อองซานซูจี ผู้นำประชาธิปไตยเมียนมา เข้าสู่การเมืองตั้งแต่เมื่อไหร่?

อองซานซูจี ผู้นำประชาธิปไตยเมียนมา
อองซานซูจี (ภาพ : UN Photo/Violaine Martin)

ทั่วโลกรู้จัก อองซานซูจี เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ในฐานะผู้นำประชาธิปไตยเมียนมา และในบทบาทประธานพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ที่หลังจากกองทัพพม่าก่อรัฐประหารเมื่อ ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) ก็ถูกควบคุมตัวและต้องโทษคุมขังจนถึงปัจจุบันนี้

เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ผู้นี้ เป็นเสมือนศูนย์รวมจิตใจของผู้สนับสนุนประชาธิปไตยในเมียนมา โลดแล่นในแวดวงการเมืองมาหลายทศวรรษ ซึ่งหากย้อนจุดเริ่มต้นชีวิตเส้นทางการเมืองของเธอ สามารถย้อนไปได้ถึง ค.ศ. 1888 (พ.ศ. 2531) ที่เกิดเหตุการณ์การลุกฮือ “8888”

ผศ. ดร. ลลิตา หาญวงษ์ ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เล่าถึงประเด็นนี้ในผลงานล่าสุด “Hidden Myanmar การต่างประเทศร่วมสมัยและความเคลื่อนไหวของฤๅษีแห่งเอเชีย” (สำนักพิมพ์มติชน) ว่า

ปี 1988 เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบครั้งสำคัญในเมียนมา ต้นเค้าของความรุนแรงก่อตัวขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม เมื่อกลุ่มนักศึกษาจากหลายสถาบันรวมตัวกันที่ย่างกุ้ง เพื่อประท้วงรัฐบาลภายใต้การนำของนายพลเนวิน การเดินขบวนของนักศึกษาได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากประชาชนทั่วไปและพระสงฆ์ จนทำให้การประท้วงขยายตัวออกไปในหลายเมืองทั่วประเทศ

รัฐบาลพรรคโครงการสังคมนิยมพม่า (Burma Socialist Programme Party หรือ BSPP) เลือกปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างรุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต กลายเป็นการจุดชนวนความไม่พอใจ และทำให้เหตุการณ์บานปลายมากขึ้น

“ปลายเดือนกรกฎาคม 1988 นายพลเนวินประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งในรัฐบาลและกองทัพ นับเป็นจุดจบของรัฐบาล BSPP และโครงการวิถีพม่าสู่สังคมนิยมที่สร้างความเสียหายทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมเมียนมาอย่างประเมินค่าไม่ได้” ผศ. ดร. ลลิตา ระบุ

การลาออกของนายพลเนวินไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายลงแต่อย่างใด เพราะประชาชนยังไม่พอใจ และเรียกร้องให้คณะผู้ปกครองทั้งหมดลาออกตามไปด้วย ทั้งยังต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง เพื่อนำเมียนมากลับสู่ระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาโดยเร็ว

กระทั่งวันที่ 8 สิงหาคม ปี 1988 หรือ “8888” กลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวกันชุมนุมใหญ่ในย่างกุ้งเพื่อขับไล่รัฐบาลพม่า ไม่นับอีกหลายแสนคนที่เดินขบวนประท้วงทั่วประเทศ รัฐบาลโต้ตอบด้วยการ “สังหารหมู่” ผู้ชุมนุมจำนวนมาก จากนั้นเกิดเหตุนองเลือดใหญ่อีกครั้งเมื่อวันที่ 18 กันยายน กองทัพพม่าปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง รวมแล้วมีผู้เสียชีวิตหลายพันคน ส่วนผู้ที่ถูกจับกุมก็ถูกทรมานอย่างหนัก

“การปราบปรามที่หนักหน่วงผลักให้นักศึกษาและผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองต้องหนีออกจากย่างกุ้ง และเมืองอื่นๆ เข้าไปในเขตที่กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ควบคุมอยู่ และบางส่วนหนีเข้ามาเคลื่อนไหวในเขตของไทย”

นายพลอองซาน บิดา อองซานซูจี ผู้นำประชาธิปไตยเมียนมา
นายพลอองซาน
อองซานซูจี เข้าสู่การเมืองตั้งแต่เมื่อไหร่?

ในเดือนสิงหาคมปีนั้น บุตรสาววัย 43 ปี ของนายพลอองซาน วีรบุรุษของเมียนมาผู้ล่วงลับ เดินทางกลับมาเยี่ยมมารดาที่ป่วยหนัก และได้รับการทาบทามจากนักเคลื่อนไหวทางการเมือง 4 คน คือ ตินอู, อ่องฉ่วย, จีหม่อง และอ่องจี ให้ขึ้นปราศรัยต่อหน้าประชาชนหลายแสนคนที่มารอฟัง ที่ลานพระมหาเจดีย์ชเวดากอง

การปราศรัยเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ปี 1988 มีเนื้อหาเรียกร้องประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง ทั้งยังกล่าวช่วงหนึ่งด้วยว่า แม้จะแต่งงานกับชาวต่างชาติ และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความรักและความเสียสละที่เธอมีต่อเมียนมาลดลงเลย

“อีกเรื่องหนึ่ง คือ มีหลายคนพูดอยู่เสมอว่า ฉันไม่รู้เรื่องการเมืองพม่าหรอก แต่ปัญหาคือฉันรู้มากเกินไปต่างหาก”

การปราศรัยต่อสาธารณชนครั้งแรกเรียกเสียงปรบมืออย่างกึกก้องจากประชาชนจำนวนมหาศาล และนับแต่นั้นเป็นต้นมา เธอก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์การเรียกร้องประชาธิปไตยในเมียนมาจวบจนทุกวันนี้

อ่านเพิ่มเติม : 

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่


 อ้างอิง :

ลลิตา หาญวงษ์. Hidden Myanmar การต่างประเทศร่วมสมัยและความเคลื่อนไหวของฤๅษีแห่งเอเชีย. กรุงเทพฯ : มติชน, 2567

The Irrawaddy. “The Day Suu Kyi Made Her First Public Address in Myanmar”. Accessed 16th, July, 2024


เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 16 กรกฎาคม 2567