ชาติตะวันตกใด? ที่เข้ามาตั้ง “บริษัทอินเดียตะวันออก” ในเอเชีย 

บริษัทอินเดียตะวันออก
สถานการค้าของ VOC ในเบงกอล ( ภาพจากwikipedia.org)

“บริษัทอินเดียตะวันออก” เป็นชื่อกิจการการค้าของบรรดาชาติตะวันตก ที่เข้ามาในทวีปเอเชีย พร้อมกับระบบอาณานิคมของตะวันตก เพื่อซื้อสินค้าท้องถิ่น เช่น เครื่องเทศต่างๆ, ไม้หอม, หนังสัตว์ ฯลฯ กลับไปทำกำไรในตลาดปลายทางในทวีปยุโรป

บริษัทอินเดียตะวันออก ในเอเชียของชาติใด?

บริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ (East India Company หรือ EIC) เข้ามาใน ค.ศ. 1600 (พ.ศ. 2143) ปักหลักอยู่ที่อินเดีย เพื่อควบคุมการค้าทั้งหมดของอังกฤษในเขตสุวรรณภูมิทั้งภูมิภาค ครอบคลุม อาเจะห์ อยุธยา มะละกา บอร์เนียว และเซลีเบส

ภายหลังเมื่อฮอลันดาเข้ามาทำการค้า จึงเกิดปัญหาพื้นที่ผลประโยชน์ทับซ้อน ทั้ง 2 ชาติจึงทำข้อตกลงกันใน ค.ศ. 1824 (พ.ศ. 2367) โดยอังกฤษยอมรับอิทธิของฮอลันดาเหนือหมู่เกาะอินโดนีเซียทั้งหมด และฮอลันดายอมยกคาบสมุทรมะละกาให้เป็นเขตอิทธิพลของอังกฤษ

EIC มีงานล้นมือ แต่ไม่มีอำนาจพอจะควบคุมสถานการณ์ร้ายแรงในพื้นที่ที่ชาวพื้นเมืองก่อขึ้น ตัวอย่างเช่น การกบฏในอินเดีย เมื่อ ค.ศ. 1858 (พ.ศ. 2401) รัฐบาลอังกฤษเข้าควบคุมสถานการณ์ และปกป้องผลประโยชน์ของคนอังกฤษ

หลังปราบกบฏสำเร็จ รัฐบาลตัดสินใจยกเลิก EIC ที่ดำเนินกิจการมา 257 ปี โดยควบรวมเข้ากับกิจการในกระทรวงอาณานิคมของอังกฤษ แล้วตั้งชื่อเฉพาะกิจว่า “กระทรวงอินเดีย”

เรือของบริษัท EIC ของอังกฤษ ภาพวาดเมื่อ ค.ศ. 1683

บริษัทดัตช์อินเดียตะวันออก (Vereenigde Oostindische Compagnie หรือ VOC) ฮอลันดาเป็นชาติแรกที่ประสบความสำเร็จในการตั้งบริษัทพ่อค้าเอกชน และทำงานอย่างมีอิสระจากการควบคุมของรัฐบาลฮอลันดาในยุโรป เริ่มดำเนินการเป็นชาติแรกจากตะวันตกใน ค.ศ. 1602 (พ.ศ. 2145)

ฮอลันดาแซงหน้าโปรตุเกส (ที่มุ่งผูกขาดการค้าเครื่องเทศต่างๆ) อย่างง่ายดาย ด้วยการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับคนพื้นเมือง มุ่งทำการค้าเครื่องเทศเพียงอย่างเดียว ไม่ใช้นโยบายผูกขาดแบบรัฐ และไม่กดดันให้คนท้องถิ่นเข้ารีตนับถือคริสต์แบบโปรตุเกสและสเปน ทำให้ฮอลันดามีอิทธิพลเหนือช่องแคบมะละกาและช่องแคบซุนดาเป็นเวลายาวนานเกือบ 200 ปี

อย่างไรก็ตาม อำนาจของฮอลันดาอ่อนกำลังลงเมื่อพ่ายแพ้สงคราม และตกอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสในทวีปยุโรป

บริษัทดัตช์อินเดียตะวันออก
ชาวพื้นเมืองอารากันขายทาสให้กับบริษัทดัตช์อินเดียตะวันออก ภาพวาดเมื่อ ค.ศ. 1663

บริษัทอินเดียตะวันออกของฝรั่งเศส (Compagnie française des Indes Orientales) จัดตั้งขึ้นในรัชกาลพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เมื่อ ค.ศ. 1664 (พ.ศ. 2207) โดยรัฐบาลฝรั่งเศส เพื่อค้าขายแข่งกับอังกฤษและฮอลันดา

แม้จะมาทีหลัง 2 ชาติข้างต้น แต่ฝรั่งเศสก็สามารถสร้างสถานีการค้าตลอดแนวชายฝั่งของอินเดียทั้งหมดที่เมืองสุรัต, พอนดิเชอร์รี, มาสุลิปะตัม, จันเดอนากอร์, บาลาซอร์ ฯลฯ

เมื่อบริษัทการค้าของฝรั่งเศสเริ่มเติบโต ก็เกิดปัญหาขัดผลประโยชน์กัน โดยเฉพาะกับประเทศอังกฤษ แต่รัฐบาลทั้ง 2 ชาติก็สามารถหาทางออกร่วมกัน ด้วยสนธิสัญญา AIX-LA-CHAPELLE ค.ศ. 1748 (พ.ศ. 2291) เพื่อมิให้ขัดผลประโยชน์กันเองในเขตพื้นที่ทับซ้อน

บริษัทการค้าฝรั่งเศสอ่อนแอลงไปเองใน ค.ศ. 1789 (พ.ศ. 2332) เมื่อเกิดการปฏิวัติใหญ่ในฝรั่งเศส นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองและโค่นล้มราชบัลลังก์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ส่งผลกระทบต่อนโยบายต่างประเทศ รวมถึงบริษัทการค้าในต่างแดน

แม้บริษัทการค้าของแต่ละชาติจะไม่ได้ร่วมมือกัน แต่เมื่อเกิดขัดผลประโยชน์และปัญหาการเมืองภายในก็สามารถรอมชอมตกลงกันได้ การจัดสรรผลประโยชน์โดยบริษัทการค้า จึงถูกใช้เป็นธุรกิจบังหน้าการตั้งอาณานิคมของชาติตะวันตก 

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

ไกรฤกษ์ นานา. “นักจัดระเบียบโลกทำนายสยามกับอนาคตของอาเซียน เมื่อ 142 ปีมาแล้ว” ใน, ศิลปวัฒนธรรม มีนาคม 2559.

<http://www.cuti.chula.ac.th/triresearch/malau/malau.html>


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 10 กันยาน 2567