
ผู้เขียน | กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม |
---|---|
เผยแพร่ |
คำว่า มรสุม ลมประจำฤดูของประเทศไทย คำนี้มีที่มาจากไหน?
คำศัพท์ในข่าวพยากรณ์อากาศที่มักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ได้ยินได้เห็นตลอดทั้งปีนั่นก็คือคำว่า มรสุม หรือลมประจำฤดูของประเทศไทย ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิดคือ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
มรสุมเกิดจากความแตกต่างกันระหว่างอุณหภูมิพื้นทวีปกับพื้นสมุทร ในฤดูหนาว อุณหภูมิพื้นทวีปเย็นกว่าอุณหภูมิของน้ำในพื้นสมุทร อากาศเหนือพื้นสมุทรที่มีอุณหภูมิสูงกว่าจึงลอยตัวขึ้นสู่ด้านบน อากาศเหนือพื้นทวีปซึ่งเย็นกว่าก็จะไหลไปแทนที่ ทำให้เกิดเป็นลมพัดออกจากพื้นทวีป เรียก “มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ” เกิดขึ้นประมาณกลางเดือนตุลาคมจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์
ทางกลับกัน ในฤดูร้อน อุณหภูมิพื้นทวีปร้อนกว่าอุณหภูมิของน้ำในพื้นสมุทร อากาศเหนือพื้นทวีปที่มีอุณหภูมิสูงกว่าจึงลอยตัวขึ้นสู่ด้านบน อากาศเหนือพื้นสมุทรซึ่งเย็นกว่าก็จะไหลไปแทนที่ ทำให้เกิดเป็นลมพัดเข้าหาพื้นทวีป เรียก “มรสุมตะวันตกเฉียงใต้” เกิดขึ้นประมาณกลางเดือนพฤษภาคมจนถึงกลางเดือนตุลาคม
คำว่า มรสุม แท้จริงแล้วไม่ใช่คำไทยแท้ แต่คำนี้เพี้ยนมาจากคำว่า Mausim หรือ Mausam ในภาษาอาหรับ ซึ่งแปลว่า ลมประจำฤดู

ต้นเค้าอันเก่าแก่ของคำนี้ได้รับการบัญญัติโดย al-Masʿūdī (ค.ศ. 893-956) นักประวัติศาสตร์และนักผจญภัยชาวอาหรับ ที่มีฉายาว่า “เฮโรโดตัสแห่งอาหรับ” (Herodotus of the Arabs) ซึ่งเคยกล่าวถึงการใช้มรสุมสำหรับการเดินเรือระหว่างแอฟริกา อาหรับ อินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มรสุมจึงเป็นที่รู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดีของชนชาติต่างๆ โดยรอบมหาสมุทรอินเดีย จนเมื่อโปรตุเกสชาวยุโรปชาติแรกเดินทางมายังดินแดนแถบนี้ พวกเขาก็ต้องอาศัยมรสุมสำหรับเดินเรือเช่นกัน พวกเขาจึงรับเอาคำว่า Mausim ไปใช้เช่นเดียวกัน นั่นคือคำว่า Moncàos
และคำว่ามรสุม ในภาษาอังกฤษก็ใช้ว่า Monsoon ซึ่งทั้ง มรสุม Moncàos และ Monsoon ก็ต่างมีที่มาจากภาษาอาหรับ Mausim นั่นเอง
แล้วมรสุมในดินแดนประเทศไทยมีบันทึกไว้ในเอกสารโบราณอย่างไรบ้าง?
