อิรักเผาบ่อน้ำมัน ต้นเหตุ “กัลฟ์ วอร์ ซินโดรม” กระทบคนกว่า 3 แสนชีวิต ในสงครามอ่าวเปอร์เซีย

อิรักเผาบ่อน้ำมัน อิรัก คูเวต สงครามอ่าว สงครามอ่าวเปอร์เซีย
เครื่องบิน F-14A บินผ่านบ่อน้ำมันที่ถูกอิรักเผา (ภาพ: Wikimedia Commons)

สงครามอ่าวเปอร์เซีย (Persian Gulf War) ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 เมื่อ ซัดดัม ฮุสเซน (Saddam Hussein) ประธานาธิบดีอิรักในขณะนั้น สั่งกองทัพบุกและยึดครองคูเวต เพื่อครอบครองทรัพยากรน้ำมัน และเพื่อขยายอำนาจของอิรักในตะวันออกกลาง สงครามลุกลามกลายเป็นประเด็นระดับโลก ทั้งในมิติการเมือง เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม รวมทั้งสุขภาพ เพราะเกิด “กัลฟ์ วอร์ ซินโดรม” (Gulf War Syndrome) กลุ่มอาการป่วยที่ส่งผลกระทบชีวิตผู้คนกว่า 300,000 ราย สาเหตุจากอิรักเผาบ่อน้ำมัน

อิรักเผาบ่อน้ำมัน สงครามอ่าว สงครามอ่าวเปอร์เซีย อิรัก คูเวต
บ่อน้ำมันในคูเวตที่ถูกเผาช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย (ภาพ: Wikimedia Commons)

“อิรักเผาบ่อน้ำมัน” หายนะครั้งใหญ่แห่งตะวันออกกลาง

แม้สงครามจะยุติลงเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ปี 1991 แต่ช่วงที่อิรักเริ่มถอยกำลังออกจากคูเวต กองกำลังอิรักได้จุดไฟเผาบ่อน้ำมันของคูเวตกว่า 700 บ่อ จากจำนวนทั้งหมดราว 950 บ่อ นับเป็นหายนะครั้งใหญ่ทั้งทางการค้าน้ำมันและสิ่งแวดล้อมเลยก็ว่าได้

การเผาบ่อน้ำมันครั้งนั้นส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมไปทั้งตะวันออกกลาง เกิดกลุ่มควันหนาแน่นปกคลุมทั่วคูเวต ทำให้แสงอาทิตย์ส่องลงมาไม่เต็มที่ อุณหภูมิจึงลดลง

ไฟที่ลามผลาญน้ำมันทำให้สภาวะอากาศเป็นพิษ เกิดการผสมกันระหว่างไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือ “ก๊าซไข่เน่า” เพราะมีกลิ่นเน่าเหม็น กับคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบเลือดในร่างกาย และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลงที่มีกำมะถัน ค่าเขม่าที่วัดได้จึงสูงกว่าค่าปกติถึง 1,000 เท่า

ไม่เพียงคูเวตที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ประเทศใกล้เคียงอย่างบาห์เรนก็โดนหางเลขไปด้วย โดยอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 7 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเย็นกว่าปกติ อีกทั้งเขม่าจากการเผาบ่อน้ำมันยังลอยไกลไปกว่า 965 กิโลเมตร ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศทำให้เกิดฝนกรดไกลถึงทะเลดำและปากีสถาน

บรรดานักดับเพลิงจากหลายประเทศทั่วโลกถูกระดมมาปฏิบัติภารกิจดับไฟที่เผาบ่อน้ำมัน ซึ่งใช้เวลาหลายเดือน กระทั่งเดือนพฤศจิกายน ปี 1991 ไฟในบ่อน้ำมันแห่งสุดท้ายก็มอดลง จากนั้นอุณหภูมิและคุณภาพอากาศก็เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ

ถึงอย่างนั้น สิ่งที่อิรักทำก็ยังคงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอีกนานต่อเนื่องหลายปี

อิรักเผาบ่อน้ำมัน สงครามอ่าว สงครามอ่าวเปอร์เซีย อิรัก คูเวต
บ่อน้ำมันที่ถูกเผาในคูเวต (ภาพ: Wikimedia Commons)

“กัลฟ์ วอร์ ซินโดรม” กลุ่มอาการจากการเผาบ่อน้ำมัน

การที่อิรักเผาบ่อน้ำมันทำให้สารพิษกระจายอยู่ในอากาศ นำสู่กลุ่มอาการป่วยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว

มีรายงานว่า ทหารราว 300,000 นาย จากจำนวนกว่า 700,000 นาย ที่ประจำการในตะวันออกกลาง ช่วง “ปฏิบัติการโล่ทะเลทราย” (Operations Desert Shield) และ “ปฏิบัติการพายุทะเลทราย” (Operation Desert Storm) ในสงครามอ่าวเปอร์เซีย บอกว่า พวกเขามีอาการล้า เครียด ปวดกล้ามเนื้อและข้อต่อ ปวดศีรษะ สูญเสียความทรงจำ รวมถึงมีการตอบสนองทางจิตใจหลังเผชิญเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง (post-traumatic stress reactions)

ช่วงแรก มีการเข้าใจไปว่าอาการเหล่านี้เป็นอาการเจ็บป่วยทางจิต แต่ทหารที่ผ่านสงครามอ่าวเปอร์เซียยืนยันว่า พวกเขาประสบกับอาการป่วยที่ทำให้อ่อนล้า ไร้เรี่ยวแรง อย่างต่อเนื่อง

ท้ายสุด นักวิจัยได้สรุปว่า “กัลฟ์ วอร์ ซินโดรม” น่าจะเกิดจากการสัมผัสสารเคมีในกลุ่มที่เป็นพิษสูง รู้จักในชื่อ “แอนตีโคลิเนสเทอเรส” (anticholinesterase) ที่รบกวนกลไกการทำงานของเซลล์และโมเลกุลของระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทส่วนปลาย

แม้จะผ่านไปนับทศวรรษ แต่อาการเหล่านี้กลับยังคงอยู่ ตามผลการศึกษาของกระทรวงการทหารผ่านศึกสหรัฐ ที่ในปี 2016 พบว่า ทหารผ่านศึกที่ไปรบในสงครามอ่าวเปอร์เซียมีปัญหาสุขภาพแย่กว่าเดิม เมื่อเทียบกับทหารในกองทัพที่ประจำการช่วงเดียวกัน แต่ไม่ได้ไปปฏิบัติภารกิจในสงครามอ่าวเปอร์เซีย

อ่านเพิ่มเติม : 

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


อ้างอิง :

Britannica, The Editors of Encyclopaedia. “Persian Gulf War”. Encyclopedia Britannica, 21 Jul. 2024. Accessed 2 August 2024.

Risha Syal. “‘Gushing oil and roaring fires’: 30 years on Kuwait is still scarred by catastrophic pollution”.The Guardian, 11 Dec. 2021, Accessed 2 August 2024.

“2 ANTICHOLINESTERASES”. National Library of Medicine. Accessed 2 August 2024.


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 2 สิงหาคม 2567