้ามให้สิทธิพิเศษแก่กลุ่มเศรษฐกิจใด ๆ
เช่น คลีฟแลนด์ใช้สิทธิยับยั้งร่างกฎหมายเพื่อจัดสรรเงิน 10,000 ดอลลาร์ ที่จะนำไปแจกจ่ายเป็นค่าเมล็ดพืชให้แก่เกษตรกรที่ประสบภัยแล้งในรัฐเท็กซัส เขายังใช้สิทธิยับยั้งร่างกฎหมายเงินบำนาญส่วนบุคคลหลายฉบับแก่ทหารผ่านศึกในช่วงสงครามกลางเมือง รวมถึงตรากฎหมายการค้าระหว่างรัฐ
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งถัดมาในปี 1888 คลีฟแลนด์พ่ายแพ้ให้กับ เบนจามิน แฮร์ริสัน (Benjamin Harrison) จากพรรคริพับลิกัน แม้ว่าคลีฟแลนด์จะชนะด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่ (Popular vote) แต่เขาได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral vote) น้อยกว่าแฮร์ริสัน
ทว่าในการเลือกตั้งในปี 1892 เป็นศึกล้างตาของคลีฟแลนด์อีกครั้ง และก็เป็นฝ่ายแฮร์ริสันที่ต้องพ่ายแพ้ ส่งผลให้คลีฟแลนด์กลับเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย ดำรงตำแหน่งไปจนถึงปี 1897
คลีฟแลนด์จึงถือเป็นประธานาธิบดีคนแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา ที่กลับเข้าสู่ทำเนียบขาวโดยต้อง “เว้นวรรค” ไป 4 ปี
ขณะที่ทรัมป์ชนะเลือกตั้งในปี 2024 นี้ ก็ถือว่าเขาเป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ที่ดำรงตำแหน่งไม่ติดต่อกัน ต้อง “เว้นวรรค” ไป 4 ปี เช่นกัน
หมายเหตุ : การนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง ยึดจากการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งการสาบานตนมักจัดขึ้นในเดือนมกราคมของปีถัดไปที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี
อ่านเพิ่มเติม :
- ทำไมประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาถึงดำรงตำแหน่งได้เพียง 2 สมัย?
- 8 ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ถึงแก่อสัญกรรมในระหว่างดำรงตำแหน่ง
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
Grover Cleveland The 22nd and 24th President of the United States. (2024). Accessed 6 November 2024, from https://www.whitehouse.gov/about-the-white-house/presidents/grover-cleveland/
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2567