ซีมง เดอ ลา ลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์แห่งกรุงศรีอยุธยา บันทึกถึงมรสุมเอาไว้ว่า
“มรสุม
ฤดูหนาวของสยามนั้นเป็นหน้าแล้งอากาศแห้ง และฤดูร้อนของสยามฝนตกชุก ไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่าบ้านเมืองในเขตโซนร้อนนั้น คงจะไม่เป็นที่น่าอยู่อาศัยเป็นแน่ ดังที่คนโบราณเชื่อกันว่าถ้าปราศจากเสียซึ่งเทวานุภาพอันประเสริฐนี้ โดยบันดาลให้ดวงอาทิตย์นำมาซึ่งเมฆและฝน และลมก็พัดมาอยู่มิได้ขาดจากทางขั้วโลกใดโลกหนึ่งเป็นนิจสิน ในขณะดวงอาทิตย์โคจรไปสถิตอยู่ในฟากตรงกันข้าม
ฉะนั้นในฤดูหนาวของสยาม ดวงอาทิตย์อยู่ทางทิศใต้ของเส้นศูนย์สูตรหรือแถบขั้วโลกด้านอันตาร์กติค ก็จะมีลมเหนือพัดโชยมาทำให้อากาศเย็นสดชื่น ในฤดูร้อนเมื่อดวงอาทิตย์สถิตเหนือเส้นศูนย์สูตรคือตะวันตรงหัวของชาวสยาม ลมทิศใต้ก็จะพัดผ่านมาชักให้ฝนตกติดต่อกัน หรือว่ากันอย่างที่สุดฤดูกาลก็ได้เปลี่ยนเป็นหน้าฝนไป จนทำให้คนเป็นอันมากสนเท่ห์ว่า ควรจะเรียกหน้าฝนว่าเป็นฤดูหนาวของสยามได้ดอกกระมัง
อาการที่ลมประจำโลกเป็นอยู่เช่นว่านี้แลที่ชาวปอรตุเกศเรียกว่า มองเซาส์ (Moncàos) แล้วเรานำมาใช้เรียก มูซอง (Mouconsmotiones aëris) ตามที่ Ozorius หลวงพ่อมาฟเฟ เรียก และข้อนี้เองเป็นสาเหตุทำให้เรือกำปั่นเข้าถึงสันดอนปากน้ำสยามได้โดยยาก ในระยะหกเดือนที่มีมรสุมพัดมาจากทิศเหนือ และยากที่จะออกจากปากน้ำในระยะหกเดือนที่มีมรสุมพัดมาจากทิศใต้…”

มรสุมจึงเป็นลมประจำฤดูที่สำคัญต่อการเดินทางและการค้าขายของดินแดนแถบนี้มาตั้งแต่อดีต สอดคล้องกับบันทึกของ นิโกลาส์ แชร์แวส บาทหลวงฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์อีกเช่นกัน ที่กล่าวถึงความสำคัญของมรสุมไว้ว่า
“ฤดูที่มีลมพัดมาจากทางทิศใต้นั้น เป็นฤดูที่อำนวยประโยชน์แก่การเดินเรือเข้ามาสู่ท่าเรือในประเทศสยามมาก ซึ่งถ้าขาดลมนี้เสียแล้ว ลางทีจะต้องลอยลำอยู่กลางทะเลตั้ง 2-3 เดือน โดยที่ยังเข้าฝั่งไม่ได้…”
อ่านเพิ่มเติม :
- 27 สิงหาคม 2426 ภูเขาไฟ “กรากาตัว” ระเบิด ได้ยินถึงอยุธยา สะเทือนถึงยุโรป
- คลื่นสึนามิเกิดขึ้นครั้งแรก(ที่มีบันทึกไว้)คือเมื่อ 3,600 ปีก่อนที่ทะเลเมติเตอร์เรเนียน
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
มองซิเออร์ เดอ ลาลูแบร์ เขียน. สันต์ ท. โกมลบุตร แปล. (2548). จดหมายเหตุ ลา ลูแบร์ ราชอาณาจักรสยาม. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี : ศรีปัญญา.
นิโกลาส์ แชรแวส เขียน, สันต์ ท. โกมลบุตร แปล. (2550). “ประวัติศาสตร์ธรรมชาติและการเมืองแห่งราชอาณาจักรสยาม (ในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช). พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี : ศรีปัญญา.
กรมอุตุนิยมวิทยา. (2567). ลมมรสุม. เข้าถึงเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567, จาก https://tmd.go.th/info/%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A1
Chandrakala M. (2021). Monsoons – The Lifeline of the Indian Subcontinent. Accessed 16 September 2024, from https://blog.indicinspirations.com/monsoons-explained-through-the-ages/
John A. Haywood. (2024). al-Masʿūdī. Accessed 16 September 2024, from https://www.britannica.com/biography/al-Masudi
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 16 กันยายน 2567