ผู้เขียน | ธนกฤต ก้องเวหา |
---|---|
เผยแพร่ |
“สมเด็จพระยอดฟ้า” พระราชโอรสในสมเด็จพระไชยราชาธิราช พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ประสูติแต่ท้าวศรีสุดาจันทร์ ทรงครองราชย์ช่วงสั้น ๆ ระหว่างแผ่นดินพระราชบิดากับ “สามีใหม่” ของพระราชมารดา คือ “ขุนวรวงศาธิราช”
ภายหลังสมเด็จพระไชยราชาธิราชสวรรคต พระยอดฟ้า ซึ่งเป็นโอรสองค์โตจึงถูกอัญเชิญขึ้นเถลิงราชย์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ พงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า
“ฝ่ายสมณพราหมณาจารย์มุขมนตรีกวีราชนักปราชญ์บัณฑิต โหราราชครูสโมสรพร้อมกัน ประชุมเชิญพระยอดฟ้าพระชนม์ได้ ๑๑ พระวษา เสด็จผ่านพิภพถวัลยราช ประเพณีสืบศรีสุริยวงศ์อยุธยาต่อไป แล้วนางพระยาแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ ผู้เป็นสมเด็จพระชนนี ช่วยทำนุบำรุงประคองราชการแผ่นดิน ในปีนั้นแผ่นดินไหว”
ดังนั้น “แม่หยัว” ท้าวศรีสุดาจันทร์ซึ่งเป็น “แม่” จึงทำหน้าที่คล้ายผู้สำเร็จราชการแทนพระราชโอรส เท่ากับมีอำนาจควบคุมกรุงศรีอยุธยาอยู่ระยะหนึ่ง
ความน่าสนใจในแผ่นดินพระยอดฟ้าคือ พงศาวดารกรุงศรีฯ ได้เล่าถึงนิมิตอุบาทว์ หรือเหตุการณ์ประหลาดผิดธรรมชาติ คล้ายลางบอกเหตุในสมัยของยุวกษัตริย์พระองค์นี้ ดังว่า
“ครั้นศักราช ๘๙๐ ปีชวดสัมฤทธิ์ (พ.ศ. ๒๐๗๑) ณ วันเสาร์ เดือน ๕ ขึ้น ๕ ค่ำ สมเด็จพระยอดฟ้าเสด็จออกสนามพร้อมด้วยหมู่มุขอำมาตย์มนตรีเฝ้าพระบาทยุคลเป็นอันมาก ดำรัสสั่งให้เอาช้างบำรู (บำรุง, ตกแต่ง – ผู้เขียน) งากัน บังเกิดทุจริตนิมิต งาช้างพระยาไฟนั้นหักเป็น ๓ ท่อน ครั้นเพลาค่ำช้างต้นพระฉัตทันต์ไหลร้องเป็นเสียงคนร้องไห้ ประการหนึ่งประตูไพชยนต์ร้องเป็นอุบาทว์”
กล่าวคือ ช้างนาม “พระยาไฟ” อยู่ ๆ ก็งาหักเป็น 3 ท่อน ช้างต้น (ช้างส่วนพระองค์) นาม “พระฉัตทันต์” ร้องเป็นเสียงคนร้องไห้ และประตูพระที่นั่งไพชยนต์ยังส่งเสียงประหลาดด้วย
แม้ไม่แจ้งว่านิมิตอุบาทว์เหล่านี้บ่งบอกอะไรกันแน่ แต่เป็นที่เข้าใจว่า ตลอดการครองราชย์ของพระยอดฟ้านั้น แม่หยัวศรีสุดาจันทร์สามารถควบคุมกิจการบ้านเมืองได้อย่างสงบเรียบร้อย
กระทั่งพระนางรับเอา “พันบุตรศรีเทพ” (ต่อมาคือ ขุนวรวงศาธิราช) เข้าวังหลวง และจัดแจงให้ชายคนรักรายนี้ไต่เต้าขึ้นสู่การเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ภารกิจถัดมาจึงเป็นการ “กำจัด” พระยอดฟ้า อดีตยุวกษัตริย์ ศัตรูทางการเมืองพระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่ ดังความในพงศาวดารว่า
“ครั้นศักราช ๘๙๑ ปีฉลูศก (พ.ศ. ๒๐๗๒) ณ วันอาทิตย์ เดือน ๘ ขึ้น ๕ ค่ำ ขุนวรวงศาธิราชเจ้าแผ่นดิน คิดกับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ ให้เอาพระยอดฟ้าไปประหารชีวิตเสีย ณ วัดโคกพระยา แต่พระศรีสินน้องชาย พระชนม์ได้ ๗ พรรษานั้นเลี้ยงไว้ สมเด็จพระยอดฟ้าอยู่ในราชสมบัติปีกับ ๒ เดือน”
อ่านเพิ่มเติม :
- มรณกรรม 5 “ยุวกษัตริย์” เหยื่อการแย่งชิงอำนาจแห่งกรุงศรีอยุธยา!
- “ท้าวศรีสุดาจันทร์” คบชู้ ลอบสังวาสกับข้าหลวงในวัง ยกตำแหน่งให้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน?
- “ขุนวรวงศาธิราช” พระสวามี “ท้าวศรีสุดาจันทร์” ที่ชนชั้นเจ้านายไม่นับเป็น “กษัตริย์” แห่งอยุธยา
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ ๖๔ พงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม). (2479). กรุงเทพฯ :โสภณพิพรรฒธนากร. พิมพ์ในงานปลงศพ คุณหญิงปฏิภาณพิเศษ (ลมุน อมาตยกุล) ณ วัดประยูรวงศาวาส.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2567